เจ้าอาวาส-ชาวบ้านร้อง ‘ทนายอนันต์ชัย’ ถูกช่างโกงเงิน 3 ล้าน สร้างพระธาตุบุญค้ำฟ้า 8 เดือนมีแต่ตอม่อ

เจ้าอาวาสและชาวบ้านร้อง ‘ทนายอนันต์ชัย’ ถูกโกงเงิน 3 ล้าน สร้างพระธาตุบุญค้ำฟ้า ผ่านไป 8 เดือนไม่คืบเห็นแต่ตอม่อและเหล็กกองข้างกำแพงวัด

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 11 ก.ย.67 ที่วัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม ม.4 ต.ระหาน อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร ชาวบ้านได้เดินทางพาผู้สื่อข่าวมาดูสถานที่ในการก่อสร้างพระธาตุบุญค้ำฟ้า ที่ถูกนายช่างผู้รับเหมาเบิกเงินไปกว่า 3 ล้านบาท ผ่านไปนาน 8 เดือน ถูกทิ้งงานเหลือเพียงเสาปูน ทำให้ชาวบ้านญาติโยมที่ร่วมทำบุญสมทบสร้างต่างพากันห่อเหี่ยวใจและกลัวว่าจะไม่ได้เห็นพระธาตุฯ ก่อนตาย เพราะเป็นที่ยืดเหนี่ยวจิตใจเวลามาทำบุญที่วัด บางรายกินไม่ได้นอนไม่หลับ จึงพากันรวมตัวและร้องสื่อมวลชนในพื้นที่

สำหรับพระธาตุบุญค้ำฟ้าจะต้องใช้งบก่อสร้างในเบื้องต้น 5 ล้านบาท โดยเริ่มทำสัญญากับช่างรับเหมาฝีมือรายหนึ่งตั้งแต่วันที่ 27 ม.ค.67 และวันที่ 29 ม.ค.67 หัวหน้าช่างได้ขอเบิกเงินงวดที่ 1 ไป จำนวน 800,000 บาท โดยอ้างว่าไม่มีเงินสำรองในการซื้ออุปกรณ์ และอ้างว่าบริษัทเพิ่งเปิดใหม่ ทางวัดเห็นว่าเป็นช่างที่มีฝีมือดีมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงการ ต่อมาทีมช่างก็ได้เข้ามาเริ่มทำงานในวันที่ 8 ก.พ.67 เพื่อดำเนินงานเจาะเสาเข็มวางฐานจนเสร็จ และก็ได้ขอเบิกเงินงวดที่ 2 จำนวน 800,000 บาท (ในวันที่ 20 ก.พ.67) จากนั้นนายช่างแจ้งกับทางวัดว่าบริเวณก่อสร้างอยู่บนรอยเลื่อนแผ่นดินไหวต้องปรับโครงสร้างเสาเข็มใหม่ จึงขอเบิกเงินเพิ่มอีก 1 ล้านบาท แต่ทางวัดยังขาดปัจจัย จึงขอให้ช่างมาแก้ไขสัญญาใหม่และขยายขอบเขตงานพรัอมระยะเวลาการก่อสร้างออกไปจนถึงช่วงเดือน พ.ย.67 ที่จะมีเงินกฐินมาสมทบ และในสัญญานั้นได้ระบุว่าให้ช่างเบิกเงินตามความคืบหน้าของงานเป็นงวดๆ ซึ่งก็ได้ขอเบิกเงินอีกเป็นงวดที่ 3 จำนวน 700,000 บาท (ในวันที่ 18 มิ.ย.67) โดยอ้างอีกว่าจะนำไปซื้อเหล็กเพราะบริษัทไม่มีเงินทุนสำรอง (เหตุผลที่วัดจำใจต้องจ่ายเพิ่มเพราะอยากจะยกเสาเอกในระหว่างเข้าพรรษาปีนี้ ประกอบกับเจ้าภาพต่างๆ ที่ทำบุญมาก็ทยอยล้มหายตายจากไปทีละคน ทางวัดจึงจำเป็นต้องโอนเงินให้ช่างงวดที่ 3) จากนั้นช่างได้เข้ามาทำงานประมาณ 2 สัปดาห์ เมื่อเจาะเสาเข็มรอบใหม่ใกล้เสร็จ จึงขอเบิกอีกงวดที่ 4 จำนวน 700,000 บาท (ในวันที่ 2 ก.ค.67) หลังรับเงินปรากฏว่านายช่างผู้รับเหมาไม่ได้มาดำเนินการก่อสร้างต่อ ซึ่งทางวัดได้สอบถามว่าจะเริ่มทำต่อเมื่อไหร่ ได้คำตอบว่าอีก 14 วัน รอปูนเซ็ตตัวจะกลับมาทำงานต่อ ปรากฏว่าเมื่อครบกำหนดแล้ว แจ้งวัดกลับมาอีกว่า 24 วันจะมา ซึ่งก็ไม่ได้มาตามนัด

ชาวบ้านเกิดความสงสัยและสอบถามจนมีข้อถกเถียงกันในกลุ่มไลน์ เจ้าอาวาสจึงนัดให้นายช่างและวิศวกรมาชี้แจงในวันที่ 24 ส.ค.67 เพื่อให้ชาวบ้านหายข้อสงสัย ซึ่งในไลฟ์สดได้โต้เถียงถึงความไม่เป็นธรรมและระยะเวลาการก่อสร้างที่ยาวนานเกินไป ขณะนี้เข้าเดือนที่ 8 แล้ว ทำให้ชาวบ้านวิตกกังวลว่าจะถูกหลอกลวง เพราะยอดค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูงถึง 5 ล้านบาท แต่ถูกเบิกเงินไปแล้วเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 3 ล้านบาท ยังไม่รวมค่าโมเดลของพระธาตุบุญค้ำฟ้า ที่เบิกไปแล้ว 150,000 บาท ซึ่งรวมยอดเสียหายทั้งหมด 3,150,000 บาท แต่ได้เพียงเสาเข็มและเหล็กกองอยู่ข้างกำแพงวัด ซึ่งผลการพูดคุยเจรจาวันดังกล่าวได้มีข้อยุติว่าจะนำโมเดลการก่อสร้างมาส่งมอบ (จากเดิมต้องส่งเดือนกุมภาพันธ์ 67) และเข้ามาทำสัญญารอบที่ 3 ภายในวันที่ 10 ก.ย.67 แต่ก็ไม่มาตามนัดจึงตัดสินใจเข้าแจ้งความที่ สภ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร เพื่อดำเนินคดีกับนายอรชุน สระแก้ว อายุ 47 ปี ช่างรับเหมาชื่อดัง พร้อมทั้งขอร้องทุกข์ผ่านผู้สื่อข่าวในจังหวัดกำแพงเพชร ไปยังทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ทนายกองทัพธรรม (ทนายกระดูกเหล็ก) ให้ช่วยเหลือติดตามเนื่องจากเป็นเรื่องที่สะเทือนใจญาติโยมอย่างยิ่งจนร้องห่มร้องไห้ กลัวจะตายก่อนเห็นพระธาตุบุญค้ำฟ้าที่ตนเองร่วมกันสร้าง โดยมีชาวบ้านในหมู่บ้านออกมาทวงถามผู้รับเหมาและวอนขอให้ทนายกระดูกเหล็กเข้ามาช่วยเหลือครั้งนี้

นายอนันต์ ทองดอนเถื่อน อายุ 49 ปี ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 บ้านทุ่งสนุ่นใต้ กล่าวว่า เดิมทีวัดมีการสร้างพระธาตุข้าวเปลือกที่สวยงาม เพื่อทำพิธีประเพณีบุญสู่ขวัญข้าวของหมู่บ้าน มานานกว่า 10 ปี ซึ่งจะต้องใช้ข้าวเปลือกนำมาก่อสร้างให้เป็นเจดีย์และใช้กำลังพลจำนวนมาก แต่เนื่องจากคณะกรรมการผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้านก็ล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา ซึ่งได้ประชุมหารือเพื่อจัดสร้างพระธาตุข้าวเปลือกแบบถาวรโดยใช้ชื่อว่า “พระธาตุบุญค้ำฟ้า” ซึ่งก็ได้แรงทำบุญจากชาวบ้านในวันพระคนละเล็กละน้อยและกองบุญกฐินผ้าป่าในแต่ละปี ซึ่งยอดเงินที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 5 ล้าน จากนั้นได้ว่าจ้างช่างผู้รับเหมาท่านหนึ่งมาสร้างพร้อมกับทำสัญญากันไว้ ขณะนี้ล่วงเลยไป 8 เดือนแล้ว แต่ไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้างเลย โดยคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้านเกิดความกังวลว่าจะเสียชีวิตก่อนที่จะได้ฉลองพระธาตุบุญค้ำฟ้า เพราะเบิกเงินไปกว่า 3 ล้านกว่าบาทแล้ว จึงได้แต่งตั้งตัวแทนวัดแจ้งความเพื่อดำเนินคดีกับช่างผู้รับเหมาดังกล่าว สำหรับวันนี้ได้รวมตัวและฝากผ่านสื่อมวลชนไปถึงทนายอนันต์ชัยให้ช่วยเหลือความทุกข์ใจของชาวบ้านครั้งนี้ด้วย ซึ่งชาวบ้านได้สละทรัพย์เพื่อสมทบทุนสร้างพระธาตุบุญค้ำฟ้าครั้งนี้ก็หวังว่าจะได้กราบบูชาสักครั้งก่อนตาย และเป็นมรดกในทางธรรมสู่รุ่นหลาน

พระมหาอภิชาติ กิตติวรัญญู เจ้าอาวาสวัดทุ่งสนุ่นรัตนาราม กล่าวว่า สมัยก่อนในพื้นที่โดยรอบของวัดชาวบ้านจะเกี่ยวข้าวและแบ่งมาทำเป็นธาตุข้าวเปลือก สืบสานกันมานานกว่า 10 ปี ด้วยความที่ว่าชาวบ้านแก่ชราลงทุกวันโครงสร้างเดิมก็เป็นเหล็กเกิดการทรุดโทรมเสียหาย โดยได้มีมติให้สร้างพระธาตุองค์จริงขึ้นมาให้ชื่อว่า “พระธาตุบุญค้ำฟ้า” ซึ่งได้จัดทำกฐินผ้าป่าเพื่อสมทบทุนในการสร้าง จากนั้นก็ไปเจอช่างฝีมือท่านหนึ่งมีโปรไฟล์ดีที่ทำด้านปฎิมาติมากรรม ซึ่งช่างผู้รับเหมาบอกว่าไม่มีเงินสำรองจ่ายทางวัดจึงควักจ่ายไปก่อน ผ่านไปถึง 7 เดือนก็ยังไม่มีความคืบหน้าในการก่อสร้าง ทำให้เป็นที่กังวลของชาวบ้าน โดยได้ทำการขอเบิกเงินไปกว่า 3,150,000 บาท สุดท้ายได้เรียกมาชี้แจงและไลฟ์สดผ่านเพจของวัดทุ่งสนุ่นจนมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ว่าจะถูกหลอกอย่างแน่นอน พร้อมกันนี้จึงได้ข้อยุติว่าทั้งโมเดลมูลค่า 1.5 แสนบาท และการก่อสร้างรอบใหม่จะเข้ามาทำต่อในวันที่ 10 ก.ย.67 แต่ก็ไม่มาตามสัญญาจึงทำให้ต้องแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งก็ไม่คิดว่าการไว้ใจดังกล่าวจะนำมาถึงความทุกข์ใจของญาติโยมที่ทำบุญ จึงขอให้ท่านผู้รู้อย่างทนายอนันต์ชัยเข้ามาช่วยเหลือทางวัดในเรื่องดังกล่าวด้วย