สาว 18 ขอเลิกแฟนพิการ เจอสาดน้ำกรดต่อหน้าแม่จนเสียโฉม อาการสาหัส

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายกัน จอมพลัง พาผู้เสียหายอาการสาหัสนอนเตียงพยาบาลเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรม โดยมีพลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รับเรื่องกรณีหญิงสาว อายุ 18 ปี ถูกแฟนหนุ่มอายุ 32 ปี ทำร้ายสาดน้ำกรดใส่จนเสียโฉม อาการสาหัส

หญิงสาวผู้เสียหาย เล่าว่า คบกับแฟนหนุ่ม อายุ 32 ปี ซึ่งพิการ แขนขาด ขาเดินกะโผลกกะเผลก ตนไปอยู่ที่บ้านแฟน ต้องคอยจัดหาอาหารให้ทานทุกมื้อ และเป็นเหมือนพยาบาลดูแลตลอด 24 ชั่วโมง แต่พอช่วงหลังรู้สึกเหนื่อยที่ต้องทำทุกอย่างคนเดียว ประกอบกับฝ่ายชายไม่ยอมให้ตนไปไหนมาไหน จึงเริ่มอยากถอยห่างออกมา อยากเลิกคบ แต่ก็ไม่คิดว่าฝ่ายชายจะมาทำร้ายถึงขั้นแอบเอาน้ำกรดมาสาด โดยที่ตนเองไม่ทันตั้งตัว มารู้สึกตัวอีกทีก็มีอาการแสบตามเนื้อตัวแล้ว มีแผลพุพอง ใบหน้า คอ ลำตัว เชื่อว่าการที่ทำแบบนี้กับตนเองเหมือนอยากให้เสียโฉม ไม่อยากให้ตนเองเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใคร

นางระเบียบ อายุ 54 ปี แม่ของสาว 18 ปี เปิดเผยว่า ทราบจากลูกสาวว่าคบหากับชายพิการ และมักให้น้ำกระท่อมลูกสาวดื่มกินตลอด จึงเชื่อว่าลูกสาวติดฝ่ายชาย เพราะเหตุนี้ จนมาระยะหลังเริ่มมีปากเสียง ฝ่ายชายมีอาการหึงหวง ไม่ยอมให้ลูกสาวไปไหนมาไหน กลัวจะนอกใจมีคนอื่น จนทำให้ลูกสาวรู้สึกอึดอัดทนไม่ไหวจนขอเลิกรา ย้ายออกมาจากบ้านฝ่ายชาย

โดยช่วงวันเกิดเหตุขณะที่กำลังนั่งทานข้าวกันอยู่หน้าบ้าน มีตนเองและลูกอีก 2 คน จู่ๆ ฝ่ายชายก็เดินเข้ามาหา พร้อมกับถือแก้วน้ำมาด้วย โดยตนไม่ทันสังเกต พยายามจะมาขอคืนดีกับลูกสาวแต่ลูกสาวไม่อยากกลับไปคบอีกแล้ว จึงขอเลิกรา ทำให้เขาไม่พอใจ สาดน้ำกรดที่อยู่ในแก้วไปโดนทุกคนได้รับบาดเจ็บ ตามเนื้อตัวมีแผลพุพอง โดยเฉพาะลูกสาวถูกบริเวณคอ ทำให้พูดยังไม่ค่อยได้ ทั้งนี้หลังเกิดเหตุ ทางครอบครัวชายพิการพยายามขอไกล่เกลี่ย ไม่ให้ดำเนินคดี ให้เงินมา 1,500 บาท เป็นค่ารักษาพยาบาลเท่านั้น จึงต้องการร้องขอความเป็นธรรม