หนุ่มใหญ่ฉลองปีใหม่ข้ามคืน ลงงมหอย จมน้ำดับ คาดร่างกายปรับไม่ทัน เพราะอากาศหนาว นอนไม่พอ

เมื่อเวลา 10.30 น. วันนี้ (1 มกราคม 2566) พ.ต.ท.ศุภเชษฐ นวจินดาพงษ์ ร้อยเวร สภ.ปักธงชัย ได้รับแจ้งเหตุศูนย์วิทยุ 1669 ว่า มีบุคคลจมน้ำเสียชีวิต ที่ บ้านอ่างหิน คุ้มหนองสะแก ต.ธงชัยเหนือ อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา จึงประสานกู้ภัย ฮุก 31 โคราช จุดปักธงชัย และชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ กู้ภัยใต้น้ำ ฮุก 31 นครราชสีมา ร่วมตรวจสอบที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นลานกว้างกลางทุ่งนาและมีการรวมญาติพี่น้องทั้งในพื้นที่และจากต่างจังหวัด มาเลี้ยงสังสรรค์เคานต์ดาวน์ส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กันเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา โดยหลายคนกางเต็นท์นอน ก่อกองไฟแก้หนาว มีอาหาร โต๊ะ เก้าอี้ เศษขวด ขยะวางอยู่ทั่วบริเวณ และใกล้กันเป็นบ่อน้ำสาธารณะของหมู่บ้าน ขนาดกว้างประมาณ 1 ไร่ ระดับน้ำลึกกว่า 4 เมตร เป็นจุดที่มีบุคคลสูญหายจมน้ำไป ทราบชื่อคือ นายลัด ฟ้อนพรมราช อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 152 / 2 ม.3 ต.ภูหลวง อ.ปักธงชัย จ.นครราชสีมา



โดยญาติของนายลัด ผู้สูญหาย กล่าวว่า นายลัดเป็นคนว่ายน้ำเก่งและมักจะออกหาหอย จับปลาในบ่อน้ำอยู่เป็นประจำ ซึ่งก่อนเกิดเหตุ เวลาประมาณ 10.00 น. ได้บอกกับญาติที่มาฉลองปีใหม่ร่วมกันว่า จะลงไปดำน้ำหาหอยในบ่อ ดำผุดดำว่ายไปสักระยะ แต่ห่างออกจากฝั่งไปเรื่อยๆ ประมาณ 100 เมตร จนถึงกลางบ่อ แล้วจู่ๆ นายลัดก็ดำหายไปในน้ำ ไม่โผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ ซึ่งนานผิดปกติ ทางญาติจึงพากันตะโกนเรียก และพยายามมองหาแต่ก็ไม่เห็นตัว และไม่มีใครกล้าดำน้ำไปค้นหา เพราะสภาพอากาศหนาว และน้ำในบ่อเย็นจัด พยายามเดินมองหากันอยู่สักพัก ไม่เห็นร่างของนายลัด จึงรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ทราบ เพื่อประสานกู้ภัยให้มาช่วยค้นหาดังกล่าว



ซึ่งชุดปฏิบัติการเฉพาะกิจ กู้ภัยใต้น้ำ ฮุก 31 นครราชสีมา ได้ลงดำค้นหาร่างใต้น้ำตั้งแต่ริมฝั่งไปจนถึงกลางบ่อ ตามที่ญาติระบุจุดจมหาย เมื่อดำลงไปก็พบกับร่างของนายลัดในสภาพคว่ำหน้า ใส่กางเกงในเพียงตัวเดียวเสียชีวิตอยู่ที่พื้นบ่อ รวมใช้เวลาค้นหากว่า 20 นาที จึงสามารถนำร่างขึ้นมาบนฝั่งได้ ซึ่งคาดว่า นายลัดน่าจะเป็นตะคริวขณะอยู่ใต้น้ำ และด้วยสภาพร่างกายที่ไม่พร้อม เพราะเพิ่งสังสรรค์ข้ามคืนมาและพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงทำให้ร่างกายปรับสภาพไม่ทัน เป็นเหตุให้จมน้ำเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้ ญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ให้กู้ภัยนำร่างส่งไปโรงพยาบาลปักธงชัย เพื่อให้แพทย์ชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงก่อน จากนั้นจึงจะแจ้งให้ญาติรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป