คลังเดินหน้าเงินดิจิทัล 1 หมื่น ยันจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ จ่อขยายใช้ทั้งจังหวัด-เปิดให้ลงทะเบียนยืนยันสิทธิ

วานนี้ (9 ต.ค.) นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังเร่งสร้างความมั่นใจเดินหน้าเติมเงิน 10,000 บาทผ่าน มาตรการดิจิทัลวอลเล็ต รู้สึกยินดีที่มีการถกเถียงกันในสังคมวงกว้าง ทั้งภาควิชาการ ภาคเอกชน และประชาชน ซึ่งเป็นบรรยากาศที่ไม่ได้เห็นมานาน ในการวิพากษ์วิจารณ์มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ที่ห่างหายเป็น 10 ปี ในรัฐบาลก่อนหน้า

พร้อมระบุ ขณะนี้สภาวะเศรษฐกิจประเทศไทย ยังไม่ได้เติบโตเต็มศักยภาพ และเติบโตช้ากว่าภูมิภาค ทำให้คุณภาพชีวิตประชาชนยังเปราะบาง มาตรการดิจิทัลวอลเล็ต จะช่วยกระตุกเศรษฐกิจให้เติบโตอีกครั้งและกระจายทุกพื้นที่ สร้างโอกาสการจ้างงาน สร้างการลงทุน เพิ่มการผลิต และเชื่อมั่นกลไกนโยบาย จะประสบผลสำเร็จ โดยรัฐจะได้รับเงินคืนมาในรูปแบบภาษี และเป็นการวางรากฐานเศรษฐกิจดิจิทัล และ e-Gorvernment ในอนาคต มุ่งเป้าเศรษฐกิจเติบโต 5% ในระยะ 3-4 ปีหน้า

ส่วนข้อวิจารณ์ว่ามาตรการดังกล่าว เป็นคริปโต เคอเรนซี่ จะมีการซื้อตุนไว้ ขอชี้แจงว่า เงินทุกบาทยังเป็นไปตามกฎหมายธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ไม่ใช่การพิมพ์เงินขึ้นมาใหม่ หรือเขียนโปรแกรมมาใหม่ ไม่มีการปรับมูลค่า แบคอัพบาทต่อบาท แต่ใช้ในบาทดิจิทัล ที่ถูกกำหนดเงื่อนไขการใช้ ให้มีมูลค่าเศรษฐกิจมากที่สุด เช่น ใช้ภายในระยะเวลา 6 เดือน กำหนดระยะทาง กำหนดประเภทห้ามใช้ มั่นใจว่ามีประสิทธิภาพกว่านโยบายอื่นๆ ที่ผ่านมา ที่ไม่สามารถนำไปสู่การออม นำไปใช้หนี้สิน แต่กระตุ้นให้เกิดการใช้จ่าย

สำหรับเงื่อนไขที่กำหนดรัศมีที่ใช้ใน 4 กิโลเมตร เป็นอำนาจคณะอนุกรรมการกำหนดเงื่อนไขดังกล่าวอีกครั้ง และมีความเป็นไปได้มีความขยายกรอบให้เกิดความคล่องตัว อาจเป็นตำบล อำเภอ หรือจังหวัด ได้ข้อสรุปภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้

ส่วนประเด็นแหล่งที่มาของเม็ดเงิน ต้องใช้เวลาในการพิจารณา แต่รัฐบาลจะยึดมั่นในวินัยการเงินการคลัง และใช้แหล่งงบประมาณเป็นส่วนใหญ่ คาดได้ข้อสรุปในสิ้นเดือน พร้อมจะฟังเสียงทุกภาคส่วน ทั้งภาควิชาการที่สนับสนุน หรือคัดค้าน ภาคเอกชนที่รอคอยด้วยความหวัง ก็จะนำความเห็นทั้งหมดไปหารือในชั้นคณะอนุกรรมการ ฟังความเห็น ประชาสัมพันธ์ทุกอย่างภายในสิ้นเดือนต.ค.

ทั้งนี้ ในวันที่ 12 ต.ค.จะมีการประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนครั้งแรก จากนั้น 19 ต.ค. ประชุมคณะอนุกรรมการเป็นครั้งที่ 2 หารือ ก่อนเข้าชุดใหญ่ และวันที่ 24 ต.ค.เสนอเข้า คณะกรรมการใหญ่ มีข้อเสนอหรือสั่งการอย่างไร เป็นการตัดสินใจชุดใหญ่ต่อไป

ด้าน นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ในกรณีของประเด็นคำถามที่ว่าจะมีการป้องกันการโกง ดิจิทัล วอลเล็ต ได้อย่างไรนั้น ในคณะกรรมการฯ มีการตั้งกระทรวงดีอีเอสในการนำตำรวจไซเบอร์เข้ามาในโครงการตั้งแต่ต้น

ส่วนประเด็นจำนวนเงินในโครงการทั้งหมด 560,000 ล้านบาทนั้น เกิดการตั้งเงื่อนไขโครงการสำหรับประชาชนที่มีอายุ 16 ปี ซึ่งคนไทยกลุ่มนี้มี 56 ล้านคน แจกเงินคนละ 10,000 บาท เท่ากับ 560,000 ล้านบาท นี่หมายถึงว่าทุกคนเข้าร่วมโครงการทั้งหมด แต่หากโครงการนี้เกิดขึ้นจริงจะต้องมีการลงทะเบียนและยืนยันตัวตนเข้าร่วมโครงการ เพราะฉะนั้นจะเกิดขึ้นจริงเท่าไร ต้องดูอีกครั้งหนึ่ง

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/1SRhs2ZN7Qs