สังคม

'อัจฉริยะ' ยัน 2 ตร.สอท. บริสุทธิ์ ไม่เกี่ยวปมรีดเงินผู้ต้องหา 140 ล้านบาท

โดย chiwatthanai_t

18 มิ.ย. 2566

75 views

'อัจฉริยะ' เปิดคลิปแฉ ยืนยันความบริสุทธิ์ ตำรวจ สอท. 2 นาย ไม่เกี่ยวข้องปมรีดเงิน 140 ล้านบาท ย้ำ ถ่ายคลิปตอนเก็บหลักฐานชัด ไม่รับรู้เงินของกลาง 360,000 บาท หลังตำรวจชลบุรียึดไป ขณะที่ 2 ตำรวจ เปิดใจอีกครั้ง ไม่เสียกำลังใจ พร้อมเชื่อมั่นในการปฎิบัติหน้าที่


วันที่ 18 มิถุนายน 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ อ่อนตา รองผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (รอง ผบก.สอท.2) และ พ.ต.ท.ปฐมพงษ์ มีอยู่ สารวัตรกองกำกับการวิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ กองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2 (บก.สอท.2) 2 ตำรวจที่ปรากฎชื่อว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการตบทรัพย์ได้มารับทราบข้อกล่าวหา พร้อมชี้แจ้งกับสื่อมวลชน ยืนยันว่าตนเองบริสุทธิ์ใจไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับเงิน


พ.ต.อ.ดำรงค์ศักดิ์ ระบุว่า เบื้องต้นได้รับทราบข้อเท็จจริง พร้อมชี้แจงว่า ชุด สอท. จะแยกการทำงานกับชุดตำรวจภูธรชลบุรี โดยหน้าที่ สอท. คือเก็บหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ ในระหว่างการตรวจค้น มีดำเนินการบันทึกวิดีโอ มีภาพถ่ายไว้ตลอด พร้อมปฏิบัติตาม พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. 2565 หรือ ‘พ.ร.บ. อุ้มหาย’ ตลอดระยะเวลาที่อยู่บ้านนายเป้ ผู้ต้องหา


หลัง สอท. เก็บเสร็จ ก็ส่งมอบให้เป็นอำนาจต้นทางคดี คือ ทาง ภจว.ชลบุรี นำไปดำเนินการต่อ หลังจากนั้นก็เสร็จสิ้นภารกิจของตำรวจไซเบอร์และกลับที่ตั้ง ส่วนทางตำรวจชลบุรีรับตัวผู้ต้องหา รับของในคดีไปทำอะไรต่อ สอท. ไม่ได้รับรู้ส่วนนั้น ตนเองยืนยันความบริสุทธิ์ใจ วันนี้ได้ให้การตามข้อเท็จจริง มั่นใจไม่มีการร่วมกระทำผิด โดยตอนนี้ได้รับทราบข้อกล่าวหาแล้ว หลังจากนี้จะรวบรวมหลักฐานมายืนยันว่าไม่ได้กระทำความผิด และจะเดินทางไปแจ้งความ ที่ สภ.คูคต หลังถูกกล่าวหา ที่ทำให้ตนเองเสียชื่อเสียง


พร้อมบอกอีกว่าคดีนี้เร่งรีบไปนิดหนึ่ง หากใช้เวลารวบรวมพยานหลักฐานให้มากกว่านี้ ก็จะเห็นกระบวนการทำงานจริงๆ เท่าที่ดูตอนนี้เป็นการแจ้งข้อกล่าวหารวมๆ เพราะยังไม่ได้ระบุว่าตนเองทำความผิดอะไรบ้าง แต่ก็ให้การตามข้อเท็จจริงไปหมด มั่นใจไม่ได้ร่วมกระทำผิดแน่นอน พร้อมชี้แจง


ด้าน พ.ต.ท.ปฐมพงษ์ กล่าวยืนยันว่าตนเองปฏิบัติตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากผู้บังคับบัญชาซึ่งระหว่างปฏิบัติหน้าที่ได้มีการถ่ายภาพและคลิประหว่างเข้าเก็บพยานหลักฐานตาม พรบ.อุ้มหาย ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองมองว่าอาจจะทำให้เกิดความยุ่งยากในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ทำให้ตนรู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะทำให้ตนมีหลักฐานในการชี้แจงการทำงานของตนเอง ตอนนี้ยังกำลังมีกำลังใจดีอยู่และผู้บังคับบัญชาโทรมาให้กำลังใจ พร้อมเชื่อมั่นในการทำงานและปฏิบัติหน้าที่ของตน


ด้านนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงษ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม เปิดเผยว่า ตำรวจ สอท.ทั้ง 2 คนเป็นเหยื่ออาชญากรรม จากการที่เข้าไปพูดคุยกับตำรวจในวันนี้ทั้งวัน มีตำรวจท่านหนึ่งบอกมีตำรวจใหญ่ระดับประเทศสั่งมา หลังจากทราบจึงต้องมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์


โดยตำรวจได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาตามมาตรา 157 กว้างๆ ค้นโดยมิชอบด้วยกฎหมาย  และข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวที่นำตัวนายหรั่ง คนขับรถเป้ไปที่ชลบุรี และอีกคำกล่าวอ้างของนายเป้ ว่า มีบุคคลภายนอกเข้าร่วมจับกุม และมีการลักทรัพย์เงินสดจำนวน 360,000 บาทไป ซึ่งจากการสืบสวนทราบว่านายบอยเป็นคนนำเงินไป ไม่ใช่ตำรวจ


ตามบันทึกแจ้งข้อหาพนักงานสอบสวนยืนยันว่า สอท. ทั้ง2 คน ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเรียกรับผลประโยชน์ หรือรีดไถเงิน 140 ล้านบาท เป็นเพียงการถูกกล่าวหาว่าไปอยู่ในชุดตรวจค้นที่บ้านนายเป้ และเป็นการค้นโดยมีบุคคลภายนอก 2 คนอยู่ด้วย ซึ่งนี่เป็นข้อกล่าวหาข้อพนักงานสอบสวน


ยืนยัน ทั้งสองคนมีการบันทึกวิดีโอไว้ตลอดการปฎิบัติงานเข้าตรวจค้นบ้านของนายเป้ ซึ่งตรงนี้จะเป็นหลักฐานที่ยืนยันความบริสุทธิ์ และยังมีรายงานสืบสวน สภ.คูคต ยืนยันว่าตำรวจทั้งสองนายมาหลังชุดปฏิบัติการชลบุรี มีภาพวงจรปิดที่ป้อมยามยืนยัน ที่ตอนนี้ ชุดสืบสวนของ สภ.คูคตไปเก็บหลักฐานมาเรียบร้อย


ข้อหาที่ตำรวจทั้งสองนายโดน ไม่ได้เกี่ยวกับการเรียกรับผลประโยชน์ วันนี้ก็ได้ส่งวิดีโอให้ผู้สื่อข่าว ซึ่งเรื่องเงินนายเป้ให้การเท็จ กับพนักงานสอบสวน ยังมีคลิปวิดีโอการตรวจนับเงินในเป้กับแม่นั่งอยู่ด้วย / กรณีเงินหาย 360,000 บาทนั้น ยืนยันไม่มีการเกี่ยวข้อง ซึ่งหลังส่งมอบเงินจำนวนดังกล่าวให้ทางชลบุรีไปแล้ว ทาง สอท.ไม่ทราบรายละเอียดจริง ๆ


หลังจากนี้นายอัจฉริยะ พร้อทนาย และตำรวจ 2 นาย จะดำเนินการไปแจ้งความที่ สภ.คูคต เพราะรู้แล้วว่านายเป้เป็นคนแจ้งความ เพียงผู้เดียวและมีนายหรั่ง คนขับรถของนายเป้เป็นพยาน

คุณอาจสนใจ

Related News