สังคม

มูลนิธิระนองสงเคราะห์ แถลงชี้แจงปมล้างป่าช้า 'สุสานชาวมอแกน' ยันทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ พร้อมเผยเอกสารยืนยัน

โดย weerawit_c

30 มี.ค. 2567

347 views

กลายเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ เมื่อเพจ ระนอง นิวส์ โพสต์ภาพการล้างป่าช้า โดยระบุว่า “มหากุศลสามัคคี เก็บศพไร้ญาติ ระนอง มูลนิธิระนองสงเคราะห์ พ้งไล้จั๊บอิ๊กเซียวเกาะ พร้อมสมาคมและมูลนิธิต่างๆ จากทั่วประเทศ ร่วมบำเพ็ญกุศลมหาสามัคคี เก็บศพไร้ญาติ (ล้างป่าช้า) ครั้งที่ 6 จังหวัดระนอง


โดยระบุจำนวนที่เก็บศพได้ 4 ครั้ง 65 ร่าง และระบุว่า ก่อนจะนำมาประกอบพิธีทางศาสนา สวดอภิธรรมกระดูกในทุกค่ำคืน ตลอด 49 วัน ณ ศาลเจ้า พ้งไล้จั๊บอิ๊กเซียวเกาะ


เพจยังระบุหมายเหตุ ว่า “ปล.โดยพื้นที่ที่เข้าไปดำเนินการเก็บกระดูกใน จ.ระนอง นั้น เป็นพื้นที่ที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ในที่ดินนั้นๆ เป็นผู้ร้องขอให้ทางมูลนิธิระนองสงเคราะห์ เข้าดำเนินการจัดเก็บไปบำเพ็ญอุทิศส่วนกุศลให้กับวิญญานที่วายชนม์ โดยถูกต้องตามขั้นตอน”


ทั้งนี้ หลังจากโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไป มีการระบุว่า ศพเหล่านี้ เป็นสุสานของชาวมอแกน มีป้ายชื่อปัก ไม่ได้เป็นศพไร้ญาติแต่อย่างใด ญาติพี่น้องต่างเสียใจ เพราะเป็นแค่ชาวเกาะ ไม่สามารถทำอะไรได้ ทำให้มีการเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นดังกล่าวอย่างหนัก


ล่าสุดเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2567 เวลา 13.30 น. ที่ มูลนิธิระนองสงเคราะห์ พ้งไล้จั๊บอิ๊กเซียวเกาะ ได้เปิดแถลงข่าว ทำความเข้าใจถึงข่าวดาร์ม่าพร้อมแสดงหนังสือเอกสาร ที่มีการร้องขอจากตัวแทนพี่น้องชาวมอแกน บ้านเกาะเหลา ที่ขอให้ทางมูลนิธิระนองสงเคราะห์ ไปทำพิธีล้างป่าช้า เพื่อให้มีพื้นที่ในการฝังศพรายต่อไป และหนังสือขออนุญาตไปทางอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะระนอง เพื่อไปทำพิธีล้างป่าช้าให้กับชาวมอร์แกน


โดยนายมนัส สุขวาณิชวิชัย รองประธานมูลนิธิระนองสงเคราะห์ ได้เปิดเผยว่า การล้างป่าช้า ครั้งแรกทำเมื่อปี 2521 ก็ 46 ปีแล้ว ปัจจุบันครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ตั้งแต่ 23 มีนาคม 2567 จนถึง วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 เป็นเวลา 49 วัน ในการล้างป่าช้าครั้งนี้ ได้ทำที่สุสานหินดาด วัดป่าช้า เกาะเหลา และเกาะกระทะ ที่ได้รับการร้องขอจากตัวแทนชาวบ้านมอแกน เนื่องจากพื้นที่ในเกาะเต็ม จึงไปดำเนินการขุดเพื่อที่จะให้อนาคต จะได้มีการดำเนินการฝังศพต่อไป ทางมูลนิธิมีความบริสุทธิ์ใจในการล้างป่าช้าครั้งนี้ โดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง การดำเนินการได้มีการประชุมประชาคมชาวบ้าน ชาวมอแกน ที่ ศาลเจ้าพ้งไล้จั๊บอิ๊กเซียวเกาะ มูลนิธิระนองสงเคราะห์ ในวันที่ 6 ธันวาคม 2566


โดยการสอบถามความสมัครใจกับชาวบ้านว่าเราจะไปดำเนินการขุดที่เกาะเหลา และเกาะกระทะ มีความคิดเห็นอย่างไร ชาวบ้านก็ยกมือมีความยินยอม โดยมีเอกสารยินยอมให้ขุดจากญาติของผู้เสียชีวิตครั้งนี้ และแจ้งให้ชาวบ้านทราบว่าท่านใด ลูกหลานท่านใด ที่ไม่ประสงค์ให้ขุด ก็ให้ทำเครื่องหมายที่หลุมไว้เป็นที่สังเกต เพื่อที่คณะทำงานล้างป่าช้าจะไม่ดำเนินการขุดให้ อันนี้เป็นขั้นต้นที่ชี้แจงไป


นางเนาวนิตย์ แจ่มพิศ ตัวแทนชาวมอร์แกนเกาะเหลา กล่าวว่า ปัญหาของชาวมอแกน โดยชาวมอแกนมีอยู่สามเกาะ คือ เกาะเหลา เกาะช้าง เพราะพยาม ซึ่งมีสุสานอยู่สองพื้นที่ คือเกาะเหลา เกาะกระทะ ที่เกาะกระทะ ไม่มีบ้านคนอยู่ เป็นแค่สุสานของชาวมอแกน ส่วนเกาะเหลา ก็จะมีชาวมอแกน และมีสุสานอยู่ด้านหลัง และเมื่อ 12 ปี ที่ผ่านมา ก็มีการล้างป่าช้าไปแล้วหนึ่งครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง สำหรับที่ฝังศพของชาวมอแกนที่เกาะกระทะ ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆเหมือนฝาชีครอบกับข้าว มีพื้นที่น้อย หลังสุดมีศพผู้เสียชีวิต ก็หาที่ฝังศพยากมาก ต้องยกขึ้นไปบนยอดเขา เพื่อที่จะฝังศพ เพราะพื้นที่เต็ม เป็นอุปสรรค จึงได้คุยกับชาวมอแกนหลายๆคนว่า จะทำอย่างไร เพราะหลังจากนี้หากมีคนเสียชีวิตก็จะไม่มีที่ฝังแล้ว


และเมื่อทราบว่าจะมีการล้างป่าช้า จึงได้ประสานมูลนิธิ ซึ่งมูลนิธินี้ก็เชื่อมโยงกับทางพี่น้องมอแกน เวลาเสียชีวิตก็จะมาเอาโลงที่นี่ ช่วยเหลือกันมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นข้าวสารอาหารแห้ง และมีการประสานกันในพื้นที่ ชาวบ้านก็เห็นชอบว่าดี แต่หลายคนยังไม่เข้าใจว่าการล้างป่าช้าคืออะไร เข้าใจกันว่าจะเอากระดูกไปทิ้ง จึงได้ประสานให้ทางมูลนิธิไปชี้แจงให้ชาวมอแกนรับทราบ หลังจากลงพื้นที่ชี้แจง ทุกคนก็ไม่มีปัญหา แต่ทางมูลนิธิ ก็ยังแจ้งให้กับทางชาวมอแกนทราบว่า หากศพใด ไม่ต้องการให้ขุด ก็ให้ทำสัญลักษณ์เอาไว้ว่า หลุมนี้ไม่ให้ขุด ที่มีการชี้แจงจนเข้าใจทั้งสองเกาะแล้ว และมีการลงลายมือเป็นลายลักษณ์อักษรเอาไว้


ส่วนผู้ร้องเรียนทางสื่อออนไลน์ น้องคนนี้ชื่อว่าแดง เขาไม่ได้อยู่ในพื้นที่หลายสิบปีแล้ว และคงไม่เข้าใจกระบวนการที่ทำกันมา สามเดือน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2566 ที่มีประชาคมกันมาตลอด การทำครั้งนี้ไม่ได้ปกปิดหมกเม็ด ทำแบบเปิดเผย ตนเองคิดว่าทำดีที่สุดแล้ว ประสานงานฝ่ายมูลนิธิ ฝ่ายชาวบ้านมอแกนในพื้นที่ ทำถูกทุกขั้นตอน แต่น้องเขาคงไม่เข้าใจ เพราะเขาไม่ได้อยู่ในพื้นที่ (เขาบอกว่าแม่เขาเสีย เราไปขุดกระดูกเขา) ในฐานะที่อยู่กับชาวมอแกนมา 20 กว่าปี ยืนยันนายแดง คนนี้แม่เขาชื่อนางเหียน ประมงกิจ ยังมีชีวิตอยู่ พ่อที่เสียชีวิตคนหลังสุดเป็นพ่อบุญธรรม เขาคงไม่เข้าใจกระบวนการ แต่คนที่อยู่ในพื้นที่ เข้าใจ


โดยนางเนาวนิตย์ แจ่มพิศ ได้พนมมือ พร้อมกล่าวว่า ในฐานะคนประสานงาน หากกระทำสิ่งหนึ่งอันใดที่ขาดตกบกพร่อง หรือทำให้ทางมูลนิธิเสียหาย ขอน้อมรับผิดทุกข้อ เพราะในครั้งนี้ตั้งใจสูงสุดของชีวิต เพื่อญาติโกโหติกา วงศ์ตระกูล ของตน จะได้สิ่งที่ดีๆ หากตนผิดพลาดก็ขอโทษด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News