สังคม

แม่ค้าขอเมินเงินดิจิทัล 1 หมื่น ถ้าต้องกู้เป็นหนี้ 5 แสนล้าน ปชช.รับกรรม ซัด หนี้เก่าก็ยังไม่หมด

10 ม.ค. 2567

851 views

แม่ค้าไม่เห็นด้วย “เงินดิจิทัล 1 หมื่น” ถ้ารัฐบาลต้องกู้ ประเทศเป็นหนี้ 5 แสนล้าน โอด หนี้เก่าก็ยังไม่หมด มาเพิ่มหนี้ใหม่ คนรับกรรมคือประชาชน ตั้งคำถาม หันมาลดค่าครองชีพดีกว่าหรือไม่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งคำตอบของคำถามที่คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet 10,000 บาท ส่งไปถามกฤษฎีกาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคำตอบกฤษฎีกาเป็นไปตามอำนาจของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และทางคณะกรรมการนโยบาย ที่จะดำเนินการกู้เงินตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กู้เงิน 5 แสนล้านบาท เพื่อทำโครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทได้ ซึ่งเชื่อมั่นว่าการเดินหน้าโครงการจะเป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนดให้สามารถใช้จ่ายได้เดือนพ.ค.2567 นั้น




ล่าสุดวันที่ 10 ม.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ร้านข้าวแกง ในตัวเมืองชัยนาท เจอกับนางสาวเรณู พานทอง 67 ปี แม่ค้าขายข้าวแกง เปิดเผยกับทีมข่าวว่า ตนไม่เห็นด้วยกับเงิน 10,000 บาท ที่รัฐบาลจะแจก ตอนแรกก็ดีใจเนื้อเต้นจะได้เงินหมื่นมาใช้จ่ายในธุรกิจให้เดินต่อ แต่พอมารู้ว่าประเทศต้องเป็นหนี้อีก 5 แสนล้านบาท ก็ไม่อยากได้แล้ว เพราะหนี้เก่าคงค้างยังไม่สามารถจ่ายได้หมดเลย หนี้ใหม่จ่อมาอีกแล้ว พอเงินหมดและจะเอาที่ไหนมาใช้หนี้ ต้องขึ้นค่าน้ำค่าไฟค่าน้ำมันค่าอุปโภคบริโภค สุดท้ายคนที่รับกรรมก็คือประชาชนตาดำๆ อีกเช่นเคย ทุกวันนี้ของสดต่างก็ขึ้นไม่หยุด ถ้าทำแล้วต้องมาลำบากคนรากหญ้าอีกหยุดเสียดีกว่า มาลดค่าครองชีพลดค่าของค่าน้ำมันค่าไฟจะดีกว่า



ขณะที่นางดาริณ สอนเจตน์ อายุ 67 ปี ชาวชัยนาท เผยว่า ตนมองเรื่องนี้เป็นเหรียญสองด้าน ทั้งเห็นดีและไม่ดี มีสองเหตุผล ที่เห็นด้วยเพราะเงินที่แจกนั้นสามารถเป็นประโยชน์สำหรับประชาชนแน่นอนสำหรับคนที่ไม่ค่อยมีเงิน ไปใช้ในการประกอบอาชีพซื้อวัตถุดิบได้ กระจายรายได้สู่ชุมชน ที่ไม่ดีเพราะ ประเทศต้องเป็นหนี้เป็นสินอีก สุดท้ายก็ต้องแล้วแต่ดุลพินิจของคณะรัฐบาลว่าจะเอาอย่างไรต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News