สาวร้องขี่จยย. ถูกสายโทรศัพท์หล่นใส่ กระชากร่างหล่นจากรถ สายบาดคอลึกเกือบถึงคอหอย

วันที่ 3 ก.พ. 66 น.ส.ศิริลักษณ์ ไชยกุล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43 ภูมินารถภักดี ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล พร้อมด้วยนายฉัตรไชย สองเมือง ที่ปรึกษาสภาทนายความ ได้เข้าร้องขอความเป็นธรรม ที่ศูนย์ดำรงธรรม ศาลากลางจ.สตูล หลังประสบอุบัติเหตุสายโทรศัพท์ (สายเมนสีดำ) ริมถนนยนตระการกำธร พื้นที่ม.4 ต.เกตรี อ.เมือง จ.สตูล หล่นลงมารัดคอจนได้รับบาดเจ็บทั้งแม่และลูก โดยนายธนพัฒน์ เด่นบูรณะ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม ได้มารับหนังสือและจะดำเนินการประสานบริษัทเพื่อให้รับผิดชอบกับเหตุการณ์ดังกล่าว และให้เก็บงานให้เรียบร้อย



น.ส.ศิริลักษณ์ ไชยกุล ผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 66 ที่ผ่านมา เวลา 16.10 น. ตนไปรับลูกซึ่งเรียนอยู่ในพื้นที่ต.ฉลุง ขากลับเข้าเมืองผ่านบริเวณดังกล่าวซึ่งอยู่ติดกับร้านเฟาซีข้าวมันไก่ ปรากฏว่ามีสายอะไรหล่นลงมาพันบริเวณคอ ตนนึกว่าเป็นงู เพราะหล่นมาจากด้านบน แต่ยังไม่ทันได้คิดอะไร สายดังกล่าวพาดคอตนและกระชากร่างตนจนหล่นจากรถ ส่วนลูกนั้นปลิวข้ามหัวตนไปตกอยู่บนพื้น ส่วนตนล้มลงบาดเจ็บที่เข่า 2 ข้าง ข้อศอก 2 ข้างและที่หนักสุดคือบริเวณคอถูกสายดังกล่าวบาดลึก เมื่อตั้งสติได้ก็เห็นว่าเป็นสายสีดำคล้ายกับสายโทรศัพท์ที่ขดเป็นม้วนหล่นลงมาช่วงที่ตนขับรถผ่านพอดี สายดังกล่าวหล่นกระจายและพาดมาบาดที่คอตนจนเจ็บ เวลากลืนน้ำลายจะมีกลิ่นคาวเลือดออกมาด้วย จึงไปรักษาที่รพ.สตูลหมอบอกว่าสายดังกล่าวบาดคอลึกจนเกือบถึงคอหอย ถ้ารถไม่ล้มลงมาก่อนคออาจจะขาดได้



ต่อมาได้ปรึกษาที่สภาทนายความและได้เข้าแจ้งความไว้ที่สภ.เมืองสตูล และรักษากับหมอจนอาการทุเลาลง ได้ยาทากินยาแก้อักเสบมาจนกระทั่งวันนี้อาการดีขึ้น จึงมาร้องที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อให้บริษัทที่ทำงานดังกล่าวให้รับผิดชอบตนและลูกเพราะลูกก็เจ็บเหมือนกัน รวมทั้งให้เก็บงานให้เรียบร้อยเพราะเป็นอันตรายต่อประชาชนที่สัญจรไปมา เนื่องจากถนนดังกล่าวเป็นถนนสายหลัก ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงไปดูที่เกิดเหตุ พบว่าสายดังกล่าวถูกเก็บเรียบร้อยแล้ว ตนไม่อยากให้เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับตน หากเป็นช่วงกลางคืนอุบัติเหตุดังกล่าวอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตได้ อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบด้านนี้ดำเนินการให้เรียบร้อยหลังทำงานเสร็จเก็บให้เรียบร้อยจะได้ไม่เป็นอันตรายกับคนอื่น