เด็กเสิร์ฟร้องสื่อ โดนเมียตร.บุกจิกหัวตบคาร้าน เหตุเข้าใจผิดคิดว่าเป็นกิ๊กผัว

หัวหน้าเด็กเสริฟร้านอาหารป่า ในพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ ร้องสื่อขอความเป็นธรรม หลังโดนเมียตำรวจหึงบุกเดี่ยวตบคาร้าน จากเหตุผลเพื่อนผัวคอลวีดีโอกล้องไปชวนกินอาหาร แล้วตนเองยกมือสวัสดี

วันนี้ (14 ตุลาคม 2566) ที่ ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากหญิงสาว วัย 21 ปี กรณีถูกเมียตำรวจ บุกหาเรื่องถึงที่ทำงาน ทำร้ายร่างกายจนทำให้เธอได้รับบาดเจ็บ แถมยังอับอายเพื่อนร่วมงาน รวมถึงลูกค้าที่มาใช้บริการร้านที่เธอทำงานอยู่ ซึ่งได้ไปแจ้งความกับทางตำรวจแล้ว แต่ตำรวจได้เรียกหญิงสาวฝ่ายคู่กรณีมาปรับ 500 บาท ในข้อหาทะเลาะวิวาทเพียงเท่านั้น ซึ่งเธอบอกว่าข้อหาแค่นี้ มันไม่เหมาะสมกับสิ่งที่เธอโดนกระทำ หนำซ้ำ เรื่องที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เกี่ยวกับเธอด้วยซ้ำ พร้อมกับยืนยันว่า เธอไม่เคยรู้จักผัวที่เป็นตำรวจของฝ่ายคู่กรณีด้วยซ้ำ


เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวจึงได้เดินทางไปพบกับหญิงสาวที่ติดต่อมาร้องเรียน ทราบว่า เธอชื่อ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี โดยเธอได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวถึงวันที่เกิดเรื่องว่า ตนเองทำงานเป็นหัวหน้าเด็กเสริฟร้านอาหาร มีหน้าที่คอยต้อนรับ-ดูแล ลูกค้าอยู่ที่มาทานอาหารที่ร้าน แล้วมีอยู่วันหนึ่ง มีกลุ่มลูกค้าผู้ชาย 3-4 คน มานั่งทานอาหาร แล้วเขาก็ได้มาการเรียกตนเข้าไปพูดคุยด้วย


จากนั้นลูกค้าจะมีการวิดีโอคอลหาเพื่อนของเขา เพื่อจะชวนให้เพื่อนเขาออกมาหา โดยมีการเปิดกล้องให้ตนยกมือสวัสดีในการเชิญชวน แต่ปรากฏว่า คนที่รับสายไม่ได้เป็นเพื่อนของเขา แต่เป็นภรรยาของเขารับสายแทน จนกลายเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง เพราะทำให้ฝ่ายนั้น เกิดความเข้าใจผิด หาว่าตนเป็นคนติดต่อไปหา แล้วยังมาหาว่าตนชวนสามีของเขาด้วย


ซึ่งวันนั้น ตนสวัสดีทักทายผ่านกล้องตามมารยาท แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็เดินไปต้อนรับลูกค้าโต๊ะอื่นต่อ และคิดว่าฝ่ายของลูกค้าจะพูดคุยเคลียร์กับฝ่ายภรรยาของเพื่อนเขา แต่สุดท้าย ป่าวเลย เขาไม่เคลียร์ แถมยังปล่อยให้เรื่องลุกลามบานปลายจนเกิดเรื่อง


หลังจากที่หนูโดนเข้าใจผิด ปรากฏว่า เช้าวันต่อมามีแชทเฟซบุ๊ก จากหญิงสาวคนที่ไม่รู้จักส่งมาบอกว่า ลงมา ตอนนี้อยู่หน้าที่พัก แถมยังโทรมาหาด้วย แต่หนูก็ไม่รับสาย แล้วไม่เดินออกไปหา เพราะไม่รู้จักว่าเป็นใครมาจากไหน มารู้จักที่พักของหนูได้ยังไง แถมดูแล้ว น่าจะมาหาเรื่องหนูด้วย หนูจึงได้สืบค้นเฟซบุ๊กของหญิงสาวรายนี้ จึงทราบว่า หญิงคนนี้ เป็นภรรยาของเพื่อนลูกค้า


น.ส.เอ เล่าให้ฟังต่ออีกว่า วันโดนทำร้ายร่างกาย เป็นวันที่ 11 ตุลาคม ช่วงเวลลา 19.00 น. ซึ่งตนก็มาทำงานที่ร้านฯตามปกติ แต่จู่ๆ ก็มีหญิงสาวเดินเข้ามาหาตน แล้วถามด้วยเสียงที่ไม่ดีว่า ตนโทรไปหาผัวเขาทำไม ตนก็ยืนยันไม่ได้โทร จะดูกล้องไหม และท้าวเอวตอบว่าผัวพี่เป็นใคร จากนั้นก็ถูกจิกผมทำร้ายร่างกายตามคลิปกล้องวงจรปิด


น.ส.เอ บอกว่า ตนได้เดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ ไว้แล้ว แต่ปรากฏว่า ตำรวจได้มีการเรียกคู่กรณีเข้ามา แล้วก็เรียกตนให้เข้าไปเซ็นซื่อ ซึ่งตนยอมรับว่าสะเพร่า ไม่ยอมอ่านรายละเอียดก่อน เพราะคิดว่าเป็นเพียงแค่ใบบันทึกประจำวัน ที่ตำรวจจะนัดมาตกลงไกล่เกลี่ยกันในวันหลัง จึงได้เซ็นไป กลายเป็นว่า ในใบดังกล่าว เป็นใบเซ็นตกลงยินยอมไม่เอาเรื่องต่อกันอีกทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนฝ่ายหญิงคู่กรณี ถูกปรับ 500 บาท เพียงเท่านั้น ตนอยากถามว่า แบบนี้มันได้หรอ เขาอยากจะไปตบ ไปทำร้ายใคร ก็เสียงเงินเพียงแค่ 500 บาทเองหรือ


“เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด มั่นใจว่าเกิดจากความเข้าใจผิด ที่เพื่อนของเขาวีดีโอคอลไป แล้วให้หนูไปสวัสดีหน้ากล้องก็แค่นั้น หนูไม่เคยไปรู้จัก หรือเคยไปพูดคุยกับผัวของฝ่ายคู่กรณีเลยด้วยซ้ำ แล้วดูสิ่งที่เขาทำสร้างความอับอายทั้งเพื่อนร่วมงาน และลูกค้าทั้งร้านแบบนี้ โดนตำรวจปรับแค่ 500 มันไม่สมกับที่เขาทำกับหนูเลย


ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรต่อ น.ส.เอ บอกว่า จนหนทาง ก็ไม่รู้จะเอาเรื่องต่ออย่างไร เพราะเท่าที่ทราบว่า ทางฝั่งของคู่กรณี สามีเขาเป็นตำรวจอยู่ในพื้นที่เมืองนครสวรรค์ ซึ่งตนก็กลัวว่าจะไม่ปลอดภัย แต่อีกใจ มันก็ยังเจ็บฝังลึก และอยากจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด จึงได้เอาคลิปหลักฐานกล้องวงจรปิด และเป็ดเผยเรื่องราวทั้งหมดให้กับผู้สื่อข่าว ช่วยเป็นกระบอกเสียง ให้ทางฝ่ายคู่กรณีมารับผิดชอบ ด้วยการไหว้ขอโทษตนอย่างจริงใจ ตบตนที่ไหนต้องไปไหว้ที่นั่น และค่าทำขวัญที่ทำให้ตนเจ็บตัว ให้ต้องอับอายคนไปทั้งร้าน