รวบ 2 เยาวชน ตระเวนลักมิเตอร์น้ำ-คอมเพรสเซอร์แอร์ รับหาเงินซื้อยาบ้า ต้องเสพวันละ 10 เม็ด

ตำรวจตามรวบ 2 เยาวชน ตระเวนขโมยทั้งคอมเพรสเซอร์แอร์บ้าน และมิเตอร์น้ำประปา มีชาวบ้านเดือดร้อนแจ้งความกว่า 20 คน ไม่เว้นบ้านตำรวจ เจ้าตัวสารภาพจำเป็นต้องขโมยเอาไปขายเพื่อหาเงินมาซื้อยาบ้าเสพ ถ้าได้เสพ 10 เม็ดต่อวันกำลังดี



วันที่ 20 มี.ค.67 หลังจากชาวบ้านหลายรายร้องทุกข์ผ่าน พ.ต.อ.ยุทธนา ไตรทิพย์ ผกก.สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ ว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวน แอบขโมยคอมเพรสเซอร์แอร์บ้าน และมิเตอร์น้ำประปา ทำให้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านหลายครั้ง



จึงสั่งการให้ พ.ต.ท สืบสกุล เกงขุนทด รองผกก.(สืบสวน)เร่งติดตามหาคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ซึ่งจากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดหลายจุด คาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นฝั่ง อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ เข้ามาก่อเหตุเพราะเป็นแนวเขตติดต่อระหว่าง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ กับ อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์



ต่อมาได้เข้าไปควบคุมตัว 2 คนร้าย เป็ยชายอายุ 21 ปี และ 17 ปี ทำการตรวจค้นพบภายในบ้านเหลือทรัพย์สินที่ยังไม่ได้ขายหลายรายการประกอบด้วย 1. เครื่องคอมเพรสเซอร์แอร์ จำนวน 2 เครื่อง 2. คีมตัดสายไฟ จำนวน 1 ด้าม 3. ไขควง จำนวน 1 ด้าม 4. ประแจ จำนวน 1 ตัว (ด้านหนึ่งเบอร์16 อีกด้านหนึ่งเบอร์17) 5. รถเข็น จำนวน 1 คัน



ให้การกับตำรวจว่า มิเตอร์น้ำของชาวบ้าน จะใช้วิธีใช้มีดฟันให้ขาดแล้วเอามิเตอร์น้ำใส่ถุง แล้วขับรถหนีไปหลังจากได้มาจะเอามารวบรวมกับเพื่อน โทรศัพท์ให้คนรับซื้อของเก่ามารับถึงบ้าน ขายได้หม้อละ 120 บาท ยอมรับบางครั้งรู้ว่าเป็นบ้านตำรวจก็ไม่ได้สนใจ



ให้การด้วยว่า สาเหตุที่ต้องไปขโมยทรัพย์สินชาวบ้าน เพราะต้องการหาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ เพราะติดงอมแงม หลังจากรัฐบาลให้ถือครองยาบ้าได้ 5 เม็ด ก็เสพวันละ 5 เม็ดไม่อยากให้เกินกว่ากฎหมายกำหนด



ขณะที่ให้การว่ายอมรับว่าจำเป็นต้องหาเงินมาซื้อยาบ้ามาเสพ เพราะตามกฎหมายกำหนดคือถือครองได้ 5 เม็ด เอาไม่อยู่ ต้องเสพวันละ 10 เม็ด จึงออกหาขโมยทรัพย์สินชาวบ้านมาขาย ไม่เว้นคอมเพรสเซอร์แอร์บ้าน จะเข้าไปถอดเอาคอมฯแอร์ของบ้านใดก็ได้ที่เจ้าของไม่อยู่แล้วไปขายเป็นของเก่า สำหรับมิเตอร์น้ำจะใช้มีดไปฟันเอา ส่วนน้ำจะไหลทิ้งไม่ได้สนใจเพราะต้องการแค่มิเตอร์เท่านั้น



ทั้งนี้จากการตรวจปัสสาวะพบว่าเป็นสีม่วงทั้งสองคน เบื้องต้น ร.ต.อ มานิตย์ ศิริเวช รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.สตึก อ.สตึก เจ้าของคดี ตั้งข้อหา ทั้ง 2 คน “ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถานในเวลากลางคืน โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า หรือเข้าทางช่องทางซึ่งเป็นผู้ใจดีเปิดไว้ให้ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร, เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน)โดยผิดกฎหมาย”เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป