แม่ร้อง ลูกสาว 4 ขวบถูกพ่อแท้ๆ ทำร้าย ก่อนพาไปอยู่สถานสงเคราะห์ อ้างเลี้ยงไม่ไหว เด็กป่วยจิต

วันที่ 22 ธ.ค. 66 นางสาวชลิดา หรือ ต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเพจเป็นหนึ่ง ,เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคม และ บ้านพักเด็กกรุงเทพและสมุทรปราการ ได้เข้ามาช่วยเหลือเด็กหญิง อายุ 4 ขวบ ในพื้นที่บางบอน กรุงเทพ หลังผู้เป็นแม่ได้รับออกจากสถานสงเคราะห์มาอยู่ด้วย นางสาวชลิดา เผยว่า หลังจากได้รับเรื่องจากแม่ของเด็กหญิง ตนก็ได้พาน้องไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งทางแพทย์ได้ให้ความเห็นว่า น้องไม่ได้ป่วยจิตเวชและเด็กในวัยนี้ไม่สามารถทำร้ายตนเองจนเป็นแผลได้ รวมไปถึงคำพูดที่พ่อของเด็กมีการกล่าวอ้างว่า เด็กมีการช่วยตัวเอง ซึ่งหลังจากที่ตนเองได้โพสต์เรื่องราวไป ก็ได้รับการติดต่อมาจากทางของพ่อของเด็ก ซึ่งทางด้านพ่อก็ยืนยันว่า น้องทำร้ายตัวเอง

นางสาวชลิตา ยังบอกอีกว่า จากการที่ตนเองได้มีโอกาสพูดคุยกับเด็ก ก็ได้เปิดเผยกับตนเองว่า ได้ถูกพ่อแท้ๆ แม่เลี้ยง และลูกติดของแม่เลี้ยงร่วมกันทำร้ายร่างกาย โดยการเอาหัวน้องไปโขกกับกำแพงบ้าง ใช้เข็มขัดฟาด ให้กินข้าวบูด และปากรรไกรใส่ ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พ่อก็ไม่ได้ช่วยห้ามหรือว่าช่วยเหลือแต่อย่างใด แถมร่วมกันทำร้ายด้วย โดยขั้นตอนกระบวนการตามกฎหมายหลังจากนี้ เบื้องต้นก็ได้ให้แม่เด็กไปแจ้งความ และพาตัวน้องไปตรวจร่างกาย ซึ่งก็รวบพยานหลักฐานเหล่านี้ไปดำเนินคดีกับคนที่ร่วมกันทำร้ายเด็ก

แม่ของเด็ก เล่าว่า ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2565 พ่อและแม่เลี้ยง มารับลูกสาวของตน ที่อาศัยอยู่กับยายและพี่สาว (ลูกติดสามีอีกคน) วัย 11 ขวบ ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาไปอยู่ด้วย ซึ่งตนต้องทำงานอยู่กรุงเทพฯ และจะกลับบ้านไปหาลูกสัปดาห์ละครั้ง โดยก่อนหน้านี้สามีของเธอเคยมารับลูกไปเที่ยวหรือค้างคืนและพากลับมาส่งบ่อยครั้ง แต่ครั้งนี้ผิดปกติบอกว่าจะพาไปฉีดวัคซีนและก็ไม่พากลับมาส่งอีกเลย

นอกจากนี้ยังข่มขู่ยายที่เป็นแม่ของตนและลูกสาว 11 ขวบว่า ห้ามให้แม่เด็ก มาตามหรือติดต่อกับลูกอีก จนกระทั่งเกือบ 1 ปี มารู้ว่าลูกถูกส่งไปยังสถานสงเคราะห์แห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ จึงรีบไปรับกลับ พบว่าตามร่างกายของน้องมีบาดแผลจำนวนมาก ก่อนข้อข้อมูลจากเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็ก โดยบอกว่าพ่อของเด็กนำมาฝากไว้ ซึ่งแจ้งเหตุผลว่าไม่สามารถที่จะเลี้ยงลูกได้ เพราะต้องทำงาน และอ้างเหตุผลอื่นให้บ้านพักเด็กรับเลี้ยง ตลอดจนแจ้งว่าน้องมีการรักษาอาการทางจิตเวชที่โรงพยาบาล

อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถขอใบรับรองแพทย์และประวัติการรักษาตัวของเด็ก เพื่อนำมาใช้ในการประกอบการดำเนินคดีกับสามีเก่าและแม่เลี้ยงได้ จึงอยากให้ผู้เกี่ยวข้องช่วยเหลือด้านกฎหมาย เพื่อดำเนินคดีกับคนที่ทำร้าย และเรียกร้องความยุติธรรมให้กับลูกสาวด้วย