สังคม

สุดสลด นร.พาณิชย์นาวี โดดน้ำเก็บลูกจาก ขากลับหมดแรง จมดับต่อหน้าเพื่อน

โดย nut_p

4 มิ.ย. 2566

609 views

พบร่างนักเรียนพาณิชย์นาวี วัย 21 ปี ฝึกงานบนเรือปูนซีเมนต์ ได้เพียงแค่ 10 วัน จมน้ำดับต่อหน้าเพื่อน หลังจากจมสูญหายครบ 24 ชั่วโมง ร่างได้ลอยติดเรืออวนลาก เพื่อนเล่าวินาทีสะเทือนใจ กระโดดลงน้ำไปเก็บผลจากริมตลิ่ง เมื่อว่ายกลับเพื่อนน่าจะหมดแรงตะโกนให้ช่วย แต่สุดท้ายเสียใจที่ไม่สามารถช่วยเพื่อนไว้ได้ทัน



เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ 4 มิ.ย. 66 ร.ต.อ.บุญเลิศ หวานแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.กันตัง ได้รับแจ้งเหตุพบศพนักเรียนพาณิชย์นาวี ซึ่งฝึกงานเป็นลูกเรือบรรทุกปูนซีเมนต์ ลอยน้ำเสียชีวิตอยู่ภายในแม่น้ำตรัง บริเวณ หมู่ 1 ต.กันตังใต้ อ.กันตัง จ.ตรัง หลังจากผู้เสียชีวิตได้จมน้ำสูญหายไปเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 2 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำกันตัง และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บรรเทากันตัง)



ถึงจุดที่พบร่างผู้เสียชีวิต อยู่ห่างจากจุดที่จมสูญหายประมาณครึ่งกิโลเมตรโดยถูกกระแสน้ำพัดพามา ซึ่งร่างผู้เสียชีวิตได้ลอยติดอยู่กับเรืออวนลากขนาดใหญ่ภายในแม่น้ำตรัง ทราบชื่อคือนายธนากร ปทุมพร อายุ 21 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98 หมู่ 1 ต.โพนทัน อ.คำเขื่อนแก้ว จ.ยโสธร ซึ่งเสียชีวิตในสภาพเปลือยกาย มีบาดแผลฉีดขาดหลายจุดทั่วร่างกาย ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำร่างกลับเข้ามาขึ้นฝั่งบริเวณท่าเรือกันตัง เพื่อนำส่งชันสูตรเบื้องต้นที่ รพ.กันตัง ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่ บรรดาญาติพี่น้อง และเพื่อนๆ ที่มารอรับร่างผู้เสียชีวิต



นายวิทวัส (สงวนนามสกุล) หรือบอล อายุ 20 ปี เพื่อนผู้เสียชีวิต เล่าว่า ตนเองและผู้เสียชีวิตเป็นเพื่อนกัน ซึ่งเป็นนักเรียนพาณิชย์นาวี ถูกส่งมาฝึกงานเป็นลูกเรือบรรทุกปูนซีเมนต์ ได้เพียงแค่ประมาณ 10 วัน ซึ่งหลังจากฝึกเสร็จก็จบการศึกษารอที่จะทำงาน โดยก่อนเกิดเหตุ มาขึ้นของที่ท่าเรือแสงทอง อ.กันตัง เพื่อที่จะเดินทางต่อไปส่งของ ที่เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ซึ่งในระหว่างนั้นเรือได้จอดลอยลำอยู่กลางแม่น้ำบริเวณหน้าท่าเรือยูโสบ ต.บ่อน้ำร้อน จ.ตรัง เพื่อที่จะรอให้เรือยนต์เข้ามาลาก โดยในระหว่างที่รอนั้น อยู่ในช่วงน้ำลง ตนได้กระโดดลงน้ำ เพื่อว่ายไปเก็บผลลูกจาก ที่ขึ้นอยู่ริมตลิ่งห่างจากเรือไปประมาณ 4-5 เมตร เมื่อตนว่ายลงมาปรากฏว่าผู้เสียชีวิตได้กระโดดว่ายตามลงมาด้วย ตนก็ได้ยืนรออยู่ริมตลิ่ง ก่อนที่จะได้ผลลูกจากมาคนละทลาย โดยถือและว่ายกันมาคนละทลาย และว่ายจะกลับขึ้นเรือพร้อมกัน



นายวิทวัส กล่าวอีกว่า ซึ่งตนได้ว่ายขึ้นบริเวณหัวเรือ ส่วนผู้เสียชีวิตจะว่ายขึ้นกลางลำเรือ ก่อนจะว่ายกันไปคนละฝั่ง โดยที่ตนถึงหัวเรือก่อน แต่เหนื่อยและล้ามาก จึงได้เกาะล้อยางข้างเรือไว้ เพื่อพักหายเหนื่อย ก่อนจะหันไปมองดูเพื่อน ซึ่งกำลังจะว่ายถึงลำเรือแล้ว แต่มีอาการคล้ายจะหมดแรง หรือเป็นตะคริว ตรงนี้ตนก็ไม่แน่ใจ ก่อนที่เพื่อนจะทิ้งทลายจาก โดยที่เพื่อนพยายามจะจับล้อยางแล้ว แต่ปรากฏว่าจับไม่ได้ ได้เพียงแค่เตะๆ ก่อนที่เพื่อนจะตะโกนบอกว่า "บอลช่วยด้วย" ตนจึงรีบว่ายไปช่วย ในช่วงที่เพื่อนกำลังตะเกียกตะกาย แต่เมื่อว่ายไปถึงเพื่อนกลับจมน้ำลงไปแล้ว ตนก็ได้ดำลงไปช่วยแต่มองอะไรไม่เห็นจริงๆ ก่อนที่ตะโกนให้คนบนเรือลงมาช่วยต่อ



อย่างไรก็ตามเบื้องต้นทางญาติไม่ได้ติดใจในสาเหตุของการเสียชีวิต ก่อนที่จะให้ทางเจ้าหน้าที่นำร่างส่งไปผ่าพิสูจน์อย่างละเอียดที่ รพ.สงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เพื่อนำผลมาประกอบกับสิทธิประโยชน์ต่างๆที่ผู้เสียชีวิตควรจะได้รับ

คุณอาจสนใจ

Related News