สลด! หนุ่มก๊งเหล้าข้างกองไฟแก้หนาว เกิดวูบหน้าฟุบไฟคลอกดับ แม่เผยลูกป่วยลมชัก

วันนี้ (13 ธ.ค.65) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 16.00 น.พ.ต.ท.ศิริชัย โพธิจักร พนักงานสอบสวน สภ.ห้วยหลวง จ.อุดรธานี รับแจ้งจากชาวบ้านบ้านหนองโอน ต.เชียงพิณ อ.เมือง จ.อุดรธานี ว่ามีชาวบ้านถูกไฟคลอกเสียชีวิตที่กระท่อมกลางไร่ท้ายหมู่บ้านหนองโอน ม.7 ต.เชียงพิณ อ.เมืองอุดรธานี จึงรีบไปที่เกิดเหตุพร้อมแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี พร้อมด้วยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรมสถาน โดยที่เกิดเหตุเป็นกระท่อมยกพื้นสูงประมาณ 1 เมตร อยู่ท้ายหมู่บ้าน

เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงพบศพของนายสุบัน อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของกระท่อม นอนหงายเสียชีวิตอยู่บนพื้นข้างกระท่อม สภาพศพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นที่ถูกไฟเผาไหม้ไปเหลือเศษติดอยู่กับกางเกงในตัวเดียว ส่วนลำตัวมีร่องรอยไฟไหม้เกือบทั้งตัว ห่างจากกองไฟประมาณ 10 เมตร คาดว่าผู้ตายคงวูบลงไปในกองไฟแล้วโดนไฟคลอกทั้งตัว แล้วผู้ตายคงดิ้นทุรนทุรายไปตามพื้น ช่วยตัวเองไม่ได้ทำให้เสียชีวิต หลังจากนั้นแพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพ ไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้ายแต่อย่างใด โดยตามร่างกายพบ แต่รอยไฟไหม้เกือบทั้งตัว คาดเสียชีวิตจากถูกไฟลวกจากกองไฟที่ผิงไฟแก้หนาว


แม่ผู้ตาย เปิดเผยว่าลูกชายเป็นโสด จะมาเลี้ยงที่ไร่คนเดียวและพักอยู่ที่นี่ด้วย ปกติเป็นคนชอบดื่มเหล้าเป็นประจำ เมื่อเย็นวานตนเข้ามาที่กระท่อมก็ไม่พบกองไฟ จนมาบ่ายนี้เข้ามาก็พบศพของลูกชายนอนเสียชีวิตอยู่ห่างกองไฟประมาณ 10 เมตร คิดว่าเมื่อคืนลูกชายจะทนหนาวไม่ไหว ลูกชายคงจะก่อกองไฟแล้วนั่งกินเหล้าอยู่ข้างกองไฟ แต่เนื่องจากลูกชายมีโรคประจำตัวเป็นลมชักอยู่แล้ว คงจะเกิดอาการวูบแล้วล้มใส่กองไฟ แล้วถูกไฟคลอกคงช่วยตัวเองไม่ได้ จึงถูกไฟลวกทั้งตัวจนเสียชีวิตดังกล่าว


ด้านญาติของคนตายอีกคน เปิดเผยว่า เมื่อเช้านี้ได้มีอีกา หลายตัวมาบินส่งเสียงร้องอยู่บริเวณใกล้บ้านผู้ตาย ซึ่งคนโบราณถือว่าถ้ามีอีกามาบินร้องอยู่ในบริเวณนี้ก็ทำให้ตนคิดว่าคงจะมีคนตายอีกตามความเชื่อของคนโบราณ จนมาพบว่านายสุบันนั่งผิงไฟและก๊งเหล้าเกิดวูบหน้าฟุตกองไฟเสียชีวิตดังกล่าว หลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ ตำรวจได้ทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ตร.สันนิษฐานว่า เมื่อคืนอากาศหนาว ผู้ตายคงก่อไฟแล้วก๊งเหล้าผิงไฟ เพื่อแก้หนาวแต่พอก๊งเหล้าอยู่ดีๆ อาจจะเกิดอาการวูบล้มใส่กองไฟแล้วถูกไฟคลอกแล้วทำให้ผู้ตายดิ้นทุรนทุรายจนเสียชีวิตดังกล่าว ญาติไม่ติดใจจึงมอบศพ เพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป