ชาวบ้านหินกองโวย โรงพักสร้างใหม่งบ 10 ล้าน ปิดให้บริการกะทันหัน จะร้องทุกข์ต้องเดินทางอีก 8 กม.

ชาวบ้านโวย ประชาชน 6 ตำบลในอำเภอหนองแคเดือดร้อนหนัก โรงพักหินกอง ที่เพิ่งสร้างใหม่ใช้งบ 10 ล้านบาท หยุดให้บริการประชาชนกะทันหัน ไม่มีการแจ้งใดแต่อย่างใด จะแจ้งความ ร้องทุกข์ ดำเนินคดี ต้องเดินทางไกลอีกกว่า 8 กิโลเมตร


วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ ต.หินกอง อ.หนองแค จ.สระบุรี ว่า สถานีตำรวจ สภ.หนองแค (สาขาย่อยหินกอง) ปิดการให้บริการพี่น้องประชาชนในด้านการแจ้งความหรือดำเนินคดีต่าง ๆ ซึ่งเคยได้รับความสะดวกในการบริการของเจ้าหน้าที่ตำรวจโรงพักหินกองมากกว่า 120 ปี และมีการแบ่งโซนในการรับผิดชอบทำคดี


ผลจากการปิดสถานีตำรวจ สภ.หนองแค (สาขาย่อยหินกอง) จึงทำให้ชาวบ้านได้รับความ เดือดร้อนกว่า 6 ตำบล 1 หมู่บ้าน ได้แก่ตำบลโคกแย้ ตำบลห้วยทราย ตำบลบัวลอย ตำบลหนองนาค ตำบลห้วยขมิ้น และชาวบ้านในเขตเทศบาลตำบลหินกอง จะต้องลำบากยิ่งขึ้นในการร้องทุกข์กล่าวโทษในการแจ้งความต้องเดินทางไปไกลเพิ่มอีก 8 กิโลเมตร


การที่โรงพักสาขาย่อยหินกองได้หยุดให้บริการ ไม่มีการแจ้ง หรือการประชาคมพี่น้อง ไม่มีการชี้แจงกรณีใด ๆ ในการโยกย้าย โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนที่ประจำอยู่โรงพักหินกอง ต้อนนี้ได้ย้ายไปที่ สภ.หนองแค หมดจึงสร้างความเดือดร้อนให้แก่พี่น้องประชาชน ที่จะเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ เพราะต้องไปไกลกว่าปกติ


แต่เมื่อประชาชนได้รับความเดือดร้อนจะเข้าไปร้องทุกข์ ได้พบว่าประตูถูกล็อกกุญแจ และติดป้ายหน้าประตูโดยมีข้อความว่า “งดการให้บริการชั่วคราวให้ไปที่ สภ.หนองแค” และอีกป้ายมีข้อความว่า “ติดต่อราชการให้ไปที่ สภ.หนองแคครับ” พร้อมเบอร์โทร 036-371500 จึงทำให้พี่น้องประชาชนที่จะมาใช้บริการเกิดความงุนงงเป็นอย่างมาก และมีการร้องเรียนทางเพจมากมายอีกด้วย


ตามประวัติแล้ว โรงพักหินกองได้ก่อสร้างมาเพื่อให้บริการพี่น้องประชาชนบริเวณดังกล่าวมาเป็นเวลากว่า 120 ปี มีการปรับปรุงซ่อมสร้างโรงพักมาแล้วจำนวน 2 ครั้ง อาคารเดิมเป็นอาคารไม้ ยกสูง 2 ชั้น และครั้งนี้คณะกรรมการ กต.ตร. หนองแค ได้ร่วมกันตั้งใจจัดทำสร้างวัตถุมงคลหลวงพ่อสำเร็จศักดิ์สิทธิ์รุ่นประวัติศาสตร์ตำรวจ เพื่อหารายได้มาสร้างอาคารโรงพักแห่งใหม่จนได้สำเร็จโดยใช้งบกว่า 10 ล้านบาทในการก่อสร้าง ด้วยจิตศรัทธาเพื่อจะเป็นที่พึ่งของพี่น้องประชาชนในบริเวณดังกล่าว


โดยมีการเปิดป้ายอาคารเมื่อ วันที่ 22 กันยายน 2566 โดยมี พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เป็นประธานในพิธีเปิด ต่อมาเมื่อมีคำสั่งโยกย้ายตำแหน่ง ผกก. ได้มี พ.ต.อ. ไปดำรงตำแหน่ง ผกก.สภ.หนองแค ได้มีคำสั่งให้ปิดงดรับบริการประชาชน ทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความงุนงง สงสัยว่าทำไมต้องปิดบริการประชาชน สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน


ด้านนางสาวสายฝน คชฤทธิ์ ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เล่าว่า ตอนนี้ทางโรงพักได้ย้ายไปอยู่ที่ สภ.หนองแค ทำให้ชาวบ้านที่อยู่ในพื้นที่หินกอง และ ตำบลอื่นๆได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไกลจากชุมชนที่อาศัยอยู่ การเดินทางก็ลำบาก และถ้าคนแก่อยู่กับหลานจะไปแจ้งความอะไร ไม่มีรถ ก็ไปยากลำบากขึ้น ซึ่งตอนนี้ในพื้นที่มีของหายกันบ่อยมาก อย่างเช่นมิเตอร์น้ำ จะหายบ่อยมากแทบจะทุกหลังคาเรือน และเมื่อจะไปแจ้งความก็มีระยะทางที่ไกล แต่ถ้าไม่ไปแจ้งก็ไม่สามารถจะมีน้ำใช้ ตนเองก็ยังงงว่าทำไมโรงพักก่อสร้างเสร็จแล้วทำไมถึงไม่เปิดให้บริการประชาชน และเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรก็ไม่มีไครอยากจะไปแจ้งความเนื่องจากว่าเป็นระยะทางที่ไกล ตนเองอยากให้ สภ.หนองแค (สาขาย่อยหินกอง) กลับมาเปิดให้บริการประชาชนเหมือนเดิม


ด้านนางบัวลอย ธรรมวัตร อายุ 59 ปี แม่ค้าขายหมูปิ้ง เล่าว่าทำไม่ต้องย้ายโรงพักด้วย เพราะในพื้นที่ก็มีประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งเวลาที่ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจะต้องเดินทางไปไกลกว่า 7 กม. โดยตนเองมองว่าไม่สมควรที่จะย้าย เนื่องจากว่าโรงพักที่นี่มีมานานแล้ว ทำไมต้องย้ายไปรวมกัน มีเหตุผลอะไร ซึ่งทาง อ.หนองแค ก็ยังไม่ใหญ่เท่าพื้นที่นี้ และเมื่อได้รับความเดือดร้อนก็จะต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ และจะให้วิ่งไปหนองแค คนจะไม่ฆ่ากันตายก่อนหรือ ซึ่งตนเองก็ไม่เข้าใจทำไมต้องย้ายด้วย


ส่วนนางสุคนธ์ ทิพย์ศรี อายุ 60 ปี เผยว่า ชาวบ้านในละแวกเทศบาลหินกองได้รับความเดือดร้อน เพราะว่าสถานีตำรวจหินกองมีมานานแล้ว ส่วนผลกระทบที่ชาวบ้านได้รับก็คือ เมื่อได้รับความเดือดร้อนต้องเดินทางไปไกลถึง อ.หนองแค ส่วนคนที่ไม่มีรถก็ลำบาก ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ส่งผลกระทบกันทั่วหน้า ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบเหตุผลว่าทำไมต้องย้ายด้วย ตอนนี้โรงพักสร้างมาใหม่เสร็จแล้ว มีพิธีเปิดเรียบร้อย ยังไม่เท่าไรเลยก็มาปิดทำการ ซึ่งแต่ก่อนก็เป็นโรงพักเก่าๆ เพิ่งสร้างขึ้นมาใหม่หมดงบไปเป็นสิบล้าน ตนเองไม่เข้าใจว่าเปิดแล้วมาปิดทำไม เปิดแล้วก็ต้องเปิดทำการ ทำไมต้องปิดแล้วไปอยู่หนองแคกันหมด ตนเองไม่เข้าใจ