ลูกชาย 60 ไม่ทำมาหากิน ตีหัวพ่อชราเลือดอาบ พ่อพ้อหุงหาอาหารให้กิน ยังทำได้ลงคอ วอน ตร.จับขังลืม

วันที่ 29 พฤษภาคม 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้รับแจ้งเหตุลูกชายทำร้ายร่างกายพ่อจนบาดเจ็บ ภายในแคมป์พักคนงานแห่งหนึ่ง ริมคลองส่งน้ำสุวรรณภูมิ ตำบลบางปลา อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งจึงประสานสายตรวจ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ในที่เกิดเหตุพบ นายบุญช่วย อายุ 81 ปี นั่งอยู่บริเวณหน้าแคมป์ มีบาดแผลแตกและฉีกขาดที่ศีรษะ เลือดไหลเต็มใบหน้า เจ้าหน้าที่มูลนิธิให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้น ก่อนนำส่งโรงพยาบาล ส่วนผู้ก่อเหตุ คือ นายสมชาย อายุ 60 ปี ลูกชายของผู้ได้รับบาดเจ็บ นั่งอยู่ในศาลาพักร้อนด้านหน้าแคมป์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เข้าควบคุมตัว ก่อนจะพามาชี้จุดและอาวุธที่ใช้ในการก่อเหตุทำร้ายร่ายกาย นายบุญช่วย ผู้เป็นพ่อ พร้อมเก็บอาวุธที่ใช้ก่อเหตุซึ่งเป็นหม้อต้มน้ำที่มีด้ามจับที่ทำด้วยสแตนเลส

จากการสอบถาม นายบุญช่วย คนเจ็บ เผยด้วยน้ำเสียงที่เจ็บแค้น เพราะคนทำร้าย คือลูกขายแท้ๆ ของตนเอง ซึ่งพ่อบอกว่า ตนกับบุตรชายเคยมีปากเสียงกันบ่อยครั้ง เพราะลูกชายไม่ทำงานทำการอะไร ตนเองที่แก่ชรายังต้องออกไปหาปลา หุงหาข้าว ทำกับข้าวให้กินทุกวัน ตื่นมาก็หยิบช้อนกับชามอย่างเดียว พอไม่พอใจก็ด่าทอด้วยถ้อยคำหยาบคาย จนหลายครั้งมีปากเสียงถึงขั้นทำร้ายร่างกายตนเองมาหลายครั้ง แต่ก็ไม่ถึงกับลงไม้ลงมือจนถึงขั้นเลือดตกยางออกเหมือนครั้งนี้ ที่ผ่านมายอมเจ็บปวดใจ ไม่เอาความ เพราะเห็นว่าเป็นลูก แต่ก็ไม่เคยสำนึกผิด ยิ่งเมามาก็ยิ่งเก่งแต่กับพ่อ พอมาครั้งนี้ลูกชายถูกตำรวจจับต่อหน้า ตนไม่เสียใจ ถ้ามันติดคุกก็ขอให้ติดนานๆ หน่อย ติดจนลืมไปเลย

ด้าน นายสมชาย ผู้ก่อเหตุ เผยว่า เพราะพ่อดุด่า ตนก็เลยโมโห เหตุผลที่ทำร้ายพ่อ เพราะพ่อนิสัยไม่ดี ไม่ให้กินข้าว ไม่ให้นอน ต้องมานอนข้างนอก ฝนตกก็เปียก บางทีนอนพื้นริมถนน โดนบ่อยๆ เลยทนไม่ไหวแล้ว คิดดูแล้วยอมติดคุกดีกว่า สบายกว่า นอนสบาย มีเพื่อนคุย เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามว่า เคยใช้สารเสพติดหรือไม่ นายสมชายตอบว่า เมื่อก่อนเคยเสพกัญชา แต่ตอนนี้เลิกหมดแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้ยุ่งหรือเสพสารเสพติดอะไร เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางพลี ได้ควบคุมตัว นายสมชาย พร้อมอาวุธที่ใช้ไปก่อเหตุไปสอบสวนเพิ่มเติม พร้อมตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป