กก.วัดบ้านไร่ติงไม่เหมาะสม กลุ่มสร้างวัตถุมงคล นำโลหิตธาตุ 'หลวงพ่อคูณ' มาเป็นมวลสาร ถามเอามายังไง ?

จากกรณีเพจหมอแล็บแพนด้า ได้โพสต์ภาพพร้อมข้อความว่า “ผมเข้าใจถึงความศรัทธา และการรวบรวมมวลสาร คงไม่ไปก้าวล่วง แต่อันนี้ไม่น่าจะเหมาะสมเท่าไหร่ เป็นสิ่งส่งตรวจของผู้ป่วยในโรงพยาบาล ต้องเคารพสิทธิ แอบเอาออกมาได้ยังไง ใครให้” โดยเป็นรูปภาพหลอดเลือดของพระเทพวิทยาคม หรือ หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ อดีตพระเกจิดังวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่มีลูกศิษย์เคารพนับถือจำนวนมาก ซึ่งมีการระบุว่าหลอดเลือดดังกล่าวจะเป็น 1 ในมวลสารที่นำไปจัดสร้างวัตถุมงคล ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์กันเป็นอย่างมาก

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา พบกับ นายสนอง หวังหยิบกลาง ประธานกรรมการบริหาร โครงการวัดบ้านไร่ สร้างหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ องค์ใหญ่ เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีกลุ่มผู้จัดสร้างวัตถุมงคลมีการโพสต์ข้อความ และภาพ โลหิตธาตุของหลวงพ่อคูณ ตนมองว่าไม่เหมาะสม เพราะที่ผ่านมาการจัดสร้างวัตถุมงคลก็ไม่เคยมีการนำเลือดของครูบาอาจารย์ท่านใดมาจัดสร้าง ยิ่งเป็นโลหิตธาตุของหลวงพ่อคูณ ยิ่งไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง

และอยากจะถามว่า ไปนำโลหิตธาตุของหลวงพ่อคูณมาจากไหน ซึ่งจากในภาพที่โพสต์มีการระบุชื่อ หลวงพ่อคูณ อายุ 87 ปี อย่างชัดเจน ซึ่งตนเองก็ไม่มั่นใจว่าเป็นเลือดของหลวงพ่อคูณจริงหรือไม่ ทั้งนี้หลวงพ่อคูณมรณภาพเมื่ออายุ 92 ปี อายุห่างกันจากในรูปภาพหลอดเลือด 5 ปี จึงอยากรู้ว่าใครไปเอาหลอดเลือดมาจากที่ใด อยากให้ทางคณะผู้จัดสร้างออกมาชี้แจงว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร เพื่อให้สังคมได้รับทราบ

เพราะปกติเลือดของหลวงพ่อคูณจะต้องอยู่ที่โรงพยาบาลเท่านั้น อย่างไรก็ตามทางคณะกรรมการวัดบ้านไร่กำลังปรึกษากับทางทีมกฎหมายเพื่อหารือกับเรื่องดังกล่าว เพราะในส่วนของวัดบ้านไร่หากจะสร้างวัตถุมงคลก็จะมีแค่มวลสารของพระเก่า และเกศาของหลวงพ่อคูณเท่านั้น ไม่เคยมีอัฐิหรือแม้แต่โลหิตธาตุของหลวงพ่อคูณมาอยู่ในวัตถุมงคลแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถาม นายแพทย์พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลนครราชสีมา และเป็นแพทย์ผู้ดูแลหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เปิดเผยว่า ได้เห็นภาพข่าวเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งตามกฎระเบียบแล้วเลือดของคนไข้ทุกคนจะไม่สามารถนำไปให้บุคคลภายนอกได้ เพราะเป็นระบบแล็บของทางโรงพยาบาล ซึ่งยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้นเหมือนกัน และมันไม่น่าที่จะนำออกไปได้ เพราะเวลาเจาะเลือดก็ต้องนำส่งห้องแล็บ ทั้งนี้ยังไม่สามารถที่จะบอกได้ว่าหลอดเลือดในภาพนั้นเป็นของจริงหรือไม่

ส่วนการที่จะนำโลหิตธาตุของหลวงพ่อคูณมาเป็นมวลสารในการสร้างวัตถุมงคลนั้น ตนมองว่าเป็นประเด็นที่ละเอียดอ่อน ให้ประชาชนเป็นคนคิดเอาเองว่าเหมาะสมหรือไม่ แต่โดยหลักการแล้วเลือดของคนไข้ที่มีการเจาะตรวจที่โรงพยาบาล จะไม่มีการนำออกไปข้างนอกเด็ดขาด ยกเว้นแต่ว่าไปเจาะเลือดที่อื่นที่ไม่เป็นไปตามระบบ