สุดระทม! ทำนาไว้ 50 ไร่ ถูกครูมีอิทธิพลเกี่ยวข้าวเกลี้ยง อ้างเป็นที่ของตัวเอง วอนผู้รู้กฎหมายช่วยเหลือ

หญิงวัย 67 เข่าทรุด ทำนาบนที่ดินมรดกของพ่อไว้ 3 แปลงรวม 50 ไร่ กลับถูกอดีตครูอิทธิพล ห้ามไม่ให้เกี่ยวแล้วเข้าไปเกี่ยวเอาผลผลิตเอง อ้างเป็นที่ของตัวเอง ป้ายืนยันเอกสารสิทธิ์ ที่ดินมรดกของพ่อตั้งแต่ปี 2495

วันที่ 19 พ.ย. 2566 น.ส.เสน่ห์ โอรสรัมย์ อายุ 67 ปี ชาวบุรีรัมย์ ร้องเรียนผ่านสื่อขอความเป็นธรรม เพราะถูกข้าราชการอิทธิพลในตำบล บุกเข้ามาเกี่ยวข้าวในนาของตัวเองที่หว่านไว้กว่า 50 ไร่ ทั้งที่ทำนามานานกว่า 11 ปี

น.ส.เสน่ห์ นำหลักฐานการถือครองที่ดินซึ่งมีทั้ง นส.3 และ สค.1 จำนวน 3 แปลงรวม 50 ไร่ มาเป็นหลักฐานว่าที่ดินทั้ง 3 แปลง เป็นชื่อของนายรม โอรสรัมย์ พ่อของตัวเองที่เสียชีวิตไปนานแล้ว

น.ส.เสน่ห์ กล่าวว่า ที่ดินแห่งนี้มีคนมีฐานะซึ่งเป็นครูในหมู่บ้านเดียวกัน พยายามเข้าไปบุกรุกและถือครองที่ดินมาโดยตลอด แต่เธอกับพี่น้องที่เหลือ 3 คน พยายามต่อสู้เรื่อยมา ก็ได้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินตามปกติ แต่เริ่มมีปัญหาหนักขึ้นเมื่อปี 2555 เป็นต้นมา ฝ่ายครูพยายามบุกรุก เธอก็เข้าไปทำนาเพราะถือเป็นที่ดินมรดกจากพ่อ จนมีเรื่องทะเลาะกันมาโดยตลอดกับครูสองพี่น้อง

จนกระทั่งปีนี้เธอได้หว่านข้าวบนที่นาของพ่อจำนวน 3 แปลง แปลงแรก 25 ไร่ และที่ 2 จำนวน 11 ไร่ และแปลงที่ 3 จำนวน 14 ไร่ ลงทุนทำนาแปลงละ 10,000-20,000 บาท แต่พอถึงฤดูเก็บเกี่ยวปีนี้ เธอจะเข้าไปเกี่ยวข้าว กลับถูกอดีตครู ห้ามไม่ให้เธอเข้าไปเก็บเกี่ยว พร้อมกับขู่เจ้าของรถเกี่ยวที่จะมารับจ้างว่า ถ้าเข้าไปเกี่ยวจะแจ้งความ ทำให้ไม่มีรถเกี่ยวกล้าเข้าไปเกี่ยว สุดท้ายครูเอารถเกี่ยวข้าว เข้าไปเกี่ยวข้าวของเธอที่หว่านไว้ต่อหน้าต่อตา เธอไม่มีที่พึ่ง จึงปั่นจักรยานไปที่ สภ.เมืองบุรีรัมย์ เพื่อแจ้งความ แต่ตำรวจทำได้แค่บันทึกประจำวันเอาไว้

น.ส.เสน่ห์ กล่าวอีกว่า ตอนนี้เหมือนอยู่ตัวคนเดียว เพราะพี่น้องอีก 2 คนไปทำงานต่างจังหวัด ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร อยากให้ผู้รู้กฎหมายมาช่วยเหลือ เพราะเธออายุมากแล้ว ไม่มีความรู้เรื่องกฎหมาย ประกอบกับขาข้างซ้ายไม่มีแรง เวลาปั่นจักรยาน ต้องใช้ขาเดียวในการปั่น