สลด! ลูกชายหลอนยาหนักอาละวาด ทะเลาะพ่อคว้ามีดฟันดับ

ลูกทรพีคิดว่าพ่อแจ้งตำรวจมาจับลูกที่เสพยาบ้าอยู่ในห้องออกมาทำร้ายร่างกายพ่อก่อนจะใช้มีดทำครัวฟันพ่อตัวเองดับอนาถ


ลูกชายฆ่าพ่อตัวเองโดยใช้มีดทำครัวฟันพ่อตัวเองดับเหตุเกิดที่ ตำบลนาอุดม อ.นิคมคำสรัอย จ.มุกดาหาร ภายในบ้านพบรอยเลือดจำนวนมากผู้ตายถูกฟันเข้าบริเวณกกขาด้านซ้าย ก่อนหน้านั้นลูกชายพึ่งจะได้รับเงิน1หมื่นบาทมาและไปซื้อยามาเสพ 6 เม็ดจนหลอนส่งเสียงดังภายในห้อง


ทำให้เพื่อนร่วมงานที่มาหาที่บ้านเห็นอาการครั้งของลูกชายไม่ปลอดภัยจึงพากันกลับ ขณะที่ผู้พ่อกำลังโทรศัพท์คุยกับหลานเพื่อบอกให้หลานมาทำงานอยู่นั้น นายปมรมวิทย์ อายุ 29 ปีผู้ก่อเหตุลูกชายคิดว่าพ่อนายบุญ อายุ 63 ปีผู้ตายโทรฯแจ้งตำรวจจึงเกิดมีปากเสียงกับพ่อผู้ตายจากนั้นผู้ก่อเหตุได้ตรงปรี่เข้าชกต่อยพ่อ


จากนั้นผู้ก่อเหตุลูกชายยังไม่หนำใจได้วิ่งไปในครัวคว้ามีดทำครัวฟันพ่อเข้าที่บริเวณกกขาด้านซ้ายมือ จากนั้นผู้ตายได้เรียกคนในบ้านให้ออกมาช่วยตนเอง แต่ไม่มีใครกล้าออกมาระงับเหตุ เป็นเหตุให้ผู้ตายเสียเลือดมากจนหมดสติเสียชีวิตคาที่

จากการสอบถามลุงของผู้ตาย เล่าว่าหลานชายได้โทร์ศัพท์ไปบอกกับตนเองว่า นายเปรมวิทย์ อายุ 29 ปี หลานชายและเป็นผู้ก่อเหตุกำลังอาละวาด ตนเองจึงเข้ามาระงับเหตุแต่ไม่ทันได้ระงับเหตุเห็นแต่เพียงนายบุญตุ้ม อายุ 63 ปี เป็นพ่อผู้ก่อเหตุนอนจมกองเลือดอยู่บนเตียงนอนตนเองจึงอุ้มผู้ตายออกมาจากกองเลือดและปั้มหัวใจ แต่เนื่องจากผู้ตายเสียเลือดมากเป็นเหตุให้เสียชีวิต


ด้านภรรยาเล่าว่า ในคืนเกิดเหตุลูกชายหิวข้าวจึงออกไปต้มมาม่ากิน ผู้พ่อจึงบอกว่า จะต้มมาม่าทำไม แม่คั่วลาบเนื้อไว้ให้แล้ว ลูกชายจึงตะโกนบอกพ่อว่าอย่ามาเสือกมึงไม่ใช่พ่อกู จากนั้นลูกชายจึงเตะพัดลมจนฟังและตรงปรีเข้าชกต่อยพ่อและวิ่งเข้าไปในครัวหยิบเอามีดทำครัวฟันเข้าที่กกขาด้านซ้ายเป็นแผลฉกันทำให้เสียเลือดมาก ผู้ตายได้ร้องเรียกให้ตนเองมาช่วยแต่ด้วยความกลัวว่าลูกจะทำร้ายตัวเองจึงไม่กล้าออกมา


ด้านชาวบ้านให้ข้อมูลว่านายเปรมวิทย์ ผู้ก่อเหตุเคยทำร้ายญาติของตนเองจนได้รับบาดเจ็บกลายเป็นผู้พิการจนถึงทุกวันนี้ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ส่งศพผู้เป็นพ่อไปผ่าพิสูจน์ที่โรงพยาบาลส่วนผู้ต้องหาขณะนี้ยังมีอาการเบิร์นจึงสอบสวนยังไม่เสร็จแม่ขึ้นโรงพักเอากางเกงมาให้ลูกเปลี่ยนเนื่องจากกางเกงนุ่งก่อเหตุมีคราบเลือดของพ่อติดจนเมื่อเวลา 14.00 น.ทางเจ้าหน้าที่ได้มอบศพให้ญาตินำกลับไปบําเพ็ญกุศลตามศาสนาต่อไป