สังคม

บริษัทติดต่อกลับ สาวกินยาขาวแล้วฉี่ม่วง คาดเป็นของปลอม 'สารยาบ้า' ราคาเป็นล้าน ไม่นำมาผสมแน่นอน

โดย nut_p

28 พ.ค. 2566

483 views

ตัวแทนบริษัทยาติดต่อกลับแม่สาว 19 กินยาขาว แล้วพบ 'สารยาบ้า' ในร่างกาย คาดเป็นของปลอม ยืนยันไม่นำมาผสมในผลิตภัณฑ์แน่นอน เพราะมีราคาแพง ด้านแม่ยังยืนยัน ยาที่ลูกสาวกินเป็นของจริง  และไม่ได้กินยาชนิดอื่นมาก่อน



วันที่ 28 พ.ค. 66 กรณีนางสาว นันท์นภัส ไชยทะเศรษฐ 45 ปี 19 ม.6 อ. ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ร้องผ่านสื่ออยากให้เป็นตัวกลางไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมผิวขาว ยี่ห้อดัง



หลังจากนางสาวอามานา มุภาษา อายุ 19 ปี ลูกสาวของตัวเองทานเข้าไป 1 เม็ดก่อนจะเดินทางไปตรวจร่างกายเพื่อเอาผลไปแนบประกอบในการมอบตัวเรียนคณะเภสัช มหาวิทยาลัยขอนแก่น ในวันที่ 31 พ.ค.นี้ แต่ปรากฏว่าแพทย์พบสาร 'เมทแอมเฟตามีน' ซึ่งเป็นสารชนิดเดียวกันในยาบ้าอยู่ในปัสสาวะ ทำให้แพทย์ไม่กล้าออกใบรับรองแพทย์ให้ได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น



ล่าสุดตัวแทนบริษัทอาหารเสริม ได้โทรศัพท์ติดต่อมาหานางสาวนันท์นภัส โดยตัวแทนบริษัทพยายามอธิบายถึงที่มาที่ไปของผลิตภัณฑ์ ว่าผลิตมาได้ผลิตจำหน่ายมานานกว่า 1 ปี เป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่นิยมทั่วไป



ตัวแทนบริษัทคุยกับแม่เด็กว่า เท่าที่ทราบสาร 'แอมเฟตามีน' มีราคาสูงกิโลกรัมละเป็นล้านบาท บริษัทไม่นำมาผสมในผลิตภัณฑ์อย่างแน่นอน หากพบสารฯในตัวผลิตภัณฑ์จริง น่าจะเป็นของปลอมที่มีการลอกเลียนแบบขึ้นมา บางรายกินอาหารเสริมยี่ห้ออื่นที่เป็นของปลอม ถึงกับเสียชีวิตมาแล้ว ทั้งนี้ทางบริษัทพร้อมให้คำแนะนำหรือหาแนวทางช่วยเหลือลูกสาวที่จะไปมอบตัวเรียนต่อ



นางสาวนันท์นภัส กล่าวว่าเท่าที่ประสานติดต่อกับผู้ขาย มีการโทรศัพท์คุยกันหลายขั้นตอน รวมถึงบริษัทผู้ผลิตเอง ได้ยืนยันมาก่อนหน้านี้แล้วว่า 'เป็นของจริง' ส่วนลูกสาวไม่ได้กินยาชนิดอื่น หรืออาหารเสริมอื่นมาก่อน กินอาหารเสริมชนิดนี้เพียงเม็ดเดียวตอนกลางคืนก่อนจะไปตรวจร่างกายในเช้าวันถัดมา



กรณีที่ตัวแทนบริษัทอ้างว่า 'แอมเฟตามีน' มีราคาสูงกิโลกรัมเป็นล้านบาท ทำไมคนผลิตของปลอม ตามที่ตัวแทนบริษัทกล่าวอ้าง จึงกล้าซื้อมาผสมแล้วขายถูกกว่า



ยอมรับว่าตอนนี้ยังกังวลกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงเข้าไปลงบันทึกประจำวันไว้ที่ สภ.ประโคนชัย อ.ประโคนชัย เอาไว้แล้วโดยจะทำทุกอย่างเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์ของลูก ว่าไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะก่อนหน้านี้ไปตรวจร่างกายเพื่อส่งเอกสารไปยังมหาวิทยาลัยแล้ว 3 ครั้ง ไม่เคยเจอสารนี้ ก่อนจะมากินเม็ดเดียวดังกล่าว

คุณอาจสนใจ

Related News