ญาติคาใจ นักธุรกิจหนุ่มดับปริศนา ผิวดำคล้ำผิดปกติเหมือนถูกพิษ ซ้ำเมียเร่งเผาศพ

ญาตินักธุรกิจหนุ่มคาใจ หลังไปหาภรรยาได้เพียง 1 วันแล้วเสียชีวิตปริศนา ขณะที่สภาพศพผ่านไป 3 วัน มีลักษณะดำผิดธรรมชาติ เหมือนถูกวางยาพิษ อีกทั้งก่อนหน้านี้ไม่ถึง 10 วัน เคยถูกลอบยิงแต่รอดชีวิตมาได้



จากกรณีที่นางสาวณัฐปภัษร์ น้องสาวของนายพิชิต นักธุรกิจรายหนึ่ง เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หลังพี่ชายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา ระหว่างกลับไปพบกับภรรยาที่จังหวัดมหาสารคาม โดยสภาพศพพบว่าดำคล้ำ อย่างมีพิรุธเหมือนถูกวางยาพิษ



อีกทั้งเมื่อวันที่ 8 เมษายน นายพิชิต ได้ถูกคนร้ายขี่มอเตอร์ไซด์ตามประกบยิง ขณะขับรถตู้กลับบ้าน บริเวณประดิษฐ์มนูญธรรม ซึ่งทั้ง 2 เหตุการณ์ทำให้คนในครอบครัวเชื่อว่านายพิชิตตายอย่างมีเงื่อนงำนั้น



นางสาวณัฐปภัษร์ เปิดเผยว่าตอนนี้ ครอบครัวติดใจสาเหตุการตายของพี่ชาย เพราะจากรูปถ่ายสภาพศพของพี่ชายซึ่งถ่ายไว้วันที่ 19 เมษายน ก่อนจะทำการเผา ต่างจากศพโดยทั่วไปที่เสียชีวิตประมาณ 3 วัน



ก่อนเกิดเหตุคือวันที่ 15 เมษายน พี่ชายของตน ได้เดินทางไปจังหวัดมหาสารคาม เพื่อไปหาภรรยากับลูก หลังทั้งคุ่ได้แยกกันอยู่ตั้งแต่ปีที่แล้ว จนกระทั่งตอนเช้าวันที่ 16 เมษายน ลูกสาวของพี่ชายได้โทรศัพท์มาหาแม่ของตนว่าพี่ชายตนเสียชีวิตอยู่ที่หน้าบ้าน



แม่ของตนจึงเดินทางไปร่วมงานศพ และอยากจะส่งศพไปชันสูตร เพราะพี่ชายเป็นคนแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว แต่พี่สะใภ้กลับให้เร่งรีบเผาศพ โดยบอกว่าเป็นการตายโหง



ต่อมาวันที่ 17 เมษายน ได้มีการนำร่างของพี่ชายออกจากโลงเย็นอันเดิมเพื่อย้ายไปที่โรงเย็นอันใหม่ โดยตอนนั้นแม่ของตนเห็นว่าร่างของพี่ชายคล้ำอย่างผิดปกติ แต่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้



จนวันที่ 19 เมษายน ได้มีการเปิดโลงพี่ชายเพื่อจะทำการเผา พบว่าศพพี่ชายคล้ำและดำมากขึ้นกว่าเดิม จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ทั้งนี้พี่ชายของตนทำประกันชีวิตไว้หลายฉบับ และมีทรัพย์สินรวมแล้วกว่า 40 ล้านบาท



ขณะที่แม่ผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่าลูกสะใภ้บอกว่าไม่ต้องนำศพลูกชายไปชันสูตร เนื่องจากเกรงจะเจอสารพิษ จะทำให้เสียสิทธิประโยชน์จากประกันชีวิต



ทนายเดชา เปิดเผยว่าคดีนี้มีพิรุธ 3 ประเด็น ประเด็นแรกคือ คนตายถูกลอบยิงมาก่อน ประเด็นที่สองคือ สภาพศพดำคล้ำผิดปกติ และประเด็นสุดท้ายคือไม่มีการชันสูตรพลิกศพ

คดีนี้เทียบเคียงกับคดีแอมไซยาไนต์ ซึ่งครอบครัวสงสัยว่าเป็นการฆาตกรรมสามารถแจ้งตำรวจให้สืบสวนได้ และตำรวจต้องนำศพส่งชันสูตรเพราะเป็นการตายผิดธรรมชาติ



รองศาสตราจารย์นายแพทย์วีระศักดิ์ จรัสชัยศรี แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนิติเวช มศว. เปิดเผยว่าจากรูปศพที่เห็นถือว่าผิดปกติ ซึ่งศพลักษณะนี้เท่าที่พบคืออาจถูกสารพิษ หรือ ถูกรัดคอ



ล่าสุดมีรายงานว่าผู้บัญชาการตำรวจนครบาล มีคำสั่งให้ตำรวจ ศูนย์สืบสวนฯ บช.น. เร่งตรวจสอบเหตุการณ์ลอบยิงผู้ตายเมื่อวันที่ 8 เมษายนแล้ว หลังขณะนี้ยังจับคนร้ายไม่ได้

ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/lMZCNHTo0ik