สังคม

รวบชายใช้สิทธิโกงค่ารักษา เบิกจ่ายยาตั้งแต่ปี 53 เสียหายรวมกว่า 1.2 ล้านบาท

โดย panisa_p

8 มิ.ย. 2566

2.7K views

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปราม เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม ร่วมกันจับกุม นายสุโขฯ อายุ 58 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลแขวงดอนเมือง ที่ 112/2563 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ฉ้อโกง” สถานที่จับกุม บริเวณโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร


พฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2563 สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) ได้ตรวจสอบพบความผิดปกติในการเข้าใช้สิทธิ์รักษาพยาบาลฉุกเฉินของผู้ป่วยรายหนึ่ง โดยพบว่า มีการขอเข้ารับการรักษาฉุกเฉินโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง จำนวนหลายครั้ง ทุก 2-3 วัน กับทางโรงพยาบาลของรัฐในหลายจังหวัดและขอใช้สิทธิหลักประกันสุขภาพในการเบิกจ่ายยารับประทาน, ยาพ่นและค่ารักษา ทำให้เกิดความเสียหายรวมกว่าล้านบาท


จากการสืบสวนสอบสวน พบว่าผู้ต้องหาได้เข้ารับบริการในหลักประกันสุขภาพหลายแห่ง ในช่วงเวลาใกล้เคียงกันและเมื่อตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังตั้งแต่ปี พ.ศ.2553 ถึงปี พ.ศ. 2559 พบว่ามีการขอเข้ารับบริการกรณีฉุกเฉินข้ามจังหวัดด้วยโรคปอดอุดกั้นเรื้อรังและโรคอื่นๆ เป็นจำนวนมากถึง 675 ครั้ง และเกือบทุกครั้งผู้ต้องหาจะได้รับยาในลักษณะเดียวกัน ทั้งชนิดยาเม็ดและยาพ่นสำหรับรักษาโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง


ซึ่งยาดังกล่าวตามหลักการแพทย์ สามารถพ่นได้ 200 ครั้ง/ขวด หรือใช้ได้นานถึง 60 วัน ราคาทั่วไปตามท้องตลาดยาพ่นดังกล่าวมีราคาสูงถึงประมาณ 350-400 บาท เป็นต้น ซึ่งเป็นไปไม่ได้ว่าผู้ต้องหาจะมีอาการป่วยจนต้องเข้ารับการรักษาและขอรับยารักษาจำนวนมากจากหลายโรงพยาบาลต่างพื้นที่ในเวลาเดียวกัน


ทำให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้รับความเสียหายตั้งแต่ พ.ศ.2553 ถึงปี พ.ศ. 2559 คิดเป็นเงินจำนวน 1,231,790.86 บาท สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงส่งเจ้าหน้าที่ตัวแทนเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กองกำกับการ 1 กองบังคับการปราบปราม เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหาตามกฎหมาย


ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาจะมาเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำกำลังไปเฝ้าสังเกตการณ์ พบผู้ต้องหามารับการรักษาจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าแสดงตัวและทำการจับกุม จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน กก.1 บก.ป. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News