สังคม
ตร.วิ่งวุ่นจับ 2 หนุ่มหลอนยา คนหนึ่งปีนหลังคาบอกจะบิน อีกคนบุกพังข้าวของชาวบ้าน-วัด
โดย nut_p
24 ก.พ. 2566
97 views
จับคนคลั่งหลอนยาเป็นภารกิจหลัก ตร.ไล่จับชายหลอนยา 2 คน ภายในวันเดียว คนหนึ่งปีนหลังคาบ้านบอกจะบิน ต้องใช้เวลากล่อมอยู่นาน 40 นาที กว่าจะยอมลง ไม่ทันไรก็ไก้รับแจ้งให้ไปจับหนุ่มหลอนยาอีกคนที่บุกทำลายข้าวของชาวบ้านและวัด
วันนี้ (24 ก.พ.66) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.00 น.พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.หนองหาน รับแจ้งมีเหตุหนุ่มคลั่งและหลอนปีนหลังคาขู่จะทำร้ายฆ่าแม่ และอีกรายวิ่งทำร้ายข้าวของชาวบ้านและภายในวัด ที่บ้านโคกถาวร หมู่ 10 ต.พังงู อ.หนองหาน จ.อุดรธานี หลังรับแจ้งจึงได้สั่งการได้นำกำลังชุดสายตรวจรถยนต์ สายตรวจรถจยย. และตร.ชุดสืบสวน รุดไปยังที่เกิดเหตุทันที
เมื่อไปถึงบ้านเลขที่ 226 หมู่ 10 บ้านโคกถาวร พบนายอนุชา จันทรเสนา หรือ ริน อายุ 32 ปี ลูกชายเจ้าของบ้านใส่กางเกงขาสั้นสีดำ ไม่สวมเสื้อ ปีนอยู่หลังคา พร้อมชูไม้ชูมือ ร้องตะโกนโวยวาย บางครั้งได้ยิน ฉันจะบิน สู่ความเว้งว้างอันไกลโพ้น ใครอย่ามายุ่งกับบ้านผม และปีนหลังคาเดินไปมาระหว่างบ้านใกล้เคียง แถมใช้เท้ากระแทกหลังคาดังเป็นระยะ ๆ บางครั้งร้องไห้ออกมาบอกว่าแม่และพี่น้องก็ไม่ช่วย ตร.จะมาจับผม และวิ่งไปมาระหว่างหลังคาบ้านตนเองและญาติพี่น้อง ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ร้องตะโกนหาแม่เหมือนน้อยใจแม่อะไรสักอย่าง "ฆ่าผมให้ตายเลยครับพี่ตร." เสียงนายรินร้องไห้บนหลังคาตลอดเวลา
ขณะที่ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ตร.ก็พยายามเกลี้ยกล่อมก็ไม่ยอมลงมา จนตร.บางนายต้องปีนหลังคาขึ้นไปเข้าไปใกล้ ๆ เพื่อเกลี้ยกล่อมและสัญญาจะไม่มีใครทำร้ายและให้ลงมาโดยดี ขณะที่แม่ที่อยู่ด้านล่างทั้งร้องไห้และร้องตะโกนขอให้ลูกชายลงมา สุดท้ายตร.ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมเกือบ 40 นาที นายรินจึงยอมลงมาแต่โดยดี แต่ยังร้องไห้ตลอดเวลา
ตร.เข้าตรวจค้นยาบ้าพบยาบ้าภายในห้องจำนวน 61 เม็ด และอุปกรณ์การเสพ และพบว่ามีการเผาและตัดเศียรพระพุทธรูปทิ้งด้วย สอบถามแม่ทราบว่าลูกชายเคยไปทำงานเกาหลีเพิ่งกลับมาบ้านก่อนปีใหม่เพิ่งได้เก็บเงินเก็บทอง แต่ติดยาบ้ามาจากเกาหลีจนมาหลอนทุกวัน ตร.คาดว่านายรินเสพยาบ้าจนหลอนอย่างหนัก จึงควบคุมตัวไปยังสภ.หนองหานทันที
ขณะเดียวกันพอเสร็จจากเกลี้ยกล่อมนายรินปีนหลังคาได้สำเร็จ ตร.ชุดเดียวกันก็ได้รับแจ้งมีเหตุหนุ่มหลอนยาวิ่งทำลายสิ่งของชาวบ้านและภายในวัดตั้งแต่เช้า จนชาวบ้านผวา ตร.จึงไปตามจับกุมนายราหู กิจแสงทอง หรือฉายา สิงห์บ้านโคก โดยจับกุมได้ที่กระท่อมนาท้ายหมู่บ้าน ตรวจสารเสพติดพบเป็นสีม่วง จึงนำตัวมายังสภ.หนองหานอีกราย สำหรับวันนี้แค่ครึ่งวันตร.หนองหานจับหนุ่มหลอนและคลั่ง จนบอกเป็นภารกิจหลักไปแล้ว แต่ตร.ไม่ย่อท้อ
ต่อมา เวลา 16.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังเกิดเหตุที่บ้านโคกถาวร พบกับนางวรัทยา ผู้เป็นแม่ พาไปดูลูกชายเผาพระพุทธรูปในหิ้งพระจนไหม้ และตัดเศียรไป 3 องค์ และพาไปดูมีดตะขอคมกริบที่เอาไปซ่อนลูกชายเอาไว้ รวมทั้งมีดครัวหรืออะไรที่เป็นเหล็กแหลม ๆ ต้องเอาไปซ่อนลูกชายไว้ กลัวหลอนยาฆ่าแม่ทิ้ง
นางวรัทยา บุริภักดิ์ อายุ 52 ปี ผู้เป็นแม่ เปิดเผยว่า วันนี้ลูกชายเสพยาและหลอนหนัก หลอนว่าจะมีคนตามมาฆ่าตลอด โดยเฉพาะกลางคืนจะเดินรอบบ้านตลอดเวลาแทบทุกคืน บอกว่านอนไม่ได้เพราะจะมีคนมาฆ่าตลอดเวลา ลูกชายเขาติดยาหนักกลางคืนหลอน เปิดแล้วปิดไฟ เปิดปิดน้ำ และเดินรอบบ้าน จะเผาบ้านทิ้งแล้วสร้างใหม่ อ้างว่าตัวเองเป็นเทพ เงินจะเสกมาใหม่ แล้วอุ้มพระพุทธรูป 5 องค์มาเผาทิ้ง แล้วตัดเศียรพระพุทธรูปไปแล้ว 3 องค์ หัวอกแม่ทุกข์ใจอย่างมาก นอนร้องไห้ทุกวัน แต่ละวันไม่ได้ทำงาน เฝ้าแต่ลูกชาย กลัวเขาจะฆ่า เผาบ้านและไปทำร้ายเพื่อนบ้าน คิดหนักมาก ต่อไปคงเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ โล่งอกอย่างมากที่ลูกชายจะได้ไปบำบัด และเสียดายอนาคตเขา "ตอนเขาไม่ติดยาเขาทำงานเก่งมาก แม่เสียดายลูกชาย หมดหนทางแล้วตอนนี้ จึงได้แจ้งตร.มาจับ" ผู้เป็นแม่กล่าวทั้งน้ำตา
นายเชิดชัย ธรรมกิจ สมาชิก อบต.พังงู เปิดเผยว่า ก่อนเที่ยงวันนี้ ตร.มาก่อนไม่กี่นาย สักพักเห็นตร.เรียกกันมาเพิ่ม ตร.คงมาทั้งโรงพัก เพราะดูแล้วนายรินจะอาละวาดหนักกลัวจะทำร้ายคนใกล้ชิด จากนั้นนายรินเห็นตร.ก็วิ่งเข้าบ้านปีนหลังคา แล้วก็ร้องโวยวายบอกว่า แม่ไม่ช่วยที่ตร.จะมาจับผม แม่ก็ร้องไห้เพราะสงสารลูก อยากให้ลูกไปบำบัด สำหรับนายรินแต่ก่อนไปทำงานที่เกาหลีเก็บเงินกลับมาบ้านได้ซื้อรถยนต์และมาอยู่บ้านกับแม่ แต่เสพยาหนักจึงทำให้หลอนอาละวาด ชาวบ้านห่วงเขาจะทำร้ายลูกเล็กเด็กแดงหรือทำร้ายคนในหมู่บ้าน จึงได้แจ้งตร.มาจับกุมไป ตอนนี้ก็โล่งอก แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่เสพยาและป่วยจิตเวชแบบนี้
ทางด้านนายศักดา ห้าวหาญ ผญบ. ม.10 เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์นี้ตนเองมีมาตรการแนวทางป้องกันคือจะมีการเรียกประชุมลูกบ้านโดยให้แนวทางกับผู้ปกครองช่วยดูแลบุตรหลานหากบุตรหลานมีการมีอาการผิดสังเกตให้รีบรายงาน นอกจากนี้เราจะเข้าหารือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือป้องกันในระยะยาวต่อไป ทั้งนี้ในหมู่บ้านมีลูกบ้านมีพฤติกรรมแบบนี้หลายคนมีการส่งตัวไปเข้าคุกเทียวออกเทียวเข้ามาแล้วหลายคน ตอนนี้ชาวบ้านก็ต้องเฝ้าระวังกันเอา หากมีคนหลอนอาละวาดก็ต้องรีบแจ้งตร.ทันที