สังคม

25 ปีที่รอคอย! ลูกสาวตามหาพ่อแท้ๆ ผ่านเฟซบุ๊ก ประสานหน่วยงานช่วยจนได้พบกัน

โดย panisa_p

25 ต.ค. 2565

2.6K views

วันที่ 25 ตุลาคม 2565 ที่หอประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลพันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร นายวัฒนา แตงมณี นายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ พร้อมด้วย นายนิรุจน์ แก้วนิล รองนายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ นางวันนา แตงมณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ต.พันท้ายนรสิงห์ นายวุฒิชัย โคกระบิน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.พันท้ายนรสิงห์ และเจ้าหน้าที่ของ อบต.พันท้ายนรสิงห์ ได้มาร่วมกันเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จพร้อมกับแสดงความยินดีต่อการเดินทางมาพบกันของสองพ่อลูกที่พลัดพรากจากกันมานานถึง 25 ปี


โดยลูกสาวคือ นางสาวชญานิษฐ์ กลิ่นจันทร์ อายุ 25 ปี เดินทางไกลมาจากอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อมาหานายประกอบ กลิ่นจันทร์ อายุ 52 ปี พ่อที่พักอาศัยอยู่กับย่าในตำบลพันท้ายนรสิงห์ อำเภอเมืองสมุทรสาคร


โดยบรรยากาศของการได้มาพบกันในวันนี้ก็เป็นไปอย่างอบอุ่น ซาบซึ้ง รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และน้ำตาแห่งความปลาบปลื้มยินดี ทั้งจากในส่วนของครอบครัวกลิ่นจันทร์ และ ผู้ที่มีส่วนร่วมตามหาพ่อให้กับลูกสาว ทั้ง ๆ ที่โอกาสนั้นเป็นไปได้เพียงน้อยนิด ซึ่งในส่วนของนางสาวชญานิษฐ์ กลิ่นจันทร์ ก็ได้เตรียมพวงมาลัยมาให้แก่บุพการีด้วย


โดยเมื่อนายประกอบ กลิ่นจันทร์ (คุณพ่อ) เดินเข้ามาในห้องประชุม พร้อมกับคุณย่ากิม กลิ่นจันทร์ อายุ 92 ปี ลูกสาวที่นั่งรออยู่ก็ลุกขึ้นไปโผเข้ากอดทั้ง 2 คน แล้วก้มลงกราบมอบพวงมาลัยให้กับทั้งพ่อและย่า สร้างความซาบซึ้งใจเป็นอย่างมาก ก่อนที่ทั้งหมดจะพูดคุยกันด้วยรอยยิ้มแห่งความรักและความผูกพันทางสายเลือดที่ได้เจอกัน มีการถามสารทุกข์สุขดิบกัน บางครั้งถึงกับตื้นตันใจพูดไม่ออก มีเพียงรอยยิ้มและสายตาแห่งความรักเท่านั้นที่ส่งผ่านถึงกันและกัน


นายประกอบ กลิ่นจันทร์ (คุณพ่อ) บอกว่า ดีใจมากที่ได้พบลูกสาว จนพูดอะไรไม่ออกแล้ว ก่อนหน้านี้ตนไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีบุตรสาวกับอดีตภรรยา เพราะตอนที่แยกจากกันมานั้นไม่ทราบว่าอดีตภรรยาตั้งครรภ์อยู่แล้ว จนมาเมื่อราวๆ สองถึงสามวันที่แล้วมีคนมาบอกว่า มีลูกสาวตามหาตน และก็เชื่อมั่นว่าเป็นลูกของตนจริงๆ จึงได้นับวันรอที่จะเจอหน้ากัน พอมาเจอจริงๆ ก็ดีใจมากๆ


นางสาวชญานิษฐ์ กลิ่นจันทร์ (บุตรสาว) เล่าว่า ที่ผ่านมานั้น ตนไม่เคยถามแม่เรื่องพ่อ และแม่ก็ไม่เคยเล่าเรื่องพ่อให้ฟัง แต่ในใบเกิดของตนมีชื่อบิดาคือ นายประกอบ กลิ่นจันทร์ ซึ่งตนไม่เคยนึกน้อยใจหรือโกรธอะไรผู้ใหญ่ เพราะเข้าใจว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายน่าจะมีเหตุผลส่วนตัวทำให้ไม่สามารถอยู่ด้วยกันได้


กระทั่งเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้ว ช่วงที่ตนเล่นเฟซบุ๊กเป็นจึงได้ลองตามหาพ่อ แล้วก็พบว่า มีคนชื่อประกอบ กลิ่นจันทร์ มากกว่า 10 คน จากนั้นก็ค่อยๆ คัดกรองทีละคนจนพบว่า มีชื่อประกอบ กลิ่นจันทร์ อยู่ที่จังหวัดสมุทรสาคร ตามข้อมูลที่ตนเองพอจะรู้มาบ้างว่าพ่อเป็นคนจังหวัดนี้ ก็เลยปรึกษากับญาติที่อยู่ในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อลองตามหาพ่อ แล้วก็ได้ทางด้านของนายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ ผู้ใหญ่บ้าน และผู้สื่อข่าวในพื้นที่ ช่วยตามหาจนกระทั่งได้มาพบกันในที่สุด


ซึ่งตนเองนั้นรู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่มีโอกาสได้พบทั้งพ่อและย่า ยิ่งพอจะถึงวันที่ได้พบกันยิ่งตื่นเต้นดีใจ ทั้งนี้ก็อยากจะบอกทั้ง 2 ท่านว่า ตนดีใจที่สุดที่ได้มีโอกาสกราบพ่อสักครั้งในชีวิต เพราะไม่คิดว่าการตามหาครั้งนี้จะประสบผลสำเร็จกับเวลา 25 ปีที่รอคอยนั้น วันนี้ตนเองมีความสุขมากๆ และหลังจากที่ได้พบกับพ่อและย่าแล้ว พ่อก็จะพาไปไหว้ศาลพันท้ายนรสิงห์กับพาไปทานอาหาร ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้าน เพราะตนเองก็จะต้องกลับไปทำงานที่จังหวัดตาก ส่วนพ่อก็ทำงานอยู่ในสมุทรสาครเหมือนเดิม และถ้าหากมีโอกาสเมื่อไหร่ก็จะเดินทางมาเยี่ยมพ่อกับย่าอีกอย่างแน่นอน


นางสาวชญานิษฐ์ กลิ่นจันทร์ ยังบอกหลังไมล์เพื่อฝากเป็นกำลังใจถึงคนที่กำลังตามหาครอบครัวแบบตนด้วยว่า ตนเองนั้นต้องพลัดพรากจากกับพ่อมานานถึง 25 ปี วันนี้ความตั้งใจในการตามหาพ่อประสบความสำเร็จแล้ว จึงอยากให้คนที่มีความมุ่งมั่นเช่นตนนั้น พยายามต่อไป เชื่อว่าหากเรามีความตั้งใจ มีความมุ่งมั่น และมีความพยายาม สักวันต้องได้พบกับความสมหวังอย่างแน่นอน


ด้านนายนิรุจน์ แก้วนิล รองนายก อบต.พันท้ายนรสิงห์ และ นางวันนา แตงมณี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5 ตัวแทนของนายกวัฒนา แตงมณีและผู้ที่มีส่วนร่วมในความสำเร็จครั้งนี้ ก็กล่าวด้วยว่า ลูกสาวที่ตามหาพ่อรายนี้ ได้มีการประสานผ่านมายังคนรู้จักและนักข่าวในจังหวัดสมุทรสาคร แล้วก็ประสานต่อมาที่ท้องถิ่น ทุกฝ่ายเห็นความตั้งใจของลูกสาวที่อยากพบพ่อมานาน จึงได้ช่วยกันตามหาคนในทะเบียนราษฎร์ที่มีชื่อและนามสกุลดังกล่าว


แล้วก็พบว่าเป็นประชากรหมู่ที่ 2 จึงได้ไปสอบถามพูดคุยจนทราบว่าทั้งสองเป็นพ่อลูกกันจริงๆ ก็เลยประสานให้ทั้งสองคนได้มาพบกันอย่างรวดเร็ว สร้างความสุขให้กับครอบครัวกลิ่นจันทร์ ที่ได้พบเจอกัน


ทั้งที่จริงนั้นน้องเคยท้อที่จะตามหาพ่อเพราะไม่เคยมีข้อมูลที่อยู่ของคุณพ่อเลย นอกจากชื่อและภาพถ่ายที่แอบคุณแม่ของน้องถ่ายไว้ เพื่อจะได้รู้ว่าคุณพ่อนั้นหน้าตาเป็นเช่นไร ซึ่งในฐานะของตัวแทนผู้ที่มีส่วนร่วมฯ นั้น ต้องขอชื่นชมน้องด้วย ที่น้องไม่ยอมเลิกล้มความตั้งใจและมีกำลังใจที่จะตามหาคุณพ่อให้เจอ จนวันนี้สิ่งที่น้องทำมาก็เป็นจริงสมดังความตั้งใจ

คุณอาจสนใจ

Related News