สลด คนงานชายเคราะห์ร้าย เข้าเกียร์ถอยหลังค้างไว้ ถูกแทรกเตอร์ถอยทับดับคาที่

คนงานเคราะห์ร้าย ใส่เกียร์ถอยหลังรถแทรกเตอร์ ก่อนนำแบตที่เพิ่งชาร์จใหม่มาใส่ พอติดเครื่อง รถแทรกเตอร์ถอยพุ่งชนดับคาที่

วันที่ 23 ก.ย.66 เมื่อเวลา 11.30 น. พ.ต.ต.ณัฐพัชร์ วิริยาลัย สว.สอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี รับแจ้งมีเหตุมีรถแทรกเตอร์ทับคนงานเสียชีวิตอยู่ภายในลานดินของร้าน ศ.วัฒนชัย เลขที่ 35/8 หมู่ 2 ถนนงามวงศ์วาน ต.บางเขน อ.เมือง จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครปอเต็กตึ๊ง



ในที่เกิดเหตุพบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายประวิตร พงษ์พิมาย อาย 64 ปี คนงานของร้านขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างดังกล่าว นอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ ถัดจากร่างของผู้ตายไปพบรถแทรกเตอร์เล็กจอดชนรั้วประตูเหล็กจนงอ จากการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าที่บริเวณตำแหน่งของคนขับรถ ที่คันเร่งของรถมีอิฐก้อนวางทับคันเร่งอยู่ พร้อมกับแบตเตอรี่อีก 1 ลูก ซึ่งมีลักษณะกำลังถูกชาร์จใหม่ โดยมีนางบุญเรียง ตะเรียนรัมย์ อายุ 53 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิตยืนร้องไห้อยู่ในที่เกิดเหตุ นางบุญเรียง



ภรรยาผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า สามีตนเองทำงานอยู่ที่ร้านวัสดุก่อสร้างแห่งนี้มานานกว่า 30 ปีแล้ว โดยในตอนเกิดเหตุไม่มีเพื่อนคนงานอยู่ในร้านด้วย ซึ่งสามีตนเองได้นำแบตเตอรี่ของรถแทรกเตอร์ออกมาชาร์จใหม่ เพื่อจะนำไปตักดินให้ลูกค้า แต่ถูกรถแทรกเตอร์ที่กำลังพ่วงแบตถอยหลังมาทับจนเสียชีวิต



ในเวลาต่อมานายเจริญพงษ์ พงษ์มิมาย 35 ปี ลูกชายผู้เสียชีวิต ที่ทราบข่าวเดินทางมายังที่เกิดเหตุแล้วพุ่งตรงเข้าไปกอดร่างและกราบเท้านายประวิตร บิดาที่เสียชีวิต ทางเจ้าหน้าที่ต้องช่วยห้ามและนำตัวออกมาสงบสติอารมณ์



โดยนายเจริญพงษ์ ลูกชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า รถแทรกเตอร์คันนี้ มีพ่อของตนกับเพื่อนคนงานอีกคนเท่านั้นในร้านที่ขับรถคันนี้ได้ เนื่องจากรถแทรกเตอร์คันนี้เป็นรถรุ่นเก่า แบตเตอรี่ไม่สามารถเก็บไฟได้แล้ว ทำให้ในแต่ละครั้งที่จะใช้งาน จะต้องนำแบตเตอรี่ของมาพ่วงชาร์จทุกครั้ง จึงจะสามารถใช้งานได้ ซึ่งที่ผ่านมาก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะพ่อของตนเองจะถอดแบตเตอรี่ของรถแทรกเตอร์ไปจั๊มกับแบตเตอรี่รถ 6 ล้อ แล้วนำกลับมาใส่ รถแทรกเตอร์ก็สามารถใช้งานต่อได้



แต่จากที่เห็นในวันนี้ ตนเข้าใจว่าพ่อของตนได้ถอดแบตเตอรี่แล้วนำไปจั๊มแบตกลับมาแล้ว แต่รถอาจจะสตาร์ทไม่ติดทำให้พ่อของตนเองตัดสินใจนำก้อนอิฐไปถ่วงวางไว้ที่คันเร่งของรถ เพื่อให้ตอนที่จั๊มแบตแล้วรถจะได้สตาร์ทติดได้ในทันที ซึ่งพ่อของตนน่าจะลืมเข้าเกียร์ว่างของรถไว้ แต่เกียร์รถไปอยู่ในเกียร์ถอยหลัง เมื่อพ่อของตนนำแบตเตอรี่ที่ชาร์จมาใส่ที่รถแล้วสตาร์ทเครื่อง จึงทำให้รถแทรกเตอร์ซึ่งใส่เกียร์ถอยหลังอยู่แล้ว พุ่งถอยมาทับร่างของพ่อตนจนเสียชีวิต ก่อนจะไหลไปชนกับรั้วประตู เสียชีวิต



เหตุการณ์ในครั้งนี้ตนเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ เพราะตอนเกิดเหตุ มีพ่อตนทำงานอยู่ในร้านคนเดียว ซึ่งตนไม่ได้ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต และเตรียมนำร่างของพ่อไปจัดพิธีศพที่วัดบัวขวัญต่อไป