สาวเมาหนักโร่แจ้งความ หลังเรียกรถผ่านแอป พอถึงห้องลืมล็อกตื่นมาเจอคนขับนอนอยู่ข้างๆ

สาวเมาโร่แจ้งความหลัง เรียกรถผ่านแอปดังไปส่งห้อง พอถึงลืมล็อกประตูตื่นขึ้นมาตี 3 ผวาหนัก เจอคนขับนอนอยู่ข้างๆ

วันนี่ (2 ก.ค.67) เพจภูเก็ตไทม์โพสต์ข้อความ "ฉาวอีกแท็กซี่หื่น สาวภูเก็ตเมาเรียกรถผ่านแอปกลับห้อง พอที่พักลืมล็อกประตู ถูกโชเฟอร์ตามเข้ามานอนอยู่ข้างๆ พอได้สติรีบหนีเข้าห้องน้ำรอนานครึ่งชม. ชายคนนี้ยังไม่ยอมไป แถมยังนั่งเล่นกับแมวของตนบนเตียง"

จากการสอบถามไปยังแอดมินของเพจดังกล่าวทราบว่าเหตุเกิดเมื่อกลางดึกของวันที่ 1 ก.ค 67 เวลาประมาณ 02.01 น. น.ส.แนน (นามสมมุติ) วัย 25 ปีได้เรียกรถผ่านแอป จากในเมืองภูเก็ตกลับไปยังห้องพักในพื้นที่ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีชายไทยอายุประมาณ 30 ปีเป็นคนขับ ซึ่งต่อมาเมื่อถึงห้องพัก น.ส.แนนได้ลงจากรถและเดินเข้าห้องพัก พร้อมกับเข้านอนและหลับไป

ต่อมาเวลาประมาณ 03.00 น. น.ส.แนนรู้สึกตัวพบว่ามีชายนอนกับ น.ส.แนนบนเตียง น.ส.แนนจึงได้เปิดไฟโทรศัพท์มือถือ จากนั้น น.ส.แนนได้วิ่งเข้าห้องน้ำและโทรศัพท์หาเพื่อน จากนั้นได้เปิดประตูห้องน้ำออกมาดูพบว่าชายดังกล่าวเป็นชายคนเดียวกันกับคนที่ขับรถแท็กซี่มาส่งที่ห้องพัก ซึ่งต่อมาชายดังกล่าวได้เปิดประตูห้องเดินออกไป จากนั้น น.ส.แนนจึงเข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ฐปพน แพงพิมพ์โล้ สว.(สอบสวน) สภ.ป่าตอง เพื่อติดตามคนขับรถแท็กซี่มาสอบสวนปากคำก่อนที่จะมีการแจ้งข้อกล่าวหาตามกฎหมายต่อไป

ทั้งนี้เพจดังกล่าวยังได้ระบุด้วยว่า หญิงสาวรายนี้เปิดเผยด้วยว่า"ขณะที่นั่งแท็กซี่มาตนก็หลับตลอดทาง เนื่องจากเมาค่อนข้างหนักมาก เพราะว่าไปงานเลี้ยงส่งเพื่อน และได้เรียกรถผ่านแอป เดินทางกลับมายังที่พักจากในเมืองมายังพื้นที่ ต.ป่าตอง โดยคนขับมาส่งและจอดรถถึงที่หน้าหอหนูตั้งแต่ 02.47 น. เค้าปลุกลงจากรถ พอลงจากรถ เค้าก็ขึ้นรถเอารถไปจอด และเดินมาที่ห้องหนูเลย ที่ไม่ได้ล็อกประตูนั้น มันเคยชินเพราะปกติกลับมาห้องก่อนเพื่อนตลอด แล้วจะไม่ล็อกห้องเพราะเพื่อนมาทีหลัง

เพื่อนจะเป็นคนล็อก ตนตกใจมากๆ เพราะว่ารู้สึกแปลกๆ พอตื่นขึ้นมาอีกที ก็มีผู้ชายแปลกหน้ามานอนอยู่ข้างๆ ตนจึงรีบตั้งสติ และวิ่งหนีเข้าไปแอบในห้องน้ำ และโทรหาเพื่อน แต่แล้วชายดังกล่าวก็ยังไม่ออกไป รอนาน 20-30 นาที ก็ยังไม่ออกไป แถมยังไปนั่งเล่นกับแมวของตนบนเตียงอีกด้วย ตนจึงแอบอยู่ในห้องน้ำ รอจนกระทั่งชายคนดังกล่าวออกไป หนูไม่รู้เลยค่ะว่าจะเรียกร้องอะไร แต่ไม่อยากให้เค้าไปทำแบบนี้กับคนอื่นอีกมันน่ากลัวค่ะ"