ไม่นิ่งเฉย! ป.ป.ช.แจงความคืบหน้า ‘เสาไฟกินรี’ แจ้งข้อหาแล้ว 2 ใน 5 สำนวน ชี้ล่าช้าเพราะโควิด

ป.ป.ช.แจงความคืบหน้า ‘เสาไฟกินรี’ แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วอย่างน้อย 40 ราย ยันไม่นิ่งเฉย แจงเหตุล่าช้าเพราะติดโควิด เร่งรวบรวมหลักฐาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 31 ต.ค. 65 น.ส.ชฎารัตน์ อนรรฆอร ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ภาค 1 แถลงผลการดำเนินงานของสำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 1 ถึงความคืบหน้าเรื่องการไต่สวนข้อกล่าวหากรณีการจัดซื้อเสาไฟฟ้าประติมากรรมกินรี พร้อมโคมไฟระบบพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาเซลล์) พร้อมติดตั้งขององค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ราชาเทวะ ว่า เรื่องนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวนแยกตามปีงบประมาณตามที่กระทำการทุจริตออกเป็น 5 สำนวน ขณะนี้มีการแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ถูกกล่าวหาไปแล้ว 2 สำนวน อยู่ระหว่างพิจารณาแก้ข้อกล่าวหา คาดว่าเมื่อฝ่ายผู้ถูกกล่าวหาชี้แจงแก้ข้อกล่าวหามาแล้ว จะสรุปสำนวนเสนอที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.โดยเร็ว เพราะเรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนอย่างมาก ส่วนอีก 3 สำนวนอยู่ระหว่างพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา คาดว่าจะเสร็จไล่เลี่ยกัน

น.ส.ชฎารัตน์ กล่าวว่า ยืนยันไม่ได้นิ่งเฉย หรือปล่อยปละละเลยให้ล่าช้า พยายามรวบรวมหลักฐานข้อเท็จจริงให้มากสุดเท่าที่จะมากได้ หาพยานหลักฐานพิสูจน์การกระทำว่าไม่ถูกตามที่กล่าวหาจริงหรือไม่ เพื่อให้ปราศจากข้อสงสัย การดำเนินการอาจไม่ทันใจสื่อมวลชน หรือประชาชนมากนัก แต่ขอให้ทราบว่า ป.ป.ช. ภาค 1 ที่รับผิดชอบไต่สวนคดีนี้ ไม่ได้นิ่งนอนใจ หรือปล่อยให้ผลการดำเนินการล่าช้า

ตั้งแต่ ป.ป.ช. มีมติให้ไต่สวนเรื่องนี้ อบต.ราชาเทวะ ติดปัญหาเรื่องโควิด-19 การส่งมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องมีการสะดุดไปบ้าง เสียเวลาไปหลายเดือนเหมือนกัน การดำเนินการตรงนี้มีองค์ประกอบหลายอย่าง เป็นปัจจัยไม่อาจทำให้งานเสร็จภายในคาดการณ์ไว้แต่แรก โดยการรวบรวมพยานหลักฐานคดีนี้ค่อนข้างพิถีพิถันเป็นพิเศษ

สำหรับ โครงการจัดซื้อเสาไฟกินรีทั้งหมด ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบระหว่างปีงบประมาณ 2556-2564 รวมวงเงิน 871,020,971 บาท โดยเป็นการประกวดราคาปกติ และการสอบราคา แบ่งเป็น ปี 2556 วงเงิน 64,760,000 บาท ปี 2557 วงเงิน 2,534,519 บาท ปี 2561 วงเงิน 27,622,585 บาท ปี 2562 วงเงิน 171,840,000 บาท ปี 2563 วงเงินรวม 215,768,864 บาท ปี 2564 วงเงินรวม 388,505,000 บาท โดยปัจจุบันแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วอย่างน้อย 40 ราย

ด้านนายบดินทร์ กรีธาธร ผู้อำนวยการ ป.ป.ช. จังหวัดสมุทรปราการแถลงเพิ่มเติมว่าจากการตรวจสอบเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการของ อบต.ราชาเทวะ ยังพบเรื่องที่เข้าข่ายอาจทุจริตและอยู่ระหว่างสอบสวนได้แก่การสร้างอาคารเอนกประสงค์ของ อบต.ราชาเทวะในพื้นที่วัด ซึ่งไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และยังพบว่าพื้นที่ที่ใช้ก่อนสร้างอยู่ในวัด และมีการทำสัญญาเช่าที่ดินกับวัด ก็ไม่ชอบด้วย พ.ร.บ. คณะสงฆ์ 2505 และกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง

ขณะเดียวกัน ป.ป.ช. ภาค 1 ได้ประสานกับหลายหน่วยงานในจังหวัดนนทบุรีและกรรมการ กสทช. ในการดำเนินการเก็บสายสื่อสารที่ไม่ได้ใช้งานแล้ว ทั้งนี้แม้ไม่เป็นการทุจริตโดยตรง แต่หากปล่อยไว้อาจเข้าข่ายให้เอกชนเข้ามาพาดสายบนเสาสัญญาณของรัฐ ซึ่งอาจถูกมองว่าปล่อยปละละเลยและเอื้อประโยชน์ จึงเห็นสมควรให้มีการเก็บสายสื่อสารและจัดระเบียบ เพราะจะเกิดประโยชน์ทั้งความโปร่งใส ขณะเดียวกันจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดกับประชาชน จึงขอความร่วมมือประชาชน หากพบสายส่อสายที่พาดอยู่ตามเสาต่างๆ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย ก็สามารถแจ้งได้ที่ ป.ป.ช. ภาค 1 เช่นกัน

ส่วนการติดทุจริตติดตั้งเสาไฟฟ้าโซล่าเซลล์นวัตกรรมไทยในพื้นที่จังหวัดสระบุรีนั้น ได้มีการลงพื้นที่ติดตามใน 3 พื้นที่ พบว่าผลการตรวจสอบพบความเสี่ยงในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสระบุรี ซึ่งมีการจัดซื้อเสาไฟ 6,493 ชุดมูลค่ารวม 453 ล้านกว่าบาท โดยพบประเด็นการจัดซื้อเสาไฟที่มีราคาสูงและซื้อจำนวนมากแต่ไม่สามารถต่อรองราคาให้ถูกลงได้ ส่วนประเด็นคุณภาพของแสงสว่างบางประเด็นไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดไว้อีกทั้งพบว่ามีการติดตั้งซ้ำซ้อนหรือติดในพื้นที่มีการที่มีการสัญจรน้อย และใช้พื้นที่ไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ นอกจากนี้ยังพบว่าประเด็นการจัดทำประชาพิจารณ์ก่อนการดำเนินการและยังมีการติดตั้งเสาไฟโซล่าเซลล์รุ่นเก่าปะปนกับเสารุ่นใหม่