สังคม

เจ้าหนี้ดอกโหดยอมถอย ยกหนี้ให้ทั้งหมด ยอมรับทำผิด แต่ลูกหนี้ค้างจ่ายนานร่วมปี หลังจากนี้เลิกปล่อยกู้

โดย panisa_p

1 ส.ค. 2567

486 views

วันที่ 1 ส.ค.2567 พ.ต.อ.ประภาส มั่งคั่ง รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรปราการ นั่งเป็นประธานในการประชุม โดยมี พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.คอองด่าน คู่กรณีทั้งสองฝ่าย คือ น.ส.จันทิมา อายุ 24 ปี ผู้เสียหาย และ น.ส.ศุภรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหา พร้อมด้วย ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความฝ่ายผู้เสียหาย เข้าร่วมฟังการหารือประเด็นปัญหา หลังจากเกิดเหตุการณ์ทวงหนี้โหดและทำร้ายร่างกายลูกหนี้ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 30 ก.ค.เวลาประมาณ 18.45 น.เหตุเกิดริมถนนหน้าวัดปานประสิทธาราม หมู่ที่ 1 ต.คลองด่าน อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ อ่านข่าว :โหดเกิน! สาวกู้เงิน 3 พัน โดนเจ้าหนี้คิดดอก 3 พัน จ่ายช้าปรับเพิ่ม 2 พัน แถมซ้อมน่วม


จากการประชุม ทั้งสองฝ่ายยินดีไกล่เกลี่ย โดยฝ่ายเจ้าหนี้ยอมยกหนี้ที่ค้างไว้ให้กับลูกหนี้ทั้งหมด ส่วนลูกหนี้ก็ไม่ติดใจเอาความกับฝ่ายเจ้าหนี้ แต่ในส่วนความผิดของ น.ส.ศุภรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหา ที่มีการกระทำผิดเรื่องของการปล่อยเงินกู้โหด เจ้าหน้าที่ตำรวจคงต้องดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย


พ.ต.อ.ธนูเพ็ชร ฉมาฤกษ์ ผกก.สภ.คอองด่าน กล่าวว่า จากการได้พูดคุยกับ น.ส.ศุภรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหา ยอมรับสารภาพว่าทำความผิดจริง นับจากนี้จะเลิกประกอบอาชีพปล่อยเงินกู้ ส่วนเรื่องคดีอาญาเจ้าหน้าที่ตำรวจคงต้องดำเนินคดี ในข้อหาความผิดตาม พรบ.การเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด , พรบ.ทวงหนี้ ,พรบ.ประกอบอาชีพสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต จะรวบรวมหลักฐานยื่นเรื่องส่งฟ้องศาลเพื่อพิจารณาต่อไป ในส่วนของผู้เสียหายหากกังกลเรื่องความปลอดภัย สามารถติดต่อแจ้งเรื่องเข้ามาหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ ยินดีดูแลให้ พร้อมฝากถึงผู้ที่คิดจะประกอบอาชีพปล่อยเงินกู้ขออย่าทำเนื่องจากผิดกฎหมายและมีอัตราโทษสูง


น.ส.ศุภรัตน์ ผู้ถูกกล่าวหา กล่าวขอโทษที่ใช้ความรุนแรง เนื่องจากไปพบกับผู้เสียหายที่ร้านขายส้มตำโดยบังเอิญ มีการทวงถามโต้เถียงและลงมือทำร้ายร่างกาย ยอมรับว่าปล่อยเงินกู้ให้มีดอกเบี้ยร้อยละ 40 ต่อเดือน มี น.ส.จันทิมา ผู้เสียหาย เป็นลูกหนี้เพียงรายเดียว ซึ่งติดค้างหนี้มานานร่วม 1 ปีแล้ว


นางจันทิมา ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตอนนี้เหลือเงินติดตัวอยู่เพียง 200 บาท เนื่องจากมีอาการบาดเจ็บ และกลัวถูกทำร้าย จึงไม่กล้าออกจากบ้านไปทำงาน


ส่วน ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความฝ่ายผู้เสียหาย กล่าวว่า ได้รับการติดต่อจาก น.ส.จันทิมา ผู้เสียหาย ว่าถูกเจ้าหนี้เงินกู้โหด ทำร้ายร่างกายและข่มขู่จะทำซ้ำอีก จึงไม่กล้าออกจากบ้านไปทำงาน เนื่องจากต้องเดินทางช่วงเวลากลางคืน จึงเข้ามาให้ความช่วยเหลือเรื่องคดีความและมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเพื่อป้องกันไว้ก่อน หากผู้เสียหายได้รับอันตรายจากการถูกทำร้าย เนื่องจากไม่เคยมีความขัดแย้งกับใครมาก่อน รวมถึงจะทำเรื่องฟ้องเรียกเงินชดเชยจากการขาดประโยชน์ที่ไม่สามารถออกไปทำงานได้อีกด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News