‘เพื่อนบ้าน’ แจง ต่อเติมบ้านร้างเพราะขอพื้นที่ไว้กินข้าว ส่วนเอาของไปวางเพราะกลัวโดนฝน

วันที่ 4 ก.ย. 66 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ อาย และ ซัน หลานเจ้าของบ้าน, ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ พร้อมสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ อากู๋เหม เจ้าของบ้าน, นุ คู่กรณี และ พ.ต.ท.เดชาวัสส์ ขันกสิกรรม รองผกก.สอบสวน สน.โคกคราม กรณีดรามา “หลานเจ้าของบ้าน” สุดช็อก บ้านร้าง 30 ปี “อากู๋” มอบให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน หวังจะรีโนเวทเป็นบ้านหลังใหม่ กลับเจอเพื่อนบ้านเอาของเข้าไปอยู่ ต่อเติมโครงเหล็ก เปลี่ยนรั้ว, หน้าต่าง, ชักโครก เข้าไปอาศัยโดยไม่ได้แจ้งเจ้าของบ้าน ซ้ำยังบอกให้จ่ายค่าต่อเติมบ้านให้อีก

“อาย” หลานเจ้าของบ้าน เผยว่า มีแพลนจะแต่งงานปลายปี “อากู๋” จะมอบบ้านให้เป็นของขวัญวันแต่งงาน เป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่ รีโนเวท ขับรถเข้าไปดูบ้าน พบว่าบ้านไม่ได้อยู่ในสภาพเดิม เพื่อนข้างบ้านมีการต่อเติมหลังคา ประตูรั้ว หน้าต่าง ประตูด้านหลังเชื่อมเป็นครัว

ขณะที่ “อากู๋” เจ้าของบ้าน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า “ซื้อบ้านนี้มา 30 ปี ตั้งแต่ 2534 ช่วงแรกๆ ไปดู 10 ปีแรก แต่หลังๆ การงานยุ่ง ไม่ได้ไปดู ผมเกือบจะลืมไปแล้ว เงินค่ารีโนเวทที่เพื่อนบ้านเรียกเก็บ ถ้าเราจะจ่ายต้องเป็นสิ่งที่เราต้องการ มันผิดตั้งแต่แรกที่เขาบุกรุก เขาต้องจ่ายผม เขามาทำลายทรัพย์สินในส่วนเดิม มาบุกบ้านผมอีก ทำให้ทรัพย์เราเสียหาย ของเดิมมันหายไปไหน ที่เขาบอกเก่าแล้วผุแล้ว ประตูรั้ว หน้าต่าง ที่เขาบอกมันเก่า แต่มันเป็นทรัพย์ของผมอ่ะ”

ล่าสุด “นุ” คู่กรณี ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ในช่วงต่อออนไลน์ของรายการโหนกระแส ยอมรับว่าได้มีการต่อเติมบ้านหลังดังกล่าวจริง ตนเป็นเพียงพนักงานของบริษัทผู้รับเหมาที่อยู่ข้างๆ บ้าน แต่มีประสงค์จะซื้อบ้านหลังนี้ด้วยน้ำพักน้ำแรงที่ตนหามาได้ พยายามติดต่อเจ้าของบ้านเพื่อจะขอซื้อไปแล้วแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้

เมื่อ “หนุ่ม กรรชัย” ถามว่า ในเมื่อไม่ใช่บ้านของตนเองเหตุใดถึงไปต่อเติม ผู้รับเหมามีสิทธิ์อะไรเอาของไปวางไว้บ้านเขา

เจ้าตัวชี้แจงว่า “พื้นที่หลังบ้านเขาเราไม่มีสิทธิ์ครอบครองหรอก เราขอ เพราะต้องทานข้าวกลางวัน มันเป็นลานซักล้างโล่งๆ เมื่อก่อนเป็นโพรงหญ้า โครงเหล็กที่ต่อเติม ใช่ๆ ตอนแรกไม่มี เราทำขึ้นมา (หัวเราะ)”

ส่วนกรณีที่มีคลิปชายปริศนาออกมาแฉว่าบ้านร้างหลังดังกล่าวได้มีการแอบเล่นการพนัน “นุ” ปฏิเสธตอบคำถาม พร้อมชี้แจงว่าไม่ขอคุยประเด็นอื่น

เมื่อ “อาย” หลานเจ้าของบ้าน ตั้งคำถามถึงเพื่อนบ้านว่า “มีใครเตือนไหม หรือทุกคนมีความคิดแบบนี้หมด”

ทำให้ “นุ” คู่กรณีชี้แจงตอบกลับมาว่า ตนไม่อยากคุยเรื่องกฎหมาย แต่มีความประสงค์จะซื้อบ้านหลังดังกล่าวด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง ส่วนกรณีที่เจ้าของบ้านแจ้ง 3 ข้อหา ตนก็พร้อมยินดีไปรับทราบข้อกล่าวหา

“ที่บอกครอบครองปรปักษ์ ถ้าพี่อยากทำ พี่ทำได้ แต่พี่ไม่ทำ พี่ไม่อยากได้ของคนอื่นฟรีๆ พี่อยากได้เงินที่พี่เก็บกระเป๋า ซื้อบ้านด้วยตัวของพี่เอง ตอนนี้พี่รื้อของออกให้คุณหมดแล้วด้วย ประตูของอากู๋ อะไรที่อยากได้เดิมๆ พี่ก็ยินดีทำให้ ถ้าอยากได้หน้าต่างเดิมพี่ก็จะไปหามาให้ ถึงแม้ว่าปลวกมันกิน” คู่กรณีชี้แจง...