สังคม
'เสี่ยบิ๊ก' ชี้ 'เสี่ยอั่งเปา' เป็นชื่อเก่า ยัน 'ดาว B สีเขียว' ไม่เกี่ยวส่วย แต่เกิดวันพุธ
โดย nut_p
10 พ.ย. 2566
116 views
ตำรวจ สน.พระโขนง ปล่อยตัวคนขับ-เจ้าของรถบรรทุกน้ำหนักเกิน หลังสอบเครียด ด้าน 'เสี่ยบิ๊ก' ชี้ 'เสี่ยอั่งเปา' เป็นชื่อเก่า ยัน 'ดาว B สีเขียว' ไม่เกี่ยวส่วยใด ๆ แต่ตนเกิดวันพุธ และอยากเป็นดาวรุ่ง จึงใช้สัญลักษณ์ดาวสีเขียว
เวลา 18.05 น. ตำรวจ สน.พระโขนง ภายหลังการสอบปากคำ กว่า 5 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายศักดิ์มงคล ทาสะโก หรือบอย อายุ 29 ปี คนขับรถบรรทุกคันเกิดเหตุ ออกจากบริเวณห้องประชุม ชั้น 4 ของโรงพัก ลงไปพิมพ์ลายนิ้วมือ เพื่อตรวจสอบประวัติอาชญากรในความผิด 2 คดี คือ ขับรถบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และข้อหาเดิม คือ ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส
ขณะควบคุมตัวนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามนายศักดิ์มงคล ว่ามีความเครียดหรือไม่ และทราบไหมว่าขับรถบรรทุกที่บรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด และก่อนที่จะขับออกมาจากไซต์ก่อสร้างมีคนช่างน้ำหนักหรือควบคุมดูแลอยู่หรือไม่
นายศักดิ์มงคล ตอบเพียงสั้นๆ ว่าไม่เครียด และไม่ทราบว่าตนเองขับรถบรรทุกที่บรรทุกมีน้ำหนักเกินที่กฎหมายกำหนด ซึ่งระหว่างนั้นไม่มีใครควบคุมดูแลอยู่
จากนั้นได้เจ้าหน้าที่ได้นำตัว นายวุฒิภัทร จันทรินทรากร หรือ เสี่ยบิ๊ก อายุ 32 ปี ลงไปพิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติฯ พร้อมแจ้งข้อหา เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระความผิดฯ
โดยเสี่ยบิ๊ก กล่าวว่า กรณีที่ได้พาดพึงถึง 'เสี่ยอังเป่า' ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ เป็นชื่อเก่า และที่มาของชื่อ เสี่ยบิ๊ก ตนเป็นทำธุรกิจไม่ขึ้นจึงไปดูดวง และได้มีหมอดูบอกว่าให้เปลี่ยนชื่อเป็นเสี่ยบิ๊ก จนกระทั่งเป็นข่าวดังโด่ง ส่วนเรื่องสติกเกอร์นั้น ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับส่วยใด ๆ ทั้งสิ้น เนื่องจากตนมีชื่อเป็นอักษรตัวบีอยู่แล้ว ประกอบกับตนนั้นเกิดวันพุธซึ่งเป็นสีเขียว เราอยากเป็นดาวรุ่ง จึงใช้สัญลักษณ์ดาวสีเขียวดังกล่าว
เสี่ยบิ๊ก กล่าวอีกว่า ตอนนั้นมีหลักฐานทุกอย่างเนื่องจากทำธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2561 ตนนั้นได้มีหลักฐานว่าติดสัญลักษณ์ดังกล่าวมานานแล้ว และยืนยันว่าไม่ใช่ป้ายเคลียร์ หรือป้ายส่วยใดๆ ทั้งสิ้น ติดไว้เพื่อเวลาไปเอาดินในสถานที่ต่างๆจะได้รู้ว่าเป็นรถของใคร โดยตนนั้นมีรถบรรทุกทั้งหมด 3 คัน และมีสัญลักษณ์ดาวเขียวติดอยู่ทั้งหมด ทั้งนี้สิ่งที่ตนพูดมีหลักฐานทั้งหมด โดยส่งมอบให้กับตำรวจทั้งหมดแล้ว
ส่วนกรณีที่มีการถ่ายเทน้ำมันออกจากรถคันที่เกิดเหตุนั้น เนื่องจากขณะเกิดเหตุถังน้ำมันแตกและเกิดการรั่ว กลัวว่าจะเกิดเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้น หากน้ำมันเมื่อไหลลงถนนแล้วจะเกิดการลื่นได้หากมีรถจักรยานยนต์ขับผ่านมา แล้วตนก็ไม่ทราบว่ารถที่บรรทุกมานั้นมีน้ำหนักเกิน เพราะเวลาตักดินงั้นจะใช้วิธีกะๆ เอาไม่ได้มีตาชั่ง ซึ่งตนได้มีการวิ่งรถเส้นนี้มานาน แล้วก่อนที่จะมีการเปิดฝาท่อเพื่อนำสายไฟลงดิน และตนยืนยันว่าทุกอย่างที่ตนพูดมานั้นมีหลักฐานทั้งหมดไม่ใช่พูดลอยๆ และได้ส่งหลักฐานไว้กับทางตำรวจทั้งหมดแล้ว
ด้าน นาย เสกสรรค์ ศรีหิรัญยางกูร 42 ปีทนายความ กล่าวว่า คดีนี้ที่เป็นข่าวขึ้นเพราะเกิดจากที่มีการเปิดปิดนำสายไฟลงไปทุกวัน ซึ่งตอนนั้นให้ทางพนักงานสอบสวนตรวจสอบ คานเหล็กที่ปิดฝาท่อนั้นรับน้ำหนักได้หรือไม่ ในส่วนของน้ำหนักเกินก็ว่าไปตามกฎหมาย ส่วนฝาท่อปิดไม่สนิทและเรื่องของคานเหล็กที่ไม่ได้มาตรฐานนั้นเรื่องนี้มีการตรวจสอบด้วยเช่นกัน
เบื้องต้นทาง เจ้าหน้าที่ได้มีการปล่อยตัวทั้ง 2 ราย เนื่องจากทั้ง 2 มีการเข้ามารายงานตัวตามหมายเรียก จึงไม่มีสิทธิ์ควบคุมตัว