หนุ่มเทสล่ากราบขอโทษคู่กรณี รู้สึกผิดขับอันตราย ยอมรับทุกข้อกล่าวหา

หนุ่มขับเทสล่ากราบขอโทษคู่กรณี รู้สึกผิดขับอันตราย ยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา หลังเจ้าหน้าที่นำตัวส่งฟ้องศาล

จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “ควายหลุดถนน v1” โพสต์คลิปวิดีโอ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2567 ความยาวประมาณ 3 นาที เป็นรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อเทสล่า สีขาว ขับขี่ในลักษณะปาดซ้ายปาดขวา หน้ารถของผู้ใช้ทางคันอื่น บนทางพิเศษศรีรัช ทราบต่อมาผู้ก่อเหตุคือนายปิติพัฒน์ กาญจนภาณุรัช ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์เป็นจำนวนมาก หลายคนบอกว่าเป็นอันตรายกับผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆ

พนักงานสอบสวน กก.2 บก.จร. จึงแจ้งข้อหาขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น พร้อมยึดรถยนต์คันดังกล่าวไว้เป็นของกลางชั่วคราวจนกว่าศาลจะพิจารณาเสร็จสิ้น โดยนายปิติพัฒน์ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา และปรับข้อหาใบขับขี่สิ้นอายุเป็นพินัย จำนวน 2,000 บาท ก่อนนัดส่งฟ้องต่อศาลแขวงดุสิต

ล่าสุด เวลา 12.00 น. วันที่ 19 พ.ย. 2567 พนักงานสอบสวนนำตัวนายปิติพัฒน์มาส่งฟ้องที่ศาลแขวงดุสิต แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต โดยนายปิติพัฒน์มีความยินดีที่จะให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องดังกล่าว

นายปิติพัฒน์ กล่าวว่า ตนเองร้องขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ประสานกับทางคู่กรณี เพื่ออยากที่จะกราบขอโทษกับคู่กรณีและครอบครัว รู้สึกผิดมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ทางคู่กรณีปฏิเสธที่จะพบ โดยขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ชี้แจงถึงไทม์ไลน์ที่ทางสื่อหรือสังคมเข้าใจผิดว่าตนเองมีเจตนาหลบเลี่ยงความผิด จริงๆ แล้วก่อเหตุเมื่อวันที่ 13 พ.ย. คลิปเริ่มลงวันที่ 14 พ.ย. จากนั้นวันที่ 15 พ.ย.ตนเองมารายงานตัว 16 พ.ย.ได้แอดมิตเข้าโรงบาลเนื่องจากเกิดความเครียด 17 พ.ย.ให้ทนายนำรถส่งมอบตำรวจ 18 พ.ย.เข้ารับทราบข้อกล่าวหา และวันนี้ก็มาศาล ซึ่งทุกขั้นตอนก็เป็นไปตามกระบวนการ

ส่วนสาเหตุที่แสดงพฤติกรรมการขับรถแบบนั้น เพราะมีความเครียด ทะเลาะกับแฟนเรื่องเปิด GPS แล้วบอกทางผิด ซึ่งทางคู่กรณีก็ไม่ได้ทำอะไรให้กับตนเองเลย แต่ตนเองกลับทำกิริยาที่ไม่เหมาะสมแบบนั้น ซึ่งหลังจากที่ลงจากทางด่วนก็รู้สึกผิด แล้วตำหนิตัวเองว่าทำอะไรลงไป

นายปิติพัฒน์ กล่าวต่อว่า อยากจะกราบขอโทษคู่กรณีที่แสดงกิริยาที่เป็นภัยต่อสังคม หลังจากนี้จะไม่แสดงพฤติกรรมดังกล่าวไม่ว่ากับใครทั้งสิ้น หลังจากนี้ปรับตัวใหม่ และกราบขอโทษผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง รถเทสล่าที่มีสีเดียวกัน หรือกลุ่มรถอีวีด้วยกันผู้ใช้รถใช้ถนนทุกคน และยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา