สังคม

คืนเก้าอี้ '5 เสือ สภ.ช้างเผือก' หลังตรวจสอบไม่พบข้อบกพร่องปมจับผับเถื่อน

โดย panisa_p

6 พ.ย. 2566

113 views

จากกรณีฝ่ายปกครองพิเศษเข้าบุกตรวจสถาบบันเทิงในจ้งหวัดเชียงใหม่ และพบเยาวชนอายุต่ำกว่า 17 ปีเข้าใช้บริการถึง 200 กว่าราย และต่อมามีการเด้ง นายตำรวจ สภ ช้างเผือก มาช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจภูธรภาค 5 ต่อมาทางตำรวจ สภ ช้างเผือก ได้นำกำลังเข้าตรวจสอบร้านประกอบการที่มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองไปเลี้ยงฉลองกกัน และจับกุมเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปีอยู่ในสถานที่แห่งดังกล่าว ซึ่งถือว่าเป็นการเอาคืนฝ่ายปกครองพิเศษจากสา่วนกลางโดยตำรวจท้องที่ และต่อมามีการออกมาแถลงข่าวตอบโต้กัน และแก้ตัวกันอุลตลุด ตามกระแสข่าวตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น


ข่าวคืบหน้าวันที่ 6 พย 66 ที่สำนักงานตำรจภูธรภาค 5 ซึ่งได้มีการแถลงข่าวการจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ โดยมี พ.ต.อยู่.ทวี สอดส่อง รวม ยุติธรรม พล.ต.ต.กฤษธาพล ยี่สาคร รักษาการ ผบช ภาค 5 และนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้่ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวดังกล่าว


ต่อมา นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ม ได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวกรณี เรื่องการตรวจสถานบันเทิงในเชียงใหม่ทั้งสองหน่วยงานทั้งฝ่ายปกครองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนเกิดกระกแสเรื่องความขัดแย้งและมีการเด้ง นายตำรวจ สภ ช้างเผือกเชียงใหม่ และมีการดำเนินการจับกุมเพื่อเอาคืนซึ่งกันและกัน จนเกิดเป็นกระแสเรื่องความขัดแย้งของสองหน่วยงานดังกล่าวว่า วันที่เข้าตรวจสอบจับกุมสถานบันเทิงในเขตรับผิดชอบ สภ ช้างเผือก ที่ฝ่ายปกครองพิเศษจากส่วนกลางขึ้นมาจับกุม วันนั้นทางฝ่ายปกครองทั้งของจังหวัดเชียงใหม่และเจ้าหน้าที่ตำรวจท้องที่ สภ ช้างเผือกเชียงใหม่ก็ไป ไม่ได้มีความขัดแย้งกันแต่ประการใด เป็นการทำงานกันเป็นทีมไม่ได้มีคาามขัดแย้งกัน นี่คือความเป็นจริง


ผู้สื่อข่าวถามกรณีที่รองผู้ว่าเชียงใหม่ได้ทำหนังสือชี้แจงถึงอธิบดีกรมการปกครอง เรื่องหนังสือเอกสารที่ทางตำรวจ สภ ช้างเผือก เสนอปิดสถานบันเทิงในเขตรับผิดชอบที่กระทำผิดกฏหมาย แล้วทางจังหวัดออกมาอ้างว่าได้ทำเอกสารหาย เพราะมีการโยกย้ายห้องทำงานต่าง ๆ ทางผู้ว่าเชียงใหม่ได้เปิดเผยเรื่องนี้ว่า ทางตนได้ข้อมูลจากผู้กำกับ สภ.ช้างเผือก พ.ต.อ กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ว่า เคยทำหนังสือส่งให้ทางจังหวัดเพื่อเสนอปิดถสานบันเทิงในเขตรับผิดชอบที่กระทำผิดกฏหมายถึง 30 กว่า แห่ง


โดยเฉพาะสถานบันเทิงที่ถูกจับกุมล่าสุดนั้นทำเรื่องเสนอปิดไปถึง 6 ครั้ง นั้น ตนก็ได้ให้มีการไปตรวจสอบดูอีกครั้งว่า การเสนอปิดเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ทำไมผมถึงไม่เห็น ปรากฏว่า ผลการตรวจสอบพบว่า ไม่ใช่ 2 ปีนี้ เคยเสนอปิดสถานบันเทิงที่โดนจับกุมล่าสุดเมื่อปี 63 ตนได้ให้ไปหาว่าเรื่องดังกล่าวไปถึงไหนอย่างไร เพื่อดำเนินการ ตรวจสอบข้อเทฺ็จจริงและดำเนินการตามกฏหมาย


ปัจจุบันนี้สถานที่ถูกจับกุม คือ เลอเนิร์ส นั้นถูกจับกุมเมื่อวันที่ ่1 พย 66 วันนี้ตนได้เซ็นต์หนังสือสั่งปิดไปแล้ว ไม่ต้องรอตรวจสอบอะไรแล้วและห้ามใช้อาคารสถานที่ ตนในฐานะผู้ว่าได้ใช้อำนาจหน้าที่ที่อยู่ในขบวนการนั้นแล้ว ตอนนี้ตามขั้นตอนของกฏหมายก็ให้เขาชี้แจงมาภายใน 15 วัน หลังจากนั้นหากไม่มีอะไรก็ให้ดำเนินการสั่งปิดถาวร 5 ปี


ส่วนเรื่องของเจ้าหน้าที่นายอำเภอเมือง นั้นในวันนั้นได้มีการไปทำงานร่วมกัน จึงพบว่านายอำเภอและเิจ้าหน้าที่อำเภอเมืองเชียงใหม่ไม่ได้มีข้อบกพร่อง หรือมีการทุจริตในการเรียกรับรหือว่าไปจ่ายใต้โต๊ะอะไรใคร เราไม่ได้พบเหตุนั้น ทางเจ้าหน้ที่ฝ่ายปกครองและตำรวจท้องที่ก็ไปทำงานร่วมกันและไปเจอ เด็กอายุต่ำกว่า 20 ปี เจอเหตุการณ์นั้นเป็นหลักไม่ได้เจอยาเสพติด และไม่มีเจ้าหน้าที่ที่กระทำผิดกฏหมายหรือบกพร่อง แต่อย่างใด


สำหรับสถานประกอบการที่ฝ่ายปกครองพิเศษไปเลี้ยงฉลองกันและปิดเกินเวลาจนตำรวจช้างเผือก ไปจับกุม นั้น ผู้ว่า ได้เปิดเผยว่า สถานประกอบการจุดนี้เป็นเพียงร้านอาหาร ที่เขามีการไปกินกันเองและคงไม่มีความผิดอะไร


ทางด้าน พล.ต.ต.กฤษธาพล ยี่สาคร รักษาการ ผบช. ภาค 5 ได้เปิดเผยว่า ตอนที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก และฝ่ายปกครองทั้งพิเศษและจังหวัดเชียงใหม่มีการจับกุมสถานบริการที่มีเด็กเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีเข้าไปถึง 242 คน นั้น การทำงานตรวจสอบจับกุมสถานบริการ,บันเทิงที่กระทำผิดกฏหมายนั้นเป็นหน้าที่ของฝ่ายปกครอง,ตำรวจ,ตาม พ.ร.บ.สถานบริการ เรื่องนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง โดยให้ พล.ต.ต. ธวัชชัย พงษ์วิวัฒน์ชัย ผบก.ภ.จ.เชียงใหม่เป็นคนตั้ง และมีผลการสืบสวนมาแล้วว่า ทางตำรวจ สภ.ช้างเผือก ไม่มีความบกพร่อง ได้มีการตรวจตราดูแล และมีการจับกุมตลอดจนมีการเสนอสั่งปิดสถานบริการแห่งดังกล่าว


เมื่อทางตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ได้รายงานมาแล้วว่าตำรวจ สภ.ช้างเผือก ไม่ได้มีความบกพร่อง ตนจึงได้สั่งการให้ทาง พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก กลับไปปฏิบัติหน้าที่ที่ สภ. ช้างเผือกแล้ว วันนี้ เรื่องกระแสข่าวความขัดแย้งระหว่างปกครองกับตำรวจ นั้นไม่มีอย่างสิ้นเชิง เราทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ


ทางด้าน พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ. ช้างเผือกเชียงใหม่ได้เปิดเผยว่า ตนได้รับความเป็นธรรมกลับมาแล้ว ดีใจ ตนนั้นทำงานอย่างตรงไปตรงมา สถานบันเทิง หรือสถานประกอบการจุดไหนกระทำผิดกฏหมายตนได้เข้าดำเนินการและเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ปิดทันที รวมทั้งพวกลักลอบเปิดบ่อนและอบายมุกทุกประเภท ตนไม่ไว้หน้าอยู่แล้ว ดำเนินการตามกฏหมายอย่างเคร่งครัด และสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่อง ดีใจและภูมิใจที่ตนได้รับความเป็นธรรม ในครั้งนี้และได้ถูกส่งตัวกลับมาปฏิบัติหน้าที่อย่างเดิม อ่างไรก็ตาม ตำรวจ สภ.ช้างเผือก โดย ผกก. และผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ได้จับมือกัน เพื่อที่จะร่วมกันทำงานแบบบูรณาการกันต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News