สามีพาร้องทนายดัง หลังภรรยาแหม่ม ถูก รปภ.คอนโด ต่อยร่วง ฉุนโดนปลุกขณะนอนหลับในป้อม

สามีคนไทยพาภรรยาแหม่มชาวอังกฤษ ร้องทนายดัง หลังภรรยาถูก รปภ.คอนโด ต่อยร่วง เพราะไม่พอใจโดนปลุกขณะนอนหลับในป้อม ซ้ำใช้หนังสือยืนยันจาก บช.น.ปลอม

เมื่อเวลา 11.30 น วันที่ 25 เม.ย. 2567 มูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม ถ.แจ้งวัฒนะต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายบุญเอก วงศ์สุริยะวัฒนา อายุ 46 ปี ได้พาภรรยาสาวชาวอังกฤษ ชื่อ Miss ayesa อายุ 37 ปี เข้าร้องเรียนกับนายรภัสสิทธิ์ ภัทรสิริชัยสินชัย รองประธานมูลนิธิ เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรม หลังถูก รปภ. คอนโดชื่อดังแห่งหนึ่ง ต่อยภรรยาสาวจนร่วงกองลงกับพื้น ทำให้กระดูกใบหน้าแตก จมูกมีรอยร้าว บาดเจ็บสาหัสทางจิตใจเป็นอย่างมาก เหตุเกิดวันที่ 12 ธ.ค. 2564 ช่วงกลางดึกเวลา 03.30 น.

นายเอก กล่าวว่า ตนเองซื้อคอนโดหรูแห่งหนึ่งเป็นอาคารชุดย่านช่องนนทรีย์ เขตยานนาวา กรุงเทพฯ ราคากว่า 10 ล้านบาท คืนเกิดเหตุ มาหยิบของในรถยนต์บริเวณลานจอดรถชั้นล่าง ภรรยาแหม่มชาวอังกฤษเห็นตนเองลงมานานจึงได้ลงมาตามหา

ภรรยาได้สอบถามนายโมฮัมหมัด อะยัน อายุ 27 ปี ซึ่งเป็น รปภ.ของคอนโด ซึ่งขณะนั้น นายโมฮัมหมัด กำลังนอนหลับสนิทอยู่ภายในป้อมยาม ภรรยาจึงได้ปลุกนายโมฮัมหมัด ทำให้เขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก บอกเพียงว่าไม่รู้ไม่เห็น ภรรยาจึงพูดไปว่าขอดูกล้องวงจรปิดภายในอาคารหน่อย รปภ.รายนี้จึงชี้ไปทางด้านขวาของอาคารชุด ซึ่งค่อนข้างมืด เมื่อภรรยาเดินไปที่ตามที่ รปภ.ชี้ ปรากฏว่านายโมฮัมหมัดเดินตามภรรยาในระยะกระชั้นชิด ภรรยาจึงบอกว่า “ไม่ต้องตาม” อยู่ๆ นายมูฮัมหมัด ก็ใช้กำปั้นต่อยเข้าที่บริเวณใบหน้าภรรยา 1 ครั้ง จนล้มลงใบหน้าแตก จมูกร้าวเป็นแผลฉกรรจ์ ก่อนจะหลบหนีและไม่มาทำงานอีกเลยในวันรุ่งขึ้น

ภรรยาเคยป่วยมีอาการทางจิตเวช หลังเจอแบบนี้ทำให้เขาสติแตก ไม่กล้าแม้แต่จะไปโรงพยาบาล ต้องคอยปลอบใจ และอธิบายเหตุผลต่างๆ จึงเข้าทำการรักษาอย่างต่อเนื่องที่โรงพยาบาล และเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.บางโพงพาง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ นายมูฮัมหมัด รปภ.หมัดหนักรายนี้ ในข้อหาทำร้ายร่างกายเป็นเหตุให้เกิดอันตรายทางจิตใจเป็นอย่างมาก

นายบุญเอก กล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ เขาได้พูดคุยกับบริษัท รปภ. แต่เขาไม่ยอมรับผิดชอบใดๆ อ้างว่าเป็นเรื่องทะเลาะส่วนตัวไม่เกี่ยวกับทางบริษัท พยายามสอบถามว่า รปภ.คนนี้ ผ่านการอบรมมีใบอนุญาต เป็น รปภ.ถูกต้องหรือไม่ ทางบริษัทก็นำหนังสือมาแสดงซึ่ง เป็นหนังสือยืนยันมาจากทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ว่าเป็น รปภ.จริง แต่เมื่อนำหนังสือเดินทางไปตรวจสอบที่ บช.น. ปรากฏว่าทางตำรวจยืนยันว่า เอกสารดังกล่าวไม่ได้ออกมาจาก ทาง บช.น. จึงแปลกใจว่า ทำไมบริษัทถึงสามารถเอาเอกสารแบบนี้มาแสดงให้ดูได้ รู้สึกไม่ชอบมาพากล จึงพาภรรยาชาวอังกฤษมาร้องเรียนกับมูลนิธิรณรงค์ ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อให้ช่วยเหลือในด้านคดี

ขณะที่รองประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม กล่าวว่า หลังเสร็จสิ้นจากการร้องเรียน ตอนนี้จะนำผู้เสียหายทั้ง 2 คนเดินทางไปที่ บช.น. เพื่อสอบถามกรณีเอกสารที่ทางบริษัท รปภ. มาแสดงให้กับผู้เสียหายดู ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ และออกมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่ทาง บช.น. เองก็ยืนยันว่าไม่ใช่เอกสารที่ออกให้โดยทาง บช.น. ส่วนเรื่องความรับผิดชอบนั้น บริษัท รปภ.จะปฏิเสธไม่ได้เลย เพราะเนื่องจาก รปภ.รายนี้ ก่อเหตุขณะที่ยังเป็นพนักงานของคุณอยู่ คุณจะมาอ้างว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ เรื่องนี้จะดำเนินคดีและติดตามช่วยเหลือให้กับผู้เสียหายทั้ง 2 ราย เพื่อเรียกร้องสิทธิ์ตามกฎหมายต่อไป