สังคม

แม่ร่ำไห้ ลูกชาย 25 เที่ยวงานสลากภัต ถูกแก๊งโจ๋นับสิบรุมตื้บจนพิการติดเตียง ซ้ำคู่กรณีไม่เหลียวแล

โดย panisa_p

2 ก.พ. 2566

465 views

นางเรนู อายุ 57 ปี ชาวบ้านใหม่สารภี ต.แม่สอย อ.จอมทอง แม่ของนายวรวิทย์ หรือน้องแท่ง อายุ 25 ปี ต้องคอยเฝ้าดูแลลูกชายตลอด 24 ชั่วโมง หลังจากน้องแท่งกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียงนานกว่า 4 เดือน ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2565 น้องแท่งได้ไปเที่ยวงานสลากภัต ที่บ้านข่วงเปาใต้ ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง และถูกกลุ่มวันรุ่น 8-9 คน รุมทำร้าย คาดว่าใช้ของแข็งตีเข้าที่ศีรษะก่อนที่จะรุมกระทืบจนสลบคาที่


หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านแปะนำส่งตัวรักษาที่โรงพยาบาลจอมทอง ก่อนที่แพทย์จะส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งแพทย์ต้องผ่าตัดสมองถึง 2 ครั้ง เนื่องจากสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนัก


หลังเกิดเหตุนายสุแก้ว พ่อ และแม่น้องแท่ง ได้เข้าแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธรจอมทอง เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.จอมทอง ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดที่เกิดเหตุ ทราบตัวกลุ่มวันรุ่นที่รุมทำร้าย เป็นเยาวชนอายุ 14-15 ปี จึงได้นำตัวมาสอบสวนพร้อมกับผู้ปกครอง และยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะปล่อยตัวไปเนื่องจากเป็นเยาวชน


ต่อมาเมื่อวันที่ 29 กันยายน พ่อและแม่น้องแท่ง ได้ติดต่อผู้ปกครองเยาวชนรวม 8 คนมาทำบันทึกข้อตกลงที่ทำการผู้ใหญ่บ้านข่วงเปา ต.บ้านแปะ อ.จอมทอง ซึ่งเยาวชนทั้ง 8 คนรับสารภาพว่าลงมือทำร้ายน้องแท่ง และเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 ทั้งสองฝ่ายได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรจอมทอง เพื่อตกลงเรื่องชดเชยค่าเสียหายให้กับน้องแท่ง ซึ่งมีเยาวชน 3 คนให้การปฏิเสธ ส่วนอีก 5 คนรับสารภาพว่าทำร้ายน้องแท่งจนมีการเจรจาค่าเสียหายเพียง 5 คนเท่านั้น


ด้านนางเรนู วิเตียนจม แม่น้องแท่ง กล่าวทั้งน้ำตาว่า หลังจากน้องแท่งถูกรุมทำร้าย หมอได้แจ้งว่าสมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักจนทำให้กะโหลกศีรษะยุบมีเลือดคั่งในสมอง ต้องผ่าตัดสมองถึง 2 ครั้ง ใช้เวลารักษาอยู่ในโรงพยาบาล 2 เดือน


หลังจากนั้นหมอส่งตัวน้องกลับมารักษาตัวอยู่ที่บ้าน สภาพเป็นผู้ป่วยติดเตียง สมองยุบ ตาข้างขวาบอด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้กลายเป็นคนพิการ ต้องกินอาหารอ่อนทางสายยาง ซึ่งตอนนี้เป็นแผลกดทับ ต้องส่งตัวไปล้างแผลที่โรงพยาบาลที่อยู่ห่างจากบ้านประมาณ 20 กม.ทุกวัน ทำให้ครอบครัวต้องอยู่ด้วยความยากลำบาก เนื่องจากต้องคอยดูแลน้องแท่ง ทำให้ไม่มีเวลาไปรับจ้างหาเงินต้องอยู่ด้วยความลำบาก 


อย่างไรก็ตามหลังจากที่ลูกชายจะออกจากโรงพยาบาล ตนได้สอบถามอาการน้องแท่งจากคุณหมอ ทราบว่าน้องจะเป็นผู้ป่วยติดเตียงไปอีกนาน ทำให้ตนและคนในครอบครัวต่างหมดกำลังใจที่ลูกชายที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงต้องอยู่ในสภาพนี้ เนื่องจากตนก็อายุมากแล้วไม่รู้ว่าจะมีเรี่ยวแรงอยู่ดูแลลูกได้อีกนานแค่ไหน


ขณะที่นายสุแก้ว พ่อน้องแท่ง กล่าวว่าครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักหลังจากที่ลูกชายถูกรุมทำร้ายกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง ซึ่งต้องเสียเงินในการรักษาน้องแท่งตลอดระยะเวลา 4 เดือนหมดเงินไปประมาณ 2 แสนบาท หนำซ้ำคู่กรณีก็ไม่เหลียวแล


ที่ผ่านมามีการตกลงกับคู่การณีว่าจะจ่ายค่าเสียหายให้กับลูกชายรายล่ะ 5 หมื่นบาทรวมเป็นเงิน 250,000 บาท ผ่านไป 4 เดือนคู่กรณีจ่ายเงินชดเชยให้กับน้องแท่ง เพียง 3 คนเป็นเงิน 6 หมื่นบาทเท่านั้น และไม่เคยมาเหลียวแลอีกเลย


นอกจากนี้เรื่องคดีความก็ยังไม่มีความคืบหน้า เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้สั่งฟ้องคู่กรณี อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ตนและญาติได้เดินทางไปยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมที่ศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ แต่เรื่องกลับเงียบอีกเช่นเดิม


ต่อมาทางญาติน้องแท่ง ได้โทรศัพท์สอบถามความคืบหน้าของคดีกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรจอมทอง ทราบว่าขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลงเลขคดีรับแจ้งความเรียบร้อยแล้ว ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่ยังไม่ส่งสำนวนให้อัยการ เนื่องจากเป็นคดีเยาวชน ต้องรอผลประวัติจากสถานพินิจและความละเอียดรอบคอบในการทำสำนวนทำให้การดำเนินคดีล่าช้า ซึ่งหลังจากนี้จะได้มีการเรียกสอบปากคำเพิ่มเติมทั้งสองฝ่ายอีกครั้งหนึ่ง

คุณอาจสนใจ

Related News