สังคม

หนุ่มร้องถูกนายจ้างเบี้ยวค่าแรง ไม่พอใจถูกทวงบ่อย บุกยิงถล่มบ้าน

โดย panisa_p

4 ม.ค. 2566

91 views

วันที่ 4 มกราคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจาก นายบอล อายุ 26 ปี สัญชาติกัมพูชา ว่าเมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 3 ที่ผ่านมา เกิดเหตุคนร้ายบุกถล่มยิงบ้านจนพรุน ได้รับความเสียหาย โชคดีที่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ เหตุเกิดที่บ้าน ม.4 ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี


หลังเกิดเหตุได้แจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่ แต่ด้วยตนเองเป็นชาวกัมพูชา และผู้ก่อเหตุเป็นคนพื้นที่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงเข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชนให้ช่วยนำเสนอ เพื่อมิให้คนร้ายกลุ่มนี้ลอยนวลได้


โดยนายบอล เล่าว่า ก่อนหน้านี้ตนเองได้ทำงานที่ร้านขายกระท่อม และน้ำกระท่อมต้ม ที่ภายในซอยชัยพฤกษ์สอง โดยตกลงค่าจ้างวันละ 300 บาท แต่เจ้าของร้านกลับเบี้ยวไม่ยอมจ่ายค่าแรงตนเองและเพื่อน เมื่อทักไปทวงก็จะนัดวันนั้นวันนี้ เมื่อทวงบ่อยเข้าเจ้าของร้านกลับเกิดความไม่พอใจ เคยมาด่าทอที่หน้าบ้าน


กระทั่งวันที่ 3 มกราคม เจ้าของร้านกระท่อมที่ตนเคยทำงานด้วยก็ได้โทรมาอาละวาด พร้อมถามว่า ทวงทำไมหนักหนา จนรับอารมณ์จากการถูกด่าไม่ไหว จึงด่าสวนกลับไป ก่อนมีการนัดกันออกมาเคลียร์ แต่ตนกับเพื่อนไม่กล้าออกไป ส่วนที่ตนออกจากร้านนั้นเพราะเจ้าของคิดว่าพวกตนขโมยเงิน ทั้งที่เป็นไปไม่ได้


ต่อมาฝ่ายเจ้าของร้านได้ให้คนมาตามที่บ้าน พร้อมส่งคนมาเคลียร์ โดยตกลงขอค่าแรงแค่คนละพัน จะได้จบ ไม่นานกลุ่มผู้ก่อเหตุก็ได้ขับรถยนต์มาวนดูหน้าบ้าน ก่อนจะมีจยย.มาจอดถล่มยิง ซึ่งในบ้านมีลูกสาวเป็นลูกติดแฟนสาว สองคนอายุประมาณ 4 ขวบ ทำให้เด็ก ๆ เกิดความตกใจ ร้องไห้ระงม โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ


หลังเกิดเหตุได้เดินทางเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยใหญ่แล้ว ซึ่งก็มีเจ้าหน้าที่เดินทางมาตรวจสอบตามกำแพงบ้าน กระจกหน้าบ้าน ถูกกระสุนเจาะจนเป็นรูพรุน กระจกแตก กระสุนทะลุเข้าไปในตัวบ้าน ของเล่นเด็กยังถูกกลุ่มกระสุนนับสิบนัดได้รับความเสียหาย พร้อมเก็บหลักฐาน จากวิถีกระสุนปืน และปลอกกระสุน หัวกระสุนต่าง ๆ ไว้เป็นหลักฐานแล้ว


ขณะที่นายเงิน อายุ 24 ปี ยังเล่าอีกว่าตัวเจ้าของร้านกระท่อม เคยก่อเหตุกับตนด้วยการใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ตนหลายนัด ขณะที่ตนเองนอนอยู่ภายในห้อง โดยสาเหตุนั้นผู้ก่อเหตุอ้างว่าตนไปยุ่งกับแฟนสาวของเขา ซึ่งไม่เป็นความจริง เรื่องนี้เป็นเหตุการณ์เมื่อ 2-3 ปีก่อน แต่ตนก็ไม่ได้แจ้งความ เพราะอาศัยบ้านของผู้ก่อเหตุอยู่ และคิดว่าเป็นพี่น้องกัน นอกจากนี้ยังมีการหยิบยืมเอาเงินของตนไปอีกหลายหมื่นบาท แต่ก็ไม่เคยได้คืน


อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้เป็นการก่อเหตุอย่างอุกอาจ ไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ราวกับบ้านป่าเมืองเถื่อน เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชนมีบ้านเรือนประชาชนติดกันหลายหลัง รวมถึงในบ้านยังมีเด็กและผู้หญิงอยู่ด้วย ถึงจะไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บก็ตาม แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้องเร่งรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อติดตามเอาตัวคนผิดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพื่อความเป็นอยู่ที่ปลอดภัยของประชาชนด้วย

คุณอาจสนใจ

Related News