ระทึก! หนุ่มนักแสดงซีรีส์ดัง ซิ่งเจ็ทสกีพุ่งชนเรือหางยาว ผู้โดยสาร-คนขับเรือ จมน้ำหาย 2 ราย

ระทึกกลางแม่น้ำเจ้าพระยา หนุ่มนักแสดงซีรีส์ชื่อดังพาแฟนสาวและแม่แฟนซ้อนท้ายเจ็ทสกีบิดกลับจากทานข้าว พุ่งชนเรือชาวบ้าน เจ็บ 2 จมน้ำหายอีก 2


วานนี้ (17 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศูนย์รับแจ้งเหตุกู้ชีพปราการ ได้รับแจ้งจากสายด่วน 1669 ว่า มีเรือพุ่งกัน กลางแม่น้ำ มีคนจมน้ำสูญหาย และมีผู้บาดเจ็บ เหตุเกิดกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ระหว่างฝากฝั่งพระรามสาม กับฝากฝั่งพระประแดง จุดเกิดเหตุใกล้เคียงท่าน้ำวัดบางกระเจ้านอก จึงเร่งประสานกำลังอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ไปตรวจสอบ


พอไปถึง พบว่า มีการช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ และนำเรือที่ประสบเหตุเข้ามาจอดที่ท่าน้ำวัดบางกระเจ้านอก อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบว่า จุดจมน้ำสูญหาย ห่างจากท่าน้ำราว 100 เมตร โดยในที่เกิดเหตุพบผู้บาดเจ็บสองราย เป็นหญิงสาว ทราบชื่อต่อมา น.ส.ณัญรี หมิ่นหงดี อายุ 17 ปี และ น.ส.อรลดา ศิลาน่อง อายุ 41 ปี เป็นมารดา ของหญิงสาวคนดังกล่าว ทั้งคู่ได้รับบาดเจ็บ โดยเจ้าหน้าที่นำส่ง รพ.บางปะกอกสมุทรปราการ ซึ่งผู้บาดเจ็บทั้งสองราย นั่งซ้อนท้ายมากับเรือเจ็ทสกีที่ประสบเหตุ


เบื้องต้นพบว่ามีอาการบาดเจ็บฟกซ้ำตามแขนขา และปวดเจ็บตามร่างกาย เจ้าหน้าที่จึงช่วยเหลือนำตัวผู้บาดเจ็บทั้งสอง ส่งโรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ นอกจากนั้นในที่เกิดเหตุยังมีผู้จมน้ำสูญหายอีกสองราย น.ส.ปาริฉัตร หอยหมั้น อายุ 44 ปี เป็นผู้โดยสารเรือที่มากับเรือหางยาว และนาย ประยูร อ่วมปทุม อายุ 64 ปี คนขับเรือโดยสารที่สูญหาย


เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังนักประดาน้ำและผู้เชี่ยวชาญใต้น้ำ วางแผนการค้นหาทั้งสองราย โดยประสานไปยังกรมเจ้าท่าให้แจ้งประสานเรือสินค้าและเรือทุกชนิดให้เพิ่มความระมัดระวังในบริเวณจุดที่เกิดเหตุ ช่วงระหว่างทีมลงค้นหาผู้สูญหาย


ด้าน นาย มงคลสวัสดิ์ เวิ่นกระโทก อายุ 48 ปี ซึ่งเป็นสามีของหญิงซึ่งโดยสารเรือที่จมน้ำสูญหายบอกว่า ตนเองและภรรยา กำลังนั่งเรือข้ามฝาก ซึ่งเป็นเรือหางยาวขนาดเล็ก โดยมีคุณลุงที่รู้จักกันเป็นคนขับพาข้ามฝาก เพื่อจะข้ามจากฝั่งบางกระเจ้านอกไปฝั่งพระราม 3 เพื่อจะไปทำธุระ ระหว่างที่เรือกำลังขับข้ามฝั่ง ปรากฏว่ามีเรือเจ็ทสกีคู่กรณี ขับมาพุ่งชน จนทำให้คนขับเรือและภรรยาของตนเอง กระเด็นตกน้ำ ส่วนตัวเองรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด


สัมภาษณ์กลุ่มขับเรือเจ็ทสกี ช่วงเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ตนเองนำเรือเจ็ทสกีลงที่ ซอย 3 จอมทองติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ลงแม่น้ำจำนวน 5 ลำ รวม 11 คน โดยขับมาเรื่อยๆตามแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางร้านครัวอาหารลุงอู เพื่อมากินข้าว หลังจากกินข้าวเรียบร้อยแล้วมุ่งหน้ากรุงเทพฯเพื่อจะกลับบ้าน เหตุการณ์คือ 2 ลำแรก รวม 5 คน ได้ออกไปก่อน และ 3 ลำที่เหลือได้ขับตามมา แต่มองไม่เห็นกันเพราะทิ้งช่วง ซึ่งตนเองอยู่ช่วงหลัง แต่ชุดที่ประสานงาเรือข้ามฟากเป็นเจ็ตสกีชุดแรก ลักษณะเหมือน 2 ลำ เจ็ทสกีตีคู่กันมา แต่ว่ามองไม่เห็นเรือข้ามฟากโดยสารแทบ ไม่มีไฟเลยคือมองไม่เห็นเรือโดยสาร จึงทำให้เรือเจ็ทสกีที่ซ้อน 3 มาชนประสานงานเรือข้ามฟากได้รับบาดเจ็บ 2 ราย ซึ่งเป็นแฟนสาวและแม่ของแฟนสาว ของดาราหนุ่ม และมีผู้สูญหายตกลงไปภายในน้ำอีก 2 รายซึ่งเป็นผู้โดยสาร 1 ราย ผู้หญิง และผู้ขับเรือข้ามฟากอีก 1 ราย ซึ่งเป็นผู้ชาย


สอบถาม นาย ชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือ คิวพี นักแสดงละครซีรีส์ เรื่อง วุ่นรักนักบิด ซึ่งคิวพีเป็นคนขับเรือเจ็ทสกี ลำที่พุ่งชนเรือหางยาว โดยเจ้าตัวบอกว่า ตนเองขับเจ็ทสกีมากับแฟนสาวและแม่แฟน ซึ่งมาในลำเดียวกันรวมสามคน โดยออกเดินทางมาจาก ย่านจอมทอง กรุงเทพมหานคร เพื่อพากันมาทานข้าวที่ย่านพระประแดง ซึ่งมากันทั้งหมด 11คน ใช้เรือเจ็ทสกี 5 ลำ ส่วนลำของตนเอง มากันทั้งหมด 3 คน หลังจากที่ทานข้าวเสร็จ ตนเองและเพื่อนอีกลำหนึ่ง กำลังพากันขับเจ็ทสกีกลับบ้าน จนมาถึงที่เกิดเหตุ ขณะนั้นค่อนข้างมืด และมองไม่เห็นเรือคู่กรณี ที่ขับข้ามฝากมาจากอีกฝั่ง เพื่อนตนเองอีกลำมาถึง สามารถหักหลบทัน ส่วนตนเองหลบไม่ทันจึงพุ่งชน เรือลำดังกล่าวเนื่องจากจังหวะที่เห็นคือระยะเมตรสุดท้ายจริงๆ ประกอบกันเรือคู่กรณีไม่มีไฟหรือสัญญาณไฟอื่นๆ สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุแต่อย่างใด มันเป็นระยะกระชั้นชิดจริงๆ ยอมรับว่ายังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่คาดคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้


นางสาวอรลดา ศิลาน่อง อายุ 41 ปี ผู้บาดเจ็บจากเรือเจ็ทสกี (อยู่ในอาการตกใจกับเหตุกาณ์ที่เกิดขึ้นและถามตอบได้ไม่แน่ชัด) เล่าว่า ตนเองมากับเรือเจ็ทสกี 5 ลำ ลำของตนซ้อนมา 3 คน ลำที่เกิดเหตุเป็นของลำของตน ซึ่งคนขับเรือเป็นน้องชายตนขับ


ล่าสุดเมื่อเวลา 23.00 น . สถานีตำรวจน้ำ 2 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ หน่วยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำที่ 5 กองทัพเรือ และทีมประดาน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญู อยู่ระหว่างการค้นหาร่างผู้สูญหายทั้งสองราย ซึ่งจะต้องวางแผนการค้นหาอย่างรอบครอบ เนื่องจากกระแสน้ำค่อนข้างแรง และเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งมีพื้นที่กว้างมาก ประกอบกับมีฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงกลายเป็นอุปสรรคในการค้นหาของเจ้าหน้าที่


อย่างไรก็ตามทางด้านพนักงานสอบสวน ของ สภ.พระประแดง ได้เชิญตัวน้องคิวพี และเพื่อนร่วมขบวน ไปสอบปากคำเบื้องต้นที่สภ.พระประแดง เพื่อทำประวัติไว้เบื้องต้น ก่อนจะเชิญมาสอบ อย่างละเอียดและพิจารณาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป