อาชญากรรม
สลด! พบแล้ว 2 ร่างผู้สูญหายในแม่น้ำ จากเหตุหนุ่มนักแสดงซีรีส์ ขี่เจ็ทสกีพุ่งชนเรือโดยสารข้ามฝาก
โดย weerawit_c
18 ส.ค. 2567
672 views
พบแล้วร่างผู้สูญหายในแม่น้ำ จากอุบัติเหตุเรือเจ็ทสกีพุ่งชนเรือโดยสารข้ามฝาก ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 รายสูญหายภายในน้ำ 2 ราย
จากเหตุการณ์เรือเจ็ทสกีพุ่งเข้าชน เรือหางยาวข้ามฟากรับส่งผู้โดยสาร ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ในกลุ่มเรือเจ็ทสกี เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งโรงพยาบาลบางปะกอกสมุทรปราการ ไปก่อนหน้านั้น ส่วนผู้สูญหายในน้ำอีก 2 ราย ซึ่งเป็นคนขับเรือหางยาวและผู้โดยสาร ที่กระเด็นตกลงไปขณะเกิดเหตุ
โดยเหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของวันที่ 17 ส.ค.2567 ซึ่งเจ้าหน้าที่ ระดมกำลังช่วยกันค้นหาร่างผู้สูญหายทั้งสอง ทั้งสถานีตำรวจน้ำ 2 กองกำกับการ 4 กองบังคับการตำรวจน้ำ หน่วยช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำที่ 5 กองทัพเรือ และทีมประดาน้ำมูลนิธิร่วมกตัญญู โดยมีกรมเจ้าท่า และฝ่ายปกครองท้องถิ่น ตำบลบางยอ ช่วยอำนวยการ ในการปฏิบัติงานในครั้งนี้ ซึ่งการค้นหาเป็นไปอย่าง ยากลำบาก เนื่องจาก เป็นช่วงเวลากลางคืน บริเวณจุดเกิดเหตุเป็นที่มืด และกระแสน้ำ ด้านล่าง ไหลเชี่ยวประกอบกลับด้านบน ก็มีฝนเทลงมาอย่างหนัก แต่เจ้าหน้าที่ก็ยังไม่ย่อท้อ ทำการค้นหา ต่อเนื่องกว่า 6 ชั่วโมง
โดยกลุ่มเรือเจ็ทสกี ได้เดินทางจาก จอมทอง ซ.3 ซึ่งอยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยนำลงแม่น้ำจำนวน 5 ลำ มีผู้รวมเดินทางรวม 11 คน หนึ่งในนั้นคือ นาย ชินดนัย แซ่ลิ้ม หรือ คิวพี นักแสดงละครซีรีส์ เรื่อง วุ่นรักนักบิด ซึ่งเป็นคนขับเรือเจ็ทสกี ลำที่พุ่งชนเรือหางยาว ก่อนเกิดเหตุได้แล่นไปตามแม่น้ำเจ้าพระยาไปทางร้านอาหารบ้านลุงอู พระประแดง เพื่อมากินข้าว หลังจากกินข้าวเรียบร้อยแล้ว ได้มุ่งหน้ากลับกรุงเทพฯเพื่อจะกลับบ้าน
โดยเจ้าตัวบอกว่า ขณะนั้นค่อนข้างมืด และมองไม่เห็นเรือคู่กรณี ที่ขับข้ามฝากมาจากอีกฝั่ง เพื่อนตนเองอีกลำมาถึง สามารถหักหลบทัน ส่วนตนเองหลบไม่ทันจึงพุ่งชน เรือลำดังกล่าวเนื่องจากจังหวะที่เห็นคือระยะเมตรสุดท้ายจริงๆ ประกอบกันเรือคู่กรณีไม่มีไฟหรือสัญญาณไฟอื่นๆ สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ได้ตั้งใจจะให้เกิดเหตุแต่อย่างใด มันเป็นระยะกระชั้นชิดจริงๆ ยอมรับว่ายังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่คาดคิดว่าจะเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้
ล่าสุดเมื่อเวลา 03.00 น. เจ้าหน้าที่ ใช้เครื่องปฏิบัติการค้นหาใต้น้ำ sona ค้นหาวัตถุ กระทั่งพบร่างผู้สูญหายทั้งสอง นอนจมอยู่ใกล้กันกับเครื่องยนต์ของเรือ เป็นช่วงร่องน้ำที่มีความลึก มากกว่า 20 เมตร และพยายามนำร่างทั้งสองขึ้นมาบนฝั่ง อย่างทุลักทุเล ทราบชื่อต่อมา คือนางสาว ปาริฉัจ หอยมั่น อายุ 43 ปี เป็นผู้โดยสารที่กระเด็นตกจากเรือ และนาย ประยูร อ่วมประทุม อายุ 66 ปี เป็นผู้ขับขี่เรือลำที่ประสบเหตุ
ด้าน พ.ต.ท.ประสงค์ อินเสมียน สว.(สอบสวน) สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้ทำการถ่ายภาพบันทึกลไว้เป็นหลักฐาน และส่งมอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำส่งสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ เพื่อชันสูตรตามขั้นตอน จากนั้นจะให้ญาติ ติดต่อรับศพไปดำเนินพิธีตามศาสนาต่อไป ส่วนเรื่องทางคดี เจ้าที่ตำรวจจะเรียกผู้อยู่ในเหตุการณ์ทั้งหมดมาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
นาย ปิยะลักษณ์ ถิ่นแก้ว อายุ 45 ปี หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการกู้ภัยทางน้ำ ของมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้เล่าให้ฟังว่า อุปสรรคในการเกิดเหตุมีหลายสิ่งหลายอย่าง อย่างแรกเลยคือ เหตุเกิดในช่วงเวลากลางคืน การชี้จุดที่เกิดเหตุ มันอยู่ห่างจากฝั่ง ผมคิดว่ามันคงไม่แม่นยำเหมือนที่เราอยู่ใกล้ๆ แล้วก็การคาดคะเน เราก็มีการประเมินในการปฏิบัติงานในช่วงแรก มีการวัดน้ำ วัดกระแสน้ำ วัดความลึก อะไรต่างๆ ก็เจออุปสรรคในช่วงแรกเลยคือในช่วงที่เกิดเหตุเป็นลักษณะมีกระแสน้ำลง แล้วก็จุดเกิดเหตุอยู่กลางแม่น้ำ แล้วก็พยานชี้จุดมา อยู่บริเวณร่องน้ำถึงผิวน้ำมีลักษณะในการไหลไม่ค่อยแรง แต่ด้านล่างเนี่ยเป็นอุปสรรคกับนักปฏิบัติการใต้น้ำพอสมควร
หลังจากที่ปฏิบัติการในเบื้องต้นในช่วงแรก ฝนก็กระหน่ำลงมา เราจึงส่งชุดปฏิบัติที่2 และที่3 ก็ยังไม่พบ จึงทำการยกระดับในการใช้เครื่องมือหรือใช้ซาวเดอร์ทำการค้นหาในเบื้องต้น ก่อนที่จะพบร่าง เราพบวัตถุที่ลักษณะว่าคล้ายๆกับเครื่องยนต์แล้วก็ทีมปฏิบัติการเนี่ยกำลังระดมกำลังจะตีกรอบเข้าไปเพื่อเพื่อบีบเข้าไปหาเครื่องยนต์ก็พบกับร่างแล้วก็ร่างอยู่ในลักษณะที่ที่อยู่ด้วยกัน ตนคิดว่าผู้เสียชีวิตทั้ง 2 ท่าน ถือว่าเป็นภาพที่น่าสลดใจ
สำหรับความลึกของจุดที่พบศพ ตอนช่วงที่น้ำลงตอนแรก ประมาณร่องน้ำ17 เมตร แล้วก็ด้านข้างร่องน้ำอยู่ที่ประมาณ 13 เมตรแล้วก็ตอนช่วงน้ำลง มีบางจุดอยู่ที่ 10-13 เมตร แต่ก็ยังมีกระแสน้ำอยู่ตลอด ในการปฏิบัติงานครั้งนี้ตั้งแต่เวลาที่เกิดเหตุมาจนพบศพใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง การปฏิบัติการใต้น้ำจะเป็นผลอย่างไร มันขึ้นอยู่กับข้อมูลแรกที่ทำการส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ ตนเองจึงทำการตีกรอบให้มันแคบลงและใช้เครื่องมือที่มีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เราจึงเกิดความสำเร็จในการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตในครั้งนี้
นายมงคลสวัสดิ์ เวิ่นกระโทก อายุ 48 ปี สามีของผู้สูญหายเล่าว่า ถึงแม้ร่างภรรยาสุดที่รักจะไม่มีชีวิตแต่ก็ค้นหาจนเจอ ตนเองขอขอบพระคุณ เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่พยายามค้นหาจนเจอ แม้ว่าฝนจะกระหน่ำ และตกลงมาอย่างหนัก ตนเองขอขอบพระคุณมากเลยครับกับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่