สังคม

ผัวเสพยาคลั่งทุบตี เมียให้อภัยเพราะรัก จูงลูก 4 ขวบ หาเงินเสียค่าปรับ ให้กลับมาอยู่ด้วยกัน

โดย panisa_p

19 ธ.ค. 2567

88 views

กรณีนายสมเจตน์ อายุ 31 ปี ชาว ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี หลอนยาคลั่งอาละวาดทำร้าย น.ส.นิ่ม อายุ 37 ปี ภรรยา นายชีระศักดิ์ อายุ 41 ปี เจ้าของอพาร์ตเมนต์ เกรงนายสมเจตน์จะนำอาวุธปืนมาใช้ และเป็นอันตรายกับผู้เช่ารายอื่น จึงแจ้งตำรวจเข้าระงับเหตุ ซึ่งนายสมเจตน์ไม่ต่อสู้ขัดขืน เดินออกมามอบตัวกับตำรวจ อ้างเมียมีชู้ จากการค้นห้องพบมีด และประทัดลูกบอล ส่วนอาวุธปืนที่เคยนำมายิงขู่เมีย ได้ส่งคืนเพื่อนแล้ว ตำรวจจึงควบคุมตัวไปตรวจยาเสพติด พบฉี่สีม่วง แจ้งข้อหา เสพยาเสพติด ประพฤติตนวุ่นวาย  ดำเนินคดี ส่วนเมียยกโทษให้เพราะยังรักสามี ไม่แจ้งความผัวทำร้ายร่างกาย เหตุเกิดค่ำวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยธารเลิศ ชุมชนหนองตุ เขตเทศบาลนครอุดรธานี


ความคืบหน้าคดีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่อพาร์ตเมนต์เกิดเหตุ พบนายชีระศักดิ์ อายุ 41 ปี เจ้าของอพาร์ตเมนต์ เล่าว่า นายสมเจตน์พาเมียกับลูกมาเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่รายวัน ต่อมาก็ขอเช่าเป็นรายเดือน 3,500 บาท ซึ่งจ่ายล่วงหน้า 1 เดือน จ่ายค่าประกันห้อง 3,000 บาท ในสัญญา 4 เดือน โดยนายสมเจตน์จะไปขายข้าวกะเพราที่ตลาดรถไฟ  ระยะแรกก็ไม่มีปัญหาอะไร  แต่ระยะหลังเสพยาเสพติด แล้วหลอน เริ่มจะทำร้ายเมีย ระแวงเมียจะมีชู้ ซึ่งพอตนเห็นว่านายสมเจตน์ทำร้ายเมียก็จะเข้าไปช่วยห้ามปราม เคยเห็นนายสมเจตน์ยิงปืน จึงยึดปืนไว้ แต่ยังไม่แจ้งตำรวจ ได้คืนปืนให้ไป  และหลอนหนักถึงขั้นส่งข้อความถึงตนว่า มีผู้ชายเข้ามาในห้อง และก็มาทำร้ายเมียอีก จึงตัดสินใจแจ้งตำรวจ พร้อมกับให้ย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์ให้เร็วที่สุด เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่จะเกิดขึ้นกับตัวเองและผู้เช่ารายอื่น


ส่วน น.ส.นิ่ม และลูกชายวัย 4 ขวบ ได้หายืมเงินมาเสียค่าปรับนายสมเจตน์ที่ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ สภ.เมืองอุดรธานี โดย น.ส.นิ่ม เล่าว่า พบรักกับนายสมเจตน์ที่กรุงเทพ ตอนนั้นนายสมเจตน์ทำงานขับรถโรงงานน้ำอัดลม ส่วนตนเป็นเซลล์ ตนอยู่กินฉันสามีมาได้ 4 ปี ไม่เคยมีปัญหาอะไร เขาเป็นคนอารมณ์ดี ไม่เคยทะเลาะมีปากเสียงถึงขั้นลงไม่ลงมือกับตน ต่อมานายตี๋ชวนลาออกจากงาน กลับมาดูแลป้ากับลุงที่ จ.อุดรธานี เพราะพ่อแม่นายสมเจตน์เสียชีวิตหมดแล้ว ป้ากับลุงเป็นคนเลี้ยงเขามา โดยเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ด้วยกัน ตอนเย็นนายสมเจตน์จะไปขายข้าวกะเพราที่ตลาดรถไฟ แต่ขายไม่ดีทำให้เจ๊ง เพราะมีวัยรุ่นทะเลาะกันบ่อย ทำให้เงินเก็บร่อยหรอ นายสมเจตน์จึงหันไปเสพยาบ้า กัญชา น้ำท่อม พอหลอนก็จะแวงตนมีชู้ และทำร้ายร่างกายตน


ถึงแม้จะโดนสามีทำร้ายประจำก็ยังให้อภัย เพราะรักสามี ไม่ยอมหนีไปไหน เพราะอยากให้ลูกมีพ่อ มีครอบครัวที่อบอุ่น พอสามีเกิดอาการหลอน อาละวาด ตนก็จะทำให้สามีอารมณ์เย็นลง ด้วยการบอกว่า ที่ทนอยู่ทุกวันก็เพราะรัก จะมีผู้หญิงคนไหนทนได้ขนาดนี้ ถ้ามีคนอื่นจริงคงจะหนีไปนานแล้ว ไม่มาทนอยู่แบบนี้หรอก ก็ทำให้สามีเย็นลงและคิดได้ วันนี้หาเงินมาประกันตัวสามี ยอมรับว่ากลัวหาสามีกลับไปเสพและอาละวาดทำร้ายอีก กลัวว่ามันจะรุนแรงขึ้นไปเรื่อยๆ จึงบอกสามีว่าให้อภัยครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าทำร้ายอีกจะขอแยกทาง หลังเสียค่าปรับก็ต้องไปย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์ ซึ่งตนเข้าใจเจ้าของ ต้องเอาความปลอดภัยของผู้เช่าอื่นไว้ก่อน


ด้านตำรวจได้นำตัวนายสมเจตน์ออกจากห้องควบคุมที่ สภ.เมืองอุดรธานี เพื่อไปฟ้องศาล ซึ่งทั้ง 2 ข้อหามีโทษปรับ ผู้สื่อข่าวถามว่านอนหลับหรือไม่ นายสมเจตน์บอกว่าหลับ สำนึกผิดแล้ว สงสารภรรยาที่หาเงินมาเสียค่าปรับ จะไม่ทำอีกแล้ว จากนั้นตำรวจได้อนุญาตให้ น.ส.นิ่ม และลูกชาย ขึ้นรถไปเสียค่าปรับที่ศาลด้วย เพราะ น.ส.นิ่ม ไม่มีรถเดินทางไปที่ศาลแขวงอุดรธานี  

คุณอาจสนใจ

Related News