สังคม

'สว.สมชาย' เผย 'ทักษิณ' ได้กลับบ้าน ก.พ.ปีหน้า เข้าเกณฑ์พักโทษ ไม่ต้องใส่กำไล EM

โดย panisa_p

25 ก.ย. 2566

249 views

การประชุมคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพ และการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา ในวันนี้ (25 ก.ย.) เชิญหน่วยงานดูแลนักโทษของกรมราชทัณฑ์มาชี้แจงในกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดยรองผู้บัญชาการสำนักงานยุทธศาสตร์ตำรวจ, โรงพยาบาลตำรวจ โดยรองนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ, กรมราชทัณฑ์ โดยรองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะผู้บริหารของกรมราชทัณฑ์เข้าชี้แจง


นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ชี้แจงก่อนเริ่มการประชุมโดยยืนยันว่า การเชิญหน่วยงานดูแลนักโทษของกรมราชทัณฑ์มาชี้แจงครั้งนี้ เพื่อติดตามเกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วย ให้เป็นไปตามหลัก และให้เป็นไปตามกระบวนยุติธรรมที่โปร่งใส หลังสังคมเกิดข้อสงสัยในบางประการ โดยยืนยันจะไม่ลงลึกถึงรายละเอียดที่จะกระทบต่อสิทธิของผู้ป่วย แต่เพื่อให้สังคมเข้าใจข้อมูลทั้งหมดอย่างตรงไปตรงมา พร้อมยืนยันการดำเนินการว่า เรื่องนี้ไม่ได้มีอคติทางการเมืองแต่อย่างใด และไม่ใช่การล้วงลูกหน่วยงาน เพียงแต่ต้องการสอบถามข้อมูล เพราะเรื่องดังกล่าว อยู่ในความสนใจของประชาชน


โดย นายสมชาย ได้เปิดเผยภายหลังการประชุมเสร็จสิ้นว่า ทั้งกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ได้ชี้แจงได้ในระดับหนึ่ง แต่ประเด็นอื่น ๆ ทั้ง 2 หน่วยงานไปหารือกับผู้บังคับบัญชาก่อนมาส่งคณะมาชี้แจงต่อไป ซึ่งหลังจากนี้ 1 เดือน กรรมาธิการฯ จะเรียกกลับมาชี้แจงอีก


ส่วนการขยายเวลาขอรับโทษ จะมีการขยายเวลา เพื่อรักษาตัวต่ออย่างไรนั้น นายสมชาย ระบุว่า กรมราชทัณฑ์ ได้ชี้แจงว่า นายทักษิณ ได้เข้ารับการตรวจรักษาเป็นนักโทษในแดน 7 ของโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และตลอดระยะเวลา ตั้งแต่ 22 สิงหาคม จนถึงปัจจุบัน ยังคงรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยมีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยดูแลควบคุม ไม่ได้กลับไปเลี้ยงหลานที่บ้าน ตามที่มีการตั้งข้อสงสัย


ส่วนอาการป่วย 4 โรคสำคัญ มีใบรับรองแพทย์จากสิงคโปร์ และสหรัฐอารับเอมิเรต แต่โรคใหม่ที่ต้องผ่าตัดนั้น รองนายแพทย์ใหญ่ฯ ยังไม่เปิดเผย ซึ่งอาการต่าง ๆ เป็นสิทธิของผู้ป่วย และญาติที่จะไม่เปิดเผย แต่กรรมาธิการฯ ได้แนะนำให้นายแพทย์ใหญ่ ไปหารือกับญาติ เปิดเผยข้อมูลเท่าที่เปิดเผยได้ เพื่อให้สาธารณชนเข้าใจ


ส่วนเมื่อนายทักษิณ ได้รับการผ่าตัดจนมีอาการเป็นที่น่าพอใจจะสามารถส่งตัวกลับโรงพยาบาลราชทัณฑ์ได้หรือไม่นั้น นายสมชาย ระบุว่า โรงพยาบาลราชทัณฑ์ ยืนยันแล้วว่า สามารถส่งตัวกลับมารักษาได้ และเมื่อหายป่วยแล้ว ก็จะส่งกลับเรือนจำ แต่ต้องเป็นไปตามดุลยพินิจของนายแพทย์ใหญ่ และญาติ


นายสมชาย ยังเปิดเผยข้อมูลที่กรมราชทัณฑ์ชี้แจงในกรณีที่นายทักษิณได้รับอภัยโทษแล้วสามารถขอได้อีกหรือว่า ตามเกณฑ์ของกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า จะต้องรับโทษก่อน 1 ใน 4 ในเรือนจำ หรืออีก 4 เดือน เพื่อขออภัยโทษในห้วงเวลาสำคัญ เช่น วันที่ 5 ธ.ค. แต่เนื่องจากวันที่ 5 ธ.ค. ยังไม่ครบ 4 เดือน ดังนั้น นายทักษิณ จึงยังไม่เข้าเกณฑ์ ที่จะขออภัยโทษเพิ่มได้ ในโอกาสสำคัญ


ส่วนการขอพักโทษ สามารถทำได้ โดยต้องเป็นนักโทษชั้นกลาง และถูกจำคุกไม่น้อยกว่า 6 เดือน หรือ 1 ใน 3 ซึ่งนายทักษิณ เข้าข่ายการขอพักโทษได้ในเดือนกุมภาพันธ์ โดยไม่ต้องใส่กำไลอีเอ็ม เพราะเป็นนักโทษสูงอายุ แต่การพักโทษจะมีเงื่อนไข จำกัดห้ามออกประเทศ ส่วนการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองสามารถได้ แต่จะสามารถไปดำรงตำแหน่ง ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ระหว่างพักโทษ ได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้มีระเบียบและคุณสมบัติกำหนดอยู่ ยืนยันว่าการพักรักษาที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ นับเป็นการอยู่ระหว่างรับโทษ


สว.สมชาย ยังระบุด้วยว่า รองนายแพทย์ใหญ่ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า อาการป่วยของนายทักษิณหนักจริงถึงขั้นต้องรักษาตัวในโรงพยาบาล เนื่องจาก รองนายแพทย์ที่มา ไม่ได้เป็นแพทย์ที่รักษาตัวนายทักษิณโดยตรง ทำให้ในเรื่องของอาการ กรรมาธิการไม่ได้รับข้อมูลเพิ่มเติม เพราะส่วนหนึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ป่วยและครอบครัว


ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าว ดำเนินการในรูปแบบการประชุมลับ โดยใช้เวลาการประชุมกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งในระหว่างการประชุม มี สว.เดินออกเป็นระยะ พร้อมระบุเป็นเสียงเดียวกันว่า "ไม่มีประโยชน์" เนื่องจาก หน่วยงานที่เชิญมา และผู้ให้ข้อมูลไม่สามารถชี้แจง หรือให้ข้อมูลใด ๆ ได้ เช่น อาการป่วย โรคที่ต้องรักษา หรือระยะเวลาในการรักษา โดยอ้างว่า เป็นความลับของผู้ป่วย รวมถึงหน่วยงานที่มาชี้แจง ทั้งกรมราชทัณฑ์ และโรงพยาบาลตำรวจ ต่างปฏิเสธให้การสัมภาษณ์ หรือเปิดเผยข้อมูลอื่น ๆ กับสื่อมวลชน

คุณอาจสนใจ

Related News