สกัดจับวุ่น! สาวเมาซิ่งเก๋ง ย้อนศรบนทางด่วน ด่ากราด พยายามวิ่งหนีตร.

ประชาชนขับหลบวุ่น สกัดจับสาวเมาซิ่งเก๋ง ย้อนศรบนทางด่วนอโศก ด่ากราด พยายามวิ่งหนีตร.



เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 67 เวลาประมาณ 04.43 น. ได้รับแจ้งจากผู้ใช้ทางพิเศษไม่ประสงค์ออกนาม ว่ามีรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มาสด้า สีดำ ขับรถย้อนทางลงด่วนอโศก 1 มุ่งหน้าต่างระดับมักกะสัน ศูนย์วิทยุการทางพิเศษและศูนย์วิทยุตำรวจ (ด่วนอโศก) จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่การทางพิเศษช่วยกันสกัดจับ



โดยเมื่อย้อนทางมาถึงบริเวณทางขึ้นด่วนเพชรบุรี ได้มีเจ้าหน้าที่ของการทางพิเศษ คือนายเสนีย์ ศรีเจริญสุข พนักงานจราจร 5,น.ส.ชุตินันท์ ทองสุทธิ พนักงานจราจร 5 และพวก ช่วยกันสกัดกั้นไว้ได้ ซึ่งเมื่อตรวจสอบพบผู้ขับขี่คือ น.ส.วันทนีย์ เจริญสุข มีอาการมึนเมา พูดจาไม่รู้เรื่อง ระหว่างเจรจาได้มีปากเสียงด่าทอเจ้าหน้าที่ และมีการยื้อยุดฉุดกระชากกันไปมาระหว่างเจ้าหน้าที่และผู้ต้องหา เพื่อจะวิ่งหลบหนี



ด้วยพื้นที่เกิดหตุเป็นทางพิเศษ มีการสัญจรของรถด้วยความเร็ว จึงได้รีบเชิญตัว น.ส.วันทนีย์ มาที่งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 2 ตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดด้วยเครื่องตรวจวัดระดับแอลกอฮอลจากลมหายใจ ผลการตรวจวัดที่ได้คือ 214 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์



ตรวจสอบกล้องวงปิดบนทางพิเศษ จึงทราบว่า เมื่อเวลาประมาณ 04.35 น. รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อ มาสด้า สีดำ คันดังกล่าว ขับย้อนทางลงอโศก 1 มุ่งหน้าต่างระดับมักกะสัน ในช่องทางซ้ายและหยุดรถ ต่อมาเวลาประมาณ 04.46  น. ได้เปลี่ยนช่องทางมาขับขี่ช่องขวาสุดตลอดเส้นทางตั้งแต่ต่างระดับมักกะสัน ผ่านต่างระดับพญาไท ผ่านทางขึ้นยมราช ผ่านทางขึ้นหัวลำโพง ผ่านต่างระดับบางโคล่ ผ่านราบบ่อนไก่ และมาถูกสกัดกั้นและหยุดรถไว้ได้ที่ ทางขึ้นด่วนเพชรบุรี เมื่อเวลาประมาณ 05.19 น.



โดยตลอดระยะทางมีรถประชาชนสัญจรเป็นจำนวนพอสมควร อีกทั้งยังต้องหักหลบรถยนต์ของผู้ต้องหาเพื่อไม่ให้เฉี่ยวและได้มีเจ้าหน้าที่กู้ภัยการทางพิเศษ ขับรถประกบด้านข้าง เพื่อประชาสัมพันธ์ให้หยุดรถและกลับรถ แต่ผู้ต้องหาก็ยังคงขับต่อเช่นเดิมจนถูกสกัดกั้นในที่สุด  



จากพยานหลักฐานและการกระทำดังกล่าว เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ตามมาตรา ๔๓(๒)และเป็นผู้ขับขี่ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น” พร้อมทั้งแจ้งสิทธิตามกฎหมายให้ผู้ถูกจับทราบ ดำเนินการจับกุมและควบคุมตัวเพื่อนำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป