สิ้นเกจิ 6 แผ่นดิน ‘หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร’ ละสังขาร สิริอายุ 111 ปี

เมื่อเวลา 10.45 น.วันที่ 13 ธ.ค.2565 สิ้นแล้ว 'พระราชมงคลวชิราทร' หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร วัดป่าใต้พัฒนาราม ต.โนนหมากเค็ง อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว พระคณาจารย์ที่ชาวบ้านโนน หมากเค็ง อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว ให้ความเคารพ ศรัทธา พระสุปฏิปันโนผู้มีพรรษากาล ถึง 111 ปี 31 พรรษา


หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร แห่งวัดป่าใต้ พัฒนาราม ม.9 ต.โนนหมากเค็ง อ.อำเภอวัฒนานคร จ.สระแก้ว มรณภาพแล้ว ยังความเสียใจแก่ ศิษย์ยานุศิษย์ที่ทราบข่าวพากันเดินทางมาเคารพศพและพระเจจิอาจารย์ดัง ตลอดพระคุณเจ้าจากวัดต่างๆเดินทางมาไว้อาลัยพระราชมงคลวชิราทร หรือหลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร เกิดปี พ.ศ.2454 หลวงปู่บุดดา นับเป็นพระเกจิอาวุโสที่มีความเมตตาธรรมบารมีสูงส่ง ใบหน้าของท่านมีรอยยิ้มอยู่เสมอ ท่านวางตนแบบเรียบง่าย ฉันอาหารแบบบ้านๆ เช่น น้ำพริก ผักต้ม ผักสด มักน้อย ชอบชีวิตสันโดษ ไม่นิยมสะสมข้าวของ ปัจจัยไทยทานต่างๆ ครองอัธยาศัยมั่นคงอยู่ในธรรมวินัย มีความงดงามในวัตรปฏิบัติแม้เข้าสู่วัยชรา แต่ท่านยังออกบิณฑบาตโปรดสัตว์, ลงทำวัตรเจริญพระพุทธมนต์ทั้งเวลาเช้าและเย็นอย่างเคร่งครัด

พระเกจิอายุยืนยาวถึง 6 แผ่นดิน เป็นพระเถระผู้เปี่ยมด้วยความเมตตา งดงามด้วยปฏิปทาจริยาวัตร เคร่งครัดในพระธรรมวินัย เป็นสหธรรมิกของ "หลวงปู่ทวน ปุสสวโร" อดีตเจ้าอาวาสวัดจันทคุณาราม (วัดโป่งยาง) อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี เคยร่วมกันทำนุบำรุงพระพุทธศาสนามาด้วยกันหลายวัดในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ปราจีนบุรี สระแก้ว และจันทบุรี กระแสความศรัทธานิยมเป็นที่ปรากฏอย่างกว้างขวาง เมื่อหลวงปู่บุดดา ได้รับนิมนต์ไปนั่งปรกอธิษฐานจิตในพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลต่างๆ ในพิธีครั้งนั้น หลวงปู่บุดดา มีความโดดเด่นเป็นพิเศษได้รับความสนใจจากหมู่คณะศรัทธาประชาชนที่ได้กราบนมัสการพระเกจิคณาจารย์ที่ทรงพรรษากาล พรรษาธรรมสูง มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์ ยิ้มแย้ม แจ่มใสให้การพูดคุยด้วยเมตตาธรรมแก่ผู้เลื่อมใสศรัทธาที่เข้าแถวต่อคิวกันยาวเหยียดให้เจิมหน้าผาก ลงกระหม่อมเพื่อความเป็นสิริมงคล


หลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร นับเป็นพระเกจิ ที่มีความเมตตาธรรมบารมีสูงส่งและมีรอยยิ้มอยู่เสมอ เป็นที่ทราบของบรรดาลูกศิษย์ว่าชอบอยู่ชีวิตเรียบง่าย ฉันอาหารแบบบ้านๆ น้ำพริก ผักต้ม ผักสด มักน้อย ชอบชีวิตสันโดษ ไม่นิยมสะสมข้าวของครองอัธยาศัยมั่นคงอยู่ในธรรมวินัย มีความงดงาม เช้าออกบิณฑบาตโปรดสัตว์เจริญพระพุทธมนต์ อย่างเคร่งครัด ด้วยบารมีที่หลวงปู่ท่านได้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ พร้อมทั้งพระคาถาวิชาคมที่ท่านมี จนศิษยานุศิษย์จึงขนานนามท่านว่า "อมตะเกจิ 6 แผ่นดิน หลวงปู่บุดดา แห่งวัดป่าใต้ เกิดเมื่อปี พ.ศ.2454 ที่บ้านโคกอู่ทอง ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี วัยเด็กเข้าเรียนเขียนอ่านที่วัดโคกอู่ทองกับพระอาจารย์แย้ม จนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นออกมาช่วยทางครอบครัวทำไร่ทำนา บรรพชาเมื่อ พ.ศ.2470 พร้อมกับศึกษาเล่าเรียนพระปริยัติธรรม เข้าพิธีอุปสมบทครั้งแรก พ.ศ.2477 ที่วัดโคกอู่ทอง อ.ประจันตะคาม จ.ปราจีนบุรี ครองเพศสมณะอยู่ได้หนึ่งพรรษา ลาสิกขาออกมามีครอบครัว โดยช่วงที่เป็นฆราวาส เรียนธรรมะวิชาต่างๆ จากหนังสือเก่าตามตำราของพระอาจารย์หลายรูป หลังใช้ชีวิตฆราวาสมาจนถึงปี พ.ศ.2534 เห็นว่าความสุขในชีวิตไม่ใช่ความสุขที่แท้จริง ตัดสินใจเข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์อีกครั้ง เข้าพิธีอุปสมบทครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 26 ก.ค.2534 ที่อุโบสถวัดทุ่งพระ อ.เมือง จ.สระแก้ว มีหลวงพ่อสนธิ์ วัดทุ่งพระ เป็นพระอุปัชฌาย์พระครูณรงค์ วัดเทพาวาส (ทับใหม่) เป็นพระกรรมวาจาจารย์และพระอาจารย์บัวลา วัดโคกสัมพันธ์ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ จากนั้นได้อยู่จำพรรษาที่วัดเทพาวาส ภายหลังย้ายมาสร้างเป็นวัดทับใหม่ มีหลวงพ่อดี อดีตเสือเก่า เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก จึงเริ่มก่อตั้งวัดป่าใต้ พัฒนารามมาถึงปัจจุบัน


คณะกรรมการวัดมีมติตั้งศพหลวงปู่บุดดา ปัญญาธโร วัดป่าใต้พัฒนาราม วันที่ 15 ธันวาคม 65 เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานพิธี กระทรวงวัฒนธรรม ขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ เวลา 15.00 น. สำหรับพิธีทางวัดมีลูกศิษย์ และพระคุณเจ้าเดินทางเคารพศพไม่ขาดสายและเวลา 19.30 น.จะมีพิธีสวดพระอภิธรรมทุกคืน