สังคม

พ.ต.ท. รับเอกสารถอนหมายจับ 'สว.ทรงเอ' เป็นของจริง ผบ.ตร. สั่งสอบ ยันไม่ถูกแทรกแซงคดี

โดย nut_p

12 มี.ค. 2566

207 views

หลังมีเอกสารชี้แจงของสารวัตรสืบสวน สน.พญาไท หลุดออกมากรณีขอศาลออกหมายจับ 'สมาชิกวุฒิสภา' คนหนึ่ง เมื่อปลายปี 2565 เพราะมีส่วนเกี่ยวข้องกับนักธุรกิจชาวเมียนมา 'ทุนมินลัต' ผู้ต้องหาคดียาเสพติดและฟอกเงินที่โดนจับในไทย แต่ไม่ถึงครึ่งวันก็ต้องถอนหมายจับ ทีมข่าวได้คุยกับ พันตำรวจโท นายนี้ ยืนยันเอกสารเป็นของจริง เนื้อหาก็เป็นความจริง



เอกสารดังกล่าวมีความยาว 7 แผ่น และชี้แจงถึง 27 ข้อ โดยมีใจความสำคัญอธิบายถึงความผิดปกติในการขอหมายค้น และหมายจับ 'สมาชิกวุฒิสภา' คนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับ นาย ทุน มินลัต ผู้ต้องหาในคดียาเสพติดและการฟอกเงิน ที่ถูกตำรวจจับเมื่อเดือนกันยายน 2565 โดยมีข้อความช่วงหนึ่งระบุว่า "มีการอ้างว่าเป็นบุคคลสำคัญ หากไม่เพิกถอนเกรงว่าผู้ใหญ่จะไม่พอใจ" ซึ่งตัวเอกสารดังกล่าว ลงวันที่ 5 มีนาคม 2566



ทีมข่าวได้สอบถามไปยัง พันตำรวจโท มานะพงษ์ วงศ์พิวัฒน์ สารวัตรสืบสวน สน.พญาไท ถึงที่มาของเอกสาร ซึ่งเจ้าตัวขอไม่ให้สัมภาษณ์ แต่ยอมรับว่า เป็นเอกสารของจริงที่เขาทำเมื่อวันที่ 5 มีนาคม เพราะตุลาการศาลยุติธรรมขอให้ทำเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริง เพื่อใช้เป็นพยานหลักฐาน โดยรายละเอียดทั้งหมดที่เป็นไปตามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เมื่อทีมข่าวถามว่า "นายตำรวจระดับสูง" ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ติดต่อมาขอให้ตัดพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับสมาชิกวุฒิสภาคนนี้ออก คือใคร สารวัตร มานะพงษ์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม



พร้อมทั้งบอกด้วยว่า "ตลอดชีวิตของการรับราชการ ทั้งตัวเขา และคนรอบตัวก็ยังไม่เคยเจอกรณีการขอหมายจับ และให้ถอนหมายจับในวันเดียวกัน" ส่วนเอกสารที่หลุดออกมาก็ไม่ทราบว่าหลุดมาจากใคร เพราะเขาส่งไปที่ศาลแล้ว



สำหรับการโยกย้ายเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เป็นเพราะการออกหมายจับสมาชิกวุฒิสภาคนนี้หรือไม่ สารวัตรมานะพงษ์ บอกว่า เขารู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น และไม่ใช่แค่เขาที่โดนย้าย บรรดาชุดจับกุมคนอื่นก็โดนย้ายเช่นเดียวกัน



ขณะที่พลตำรวจตรี คมสิทธิ์ รังไสย์ ผู้บังคับการกองกำกับการ 3 กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ชี้แจงว่า พันตำรวจโท มานะพงษ์ ทำสำนวนมาที่ ปส. 2 เรื่อง



เรื่องที่ 1 พันตำรวจโท มานะพงษ์ กล่าวหา นายทุน มิน หลัด กับพวกรวม 10 คน คดีนี้อัยการสูงสุดเข้ามาร่วมเป็นพนักงานสอบสวนด้วย เพราะเป็นความผิดตามกฎหมายไทย ที่ได้กระทำนอกราชอาณาจักร และมีความเห็นสั่งฟ้องผู้ต้องหา 9 ราย



เรื่อง 2 พันตำรวจโท มานะพงษ์ ร้องทุกข์ ให้ดำเนินคดีกับสมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่ง เพราะมีส่วนเชื่อมโยงกับผู้ต้องหากลุ่มแรก ซึ่งคดีนี้อัยการสูงสุดพิจารณาเมื่อวันที่ 26 มกราคมที่ผ่านมาว่า 'เป็นความผิดตามกฎหมายไทยที่ได้กระทำนอกราชอาณาจักร' อัยการจึงเข้ามาร่วมสอบสวนเช่นกัน และสาเหตุที่ยังไม่ออกหมายเรียก สมาชิกวุฒิสภา เพราะพยานหลักฐานในสำนวนหลายอย่างยังไม่สมบูรณ์ โดยเฉพาะเอกสารกว่า 1 หมื่นแผ่นที่ต้องแปลเป็นไทย และต้องสอบสวนผู้ต้องหาในสำนวนที่ 1 เพิ่ม



ขณะที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นในเรื่องนี้ว่า รู้สึกเศร้าใจ เพราะเห็นความพยายามของตำรวจที่พยายามทำคดีนี้ แต่กลับไม่สามารถทำตามกฎหมายได้ แต่ที่น่าตกใจคือ มีการกล่าวว่า คนที่ถูกออกหมายจับเป็นคนสำคัญ จึงได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างจากคนทั่วไป ซึ่งถือว่าไม่เหมาะสม พรุ่งนี้ (13 มี.ค.) 13.30 น. จะไปติดตามเรื่องนี้ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด



ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งการให้จเรตำรวจตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว และให้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ตรวจสอบข้อเท็จจริงและรายงานกลับมาโดยเร็วที่สุด พร้อมยืนยัน คดีนี้ไม่มีใครมาแทรกแซง สั่งการ หรือสั่งเร่งให้ช่วยเหลือผู้หนึ่งผู้ใด



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/PO_Jw687P1E

คุณอาจสนใจ

Related News