สังคม
ศาลสั่ง ‘สันธนะ’ คุก1ปี ปรับ1แสน หมิ่นประมาทโรงแรมชูวิทย์มั่วสุมยาเสพติด รอลงอาญา 2 ปี
โดย JitrarutP
10 ก.ค. 2567
95 views
ศาลสั่ง “สันธนะ” จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน หมิ่นประมาทกล่าวหา โรงแรม Davis ของนายชูวิทย์ มั่วสุมยาเสพติด โทษรอลงอาญา 2 ปี ให้ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง 1 แสนบาท เจ้าตัวเผย ผมกับชูวิทย์เหมือนคู่จิ้น
จากกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดังเป็นโจทก์ฟ้อง นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล เป็นจำเลยในความผิดฐานแจ้งความเท็จ, หมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณาพร้อมเรียกค่าเสียหาย จำนวน 100 ล้านบาท หลังเมื่อระหว่างวันที่ 5 - 8 พฤศจิกายน 65 นายสันธนะ ได้มีการแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ และสร้างหลักฐานเท็จ ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ โดยกล่าวหาว่า ที่ชั้นล็อบบี้ สถานบริการ The Lobby ×Chuweed ภายในโรงแรม Davis Hotel Corner Wing ย่าน ซ.สุขุมวิท 24 กรุงเทพ ซึ่งมีบริษัท ต้นตระกูลฯ เป็นเจ้าของและบริหารงาน มีกลุ่มวัยรุ่นชายหญิงจำนวนประมาณ 100 คน เข้ามามั่วสุมเสพยาเสพติด ในห้องน้ำชาย และเปิดบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด และ ยังมีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนหลายสำนัก โดยข้อความที่มีการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน สร้างความเสียหายให้กับสถานที่และบริษัท รวมถึงตัวนายชูวิทย์
ในคดีนี้ บริษัท ต้นตระกูล จำกัด โดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ มีการฟ้องร้องตัวนายสันธนะ และมีการเรียกค่าเสียหายเป็นจำนวนเงิน 100 ล้านบาท และให้กล่าวขอโทษผ่านสื่อ ทุกแขนง เป็นเวลา 7 วัน
โดยศาลพิเคราะห์แล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่าวันเวลาสถานที่เกิดเหตุ มีการจัดปาร์ตี้มีการดื่มแอลกอฮอล์และมีวัยรุ่นเข้าไปในห้องน้ำชายจำนวน 3-5คน มีพยานเป็นสายลับจากฝั่งจำเลยเข้าร่วม และได้ถ่ายรูปบรรยากาศในงาน ถ่ายคลิปในห้องน้ำจริง แต่ข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่า พยานที่เป็นบุคคลในคลิป ระบุว่าในวันดังกล่าว ห้องน้ำผู้หญิงเต็มและแฟนผู้ชายมีอาการเมาจนอยากอาเจียน ทางฝ่ายหญิงจึงได้เดินตามไปเพื่อเข้าห้องน้ำ และดูแลแฟนหนุ่ม จากนั้นสายลับได้ พบเห็นว่ามีการเข้าห้องน้ำอย่างผิดสังเกตจึงตามเข้าไป ถ่ายคลิป
จากนั้นเห็นวัยรุ่นผู้หญิงเดินออกมาใช้มือปัดตรงบริเวณปลายจมูก จากนั้นเมื่อกลุ่มวัยรุ่นออกจากห้องน้ำและเข้าไปตรวจสอบในห้องน้ำดังกล่าวพบถุงพลาสติกขนาดเล็ก เชื่อได้ว่าเป็นการมั่วสุมเสพยาเสพติด จึงนำคลิปดังกล่าวนำส่งให้จำเลยเพื่อแจ้งความกับ สน.ทองหล่อ ต่อมาตำรวจจึงรีบมาตรวจในทันที แต่ว่าพบว่าไม่มีการเสพยาและไม่เป็นการเปิดเกินเวลา เมื่อตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด คดีนี้จึงเจือสมกับพยานหลักฐานที่จำเลยได้รับมาและเชื่อว่าเป็นการกระทำผิด กรณีนี้จึงถือไม่ได้ว่าเป็นการแจ้งความเท็จหรือกลั่นแกล้งให้รับโทษ เพราะจำเลยได้นำข้อเท็จจริงที่รู้เห็นมาแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ส่วนหลักฐานภาพถ่ายในงานปาร์ตี้และคลิปจากในห้องน้ำที่สายลับให้มา ไม่ได้มีการปรับแต่งเป็นการถ่ายจากสถานที่จริง มีบุคคลอยู่จริง เหตุการณ์เกิดขึ้นจริง จึงไม่อาจรับฟังได้ว่าเป็นการทำหลักฐานเท็จ
ส่วนข้อหาหมิ่นประมาทนั้น หลังจากที่จำเลยได้แจ้งพนักงานสอบสวนเข้าตรวจสอบแล้วแต่ไม่พบการกระทำความผิด เมื่อพิจารณาจากรายละเอียดข่าวที่มีการนำเสนอเป็นเพียงการสรุปของนักข่าวว่าจำเลยได้ไปทำอะไรที่ไหนและผลเป็นอย่างไร แต่ในบางสำนักข่าวจำเลยได้ให้สัมภาษณ์ลงรายละเอียด ว่าวัยรุ่นเขารู้กันหมดว่ามาที่นี่ไม่มีใครกล้าตรวจ เจ้าของโรงแรมเป็นสายแข็ง
ทำให้คนเข้าใจว่ามีการกระทำผิดและเจ้าของโรงแรมรู้เห็นเป็นใจด้วย ซึ่งเป็นการให้สัมภาษณ์หลังพนักงานสอบสวนเข้าไปตรวจสอบแล้วยังไม่พบการกระทำผิดกฎหมายจำเลยควรต้องรอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าพนักงานที่เกี่ยวข้อง แม้ว่าทางจำเลยจะไม่ได้เอ่ยชื่อเจ้าของโรงแรมแต่ก็ทำให้หลายคนเข้าใจได้ว่าหมายถึงโจทก์ อีกทั้งจำเลยรู้อยู่แล้วว่านักข่าวจะต้องนำเสนอข่าวสู่สาธารณะ ดังนั้นโจทก์ที่1-2 จึงเกิดความเสียหายถูกดูหมิ่นเกลียดชัง เสื่อมเสียชื่อเสียงจำเลยจึงมีความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา แม้ทางจำเลยจะอ้างว่าเป็นการให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ประชาชนและต้องการป้องปรามการค้าหรือเสพยาเสพติด แต่ก็ต้องพิสูจน์ว่าที่กล่าวหามานั้นเป็นเรื่องจริง แต่จนบัดนี้ยังไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหากับทางโรงแรมอีก หรือมีตำรวจพบการกระทำความผิดจึงไม่สามารถละเว้นโทษได้
ส่วนที่โจทก์ ที่ขอให้ศาลสั่งให้จำเลยลงข้อความขอโทษและคำพิพากษาโฆษณาลงสื่อติดต่อกัน ศาลไม่มีอำนาจในการให้ขอโทษ แต่สามารถสั่งให้ลงโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อได้ 5 วันติดต่อกันด้วยค่าใช้จ่ายของจำเลย
ส่วนเงินทดแทนนั้น คดีนี้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องอาญา ดังนี้เมื่อข้อเท็จจริงรับฟังได้ว่ามีการกระทำความผิดเป็นการหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาให้โจทก์ 1-2 ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง เป็นการละเมิด แต่ทางโจทก์มิได้บรรยายว่าภายหลังจากที่จำเลยให้ข่าวแล้วเสียหายรายได้ไปจำเลยเท่าใด ศาลจึงพิจารณาให้จำเลยชดใช้เงินทดแทนค่าเสียหายจำนวน 100,000 บาท
พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามาตรา 328 ให้จำคุก 1 ปี ปรับ 1 แสน แต่จำเลยไม่เคยต้องโทษมาก่อนเห็นควรให้โอกาสกับตัวเป็นคนดี โทษจำคุกรอลงอาญา 2 ปี ให้ชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง 1 แสนบาท และลงโฆษณาคำพิพากษาโดยย่อกับสื่อ ไทยรัฐออนไลน์ ,ไทยรัฐทีวี ,พีพีทีวี ,ช่อง8, sanook และเนชั่นออนไลน์ 5 วัน ติดต่อกัน
นายสันธนะ ระบุว่า ภายหลังศาลมีคำพิพากษาว่า วันนี้ศาลยกฟ้องตนในความผิดฐานแจ้งความเท็จ แต่ให้ลงโทษในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นโดยการโฆษณา 1 ปี ซึ่งศาลก็เมตตารอลงอาญา ไว้ 1 ปี เนื่องจากศาลเห็นว่าสิ่งที่ตนกระทำเพื่อประโยชน์สาธารณะไม่ใช่เพื่อส่วนตัว โดยตนก็เตรียมที่จะนำเหตุผลตรงนี้สู้คดีในชั้นศาลอุทธรณ์ ต่อไป โดยส่วนตัวตนกับนายชูวิทย์มีคดีฟ้องร้องกันหลายคดี ที่ตนฟ้องนายชูวิทย์ก็เป็นสิบคดี เเต่ที่ผ่านมานายชูวิทย์ขอเลื่อนคดีโดยอ้างเหตุว่าป่วย ก็ฝากถึงชูวิทย์ให้ดูแลสุขภาพให้ดีจะได้กลับมาสู้คดีกันในศาลอีกเพราะตนกับนายชูวิทย์ก็ถือเป็นคู่จิ้นกัน
แท็กที่เกี่ยวข้อง สันธนะ ,ชูวิทย์ ,โรงแรมชูวิทย์