สังคม

โดนหลอกซ้ำซ้อน! ‘เฟิร์ส สครับบลู’ ดาวติ๊กต็อก สูญเงิน 1.6 ล้าน เจอทั้งบ้านเช่า-ทนาย-การตลาดทิพย์

โดย chutikan_o

24 ต.ค. 2565

312 views

‘น้องเฟิร์ส สครับบลู’ ดาวติ๊กต็อก เข้าร้องกองปราบ โดนมิจฉาชีพอายุ 16 ปี และ 19 ปีหลอกซ้ำซ้อน เจอทั้งบ้านเช่า ทนาย และการตลาดทิพย์ ทำสูญเงิน 1.6 ล้าน

วันนี้ (24 ต.ค. 65) ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ พร้อมด้วย น้องเฟิร์ส สครับบลู เจ้าของบัญชีผู้ใช้ติ๊กต็อก @fires_sugerblue แม่ค้าออนไลน์ เจ้าของแบรนด์สบู่ และดาวติ๊กต็อก ที่มีคนติดตาม 103K เข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท.เอกรินทร์ ทองหยด รอง สว.(สอบสวน) กก.1 บก.ป. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กทม. หลังถูกมิจฉาชีพอายุ 16 ปี และ 19 ปี หลอกโอนเงินหลายครั้ง รวมกว่า 1.6 ล้านบาท




น้องเฟิร์ส สครับบลู เปิดเผยว่า หลังจากที่ประกาศหาบ้านเช่าที่ป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งกำลังจะหมดสัญญาผ่านทาง ไอจีส่วนตัวไป มีเด็กอายุ 16 ปี อ้างเป็นนายหน้าติดต่อมา พร้อมส่งภาพถ่ายบ้านเช่าที่ภูเก็ตมาให้ดู บอกเป็นของพ่อ ได้คุยกันจนสนิทและเชื่อใจ ก่อนจะโอนเงินจองบ้านเช่าไปกว่า 3 แสนบาท

หลังจากนั้นได้พูดคุยกันเรื่อยมา ก่อนจะปรึกษาขอคำแนะนำว่ามีทนายความช่วยทำคดีไหม เนื่องจากถูกชาวเน็ตคอมเมนต์ด่าจำนวนมากในคลิปที่โพสต์ลงติ๊กต็อก เด็กอายุ 16 ปี ได้แนะนำทนายความให้ ติดต่อเจรจากันจนเชื่อใจ ก่อนจะตกลงว่าจ้างให้ทำคดี ได้เรียกค่าใช้จ่ายในการทำคดี จากนั้นได้โอนเงินค่าทนาย 5 แสนกว่าบาท

น้องเฟิร์ส ยังกล่าวอีกว่า เนื่องจากเธอเป็นเจ้าของแบรนด์ มีความจำเป็นจะต้องหาคนทำการตลาดมาร์เก็ตติ้งให้ เพื่อให้แบรนด์เติบโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงลงประกาศในไอจี รับหาคนทำการตลาดให้ มีคนแนะนำไอจีมาให้ดูบัญชีหนึ่ง ชื่อว่า ซี เข้าไปส่องดูโปรไฟล์ก็สนใจ มีตัวตนน่าเชื่อถือถูกต้องดี จึงทักไปคุยด้วย ก่อนตัดสินใจว่าจ้าง โดยเขามาคุยด้วยที่ จ.ลพบุรี นัดหมายเจอกันเพื่อทำสัญญาว่าจ้าง ก่อนจะโอนเงินค่าทำสัญญาไปจำนวนหนึ่ง

จากนั้นซีแนะนำให้เราเรียนภาษาอังกฤษเพิ่มเติม เพราะเห็นว่าเราเป็นเจ้าของแบรนด์แต่ภาษาอังกฤษอ่อน จะบริหารได้ไม่ดีเท่าที่ควร หลังจากนั้นนัดเจอกันอีกครั้งที่ปทุมธานี บอกให้เราโอนค่ายิงแอดโฆษณาราคา 4 แสนบาท ซึ่งเราเข้าใจเรื่องการนี้ดีจึงโอนให้ไปตามคำขอมา

หลังจากนั้นเราก็ขอคำแนะนำซีว่ามีทนายคนอื่นหรือไม่ เพราะมีความประสงค์จะหาทนายใหม่มาช่วยทำคดี ซึ่งซีก็ได้แนะนำมาอีกคน ติดต่อกันก่อนจะขอตั๋วทนายให้ส่งมาให้ดู พบว่ามีการตัดแปะรูปภาพ และเมื่อขอใบเสร็จกับใบกำกับภาษีมาดู ก็พบว่าเป็นของทำขึ้นมาเองอีก ไม่ใช่เอกสารจริง เชื่อว่าเขาน่าจะเป็นทนายปลอม

หลังจากนั้นได้นัดซีมาพบเพื่อสอบถามเรื่องทั้งหมด เขาอ้างว่าถ้าทำงานด้วยกันแล้วไม่สบายใจก็ยินดีโอนเงินคืนให้ทั้งหมด จึงรู้ว่าซีกับทนายความที่อ้างถึงเป็นคนเดียวกัน แต่สุดท้ายก็ยังไม่ได้เงินคืน และติดต่อไม่ได้อีกเลย

สรุปโดนโกงมาแล้ว 3 ครั้ง เจอบุคคลแอบอ้างเป็นทนายโดยใช้ตั๋วทนายคนอื่นมาตัดแปะรูปแทน มีการใช้เอกสารใบเสร็จ ใบกำกับภาษีปลอม รวมเป็นเงินประมาณ 1.6 ล้านบาท




ด้าน ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวว่า ผู้เสียหายถูกบุคคลสองกลุ่มหลอกโอนเงินต่อเนื่องกันจากการทำธุรกิจการตลาดและเช่าบ้าน ซึ่งบ้านเช่าก็ไม่ได้  ทนายความที่ต้องการว่าจ้างมาทำคดีก็เป็นทนายทิพย์ หลังพบพนักงานสอบสวนแจ้งความเสร็จแล้วจะไปร้องสภาทนายความให้ทราบพฤติการณ์ว่าปัจจุบันมีคนหากินด้วยการหลอกจัดหาทนายความให้แต่ไม่มีทนายว่าความให้จริงๆ แค่แอบอ้างว่ามีทนายทำคดีให้ แต่หลอกเอาเงินค่าทนาย เป็นทนายทิพย์

ดร.เกรียงศักดิ์ กล่าวอีกว่า คดีนี้ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ทั้งใบกำกับภาษีปลอม เอกสารการโอนเงิน รวมถึงแชทข้อความสนทนากับผู้เสียหายมาให้พนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ฉ้อโกงและปลอมแปลงเอกสารกับเด็กทั้ง 2 ราย ซึ่งไม่รู้ว่ามีความเชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกันหรือไม่รอให้ตำรวจตรวจสอบดู

ด้านนายศิตางศุ์ บัวทอง เน็ตไอดอล กล่าวว่า เขาอยู่ในกลุ่มเดียวกับน้องเฟิร์ส รู้เรื่องที่เฟิร์สถูกมิจฉาชีพหลอกลวงหลายครั้ง จึงพามาให้ทนายเกรียงศักดิ์ช่วยมาแจ้งความวันนี้

เบื้องต้นพนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เสียหายเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป



คุณอาจสนใจ

Related News