สังคม

รวบแล้ว 'พลอย' ดาวติ๊กต็อก ติดพนันออนไลน์ ขโมยของบ้านแฟน ก่อนหนีไปเป็นแก๊งคอลฯ

โดย passamon_a

23 ก.ย. 2567

166 views

จากกรณี พลอย ดาวติ๊กต็อก สาวสวยหน้าตาดี ที่แอบย่องเข้าไปฉกเอาทรัพย์สินในบ้านอดีตแฟนหนุ่ม มูลค่ากว่า 330,000 บาท เมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ล่าสุดถูกรวบตัวได้แล้ว ที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง จ.สระแก้ว ซึ่งเจ้าตัวเปิดเผยเรื่องราวสุดดราม่าระหว่างหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ไปทำงานเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์กว่า 3 ที่ ซ้ำร้ายยังถูกบอสชาวไทยบีบบังคับให้เป็นเมียน้อย


เมื่อวันที่ 21 ก.ย.67 ตำรวจสืบนครบาล สนธิกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำกำลังไปจับกุม น.ส.พลอยณภัทร หรือ พลอย อายุ 21 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรี ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ, ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ จับกุมตัวได้ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว


โดย น.ส.พลอย เป็นดาวติ๊กต็อก สาวสวยหน้าตาดี แต่มีพฤติกรรมลักขโมยทรัพย์สินที่บ้านของชายหนุ่มที่มีความสัมพันธ์ด้วย เหตุเกิดเมื่อปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ต่อมาวันที่ 10 กันยายน 2567 พนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ ได้ออกหมายจับ น.ส.พลอย ในข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน สถานที่ราชการ, ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์


แต่ น.ส.พลอย หลบหนีการจับกุมและหายตัวไป จนกระทั่งวันที่ 21 กันยายน 2567 เวลา 11.30 น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้ส่งชุดสืบนครบาล นำโดยสารวัตรแจ๊ะ ตำรวจภูธรจังหวัดสระแก้ว และ ตม.จว.สระแก้ว จับกุมตัวได้ที่อาคารผู้โดยสารขาเข้า จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก ต.อรัญประเทศ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว


ในชั้นจับกุม น.ส.พลอย ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า ประสบปัญหาทางการเงินอย่างหนัก เนื่องจากติดพนันออนไลน์ (ปั่นสล็อต) และไม่สามารถยืมเงินของนายต่อ แฟนหนุ่มได้ เนื่องจากตอนนั้นนายต่ออยู่ที่ปอยเปต กำลังเข้าไปเปิดบัญชีม้า และคอยสแกนหน้าให้กับกลุ่มมิจฉาชีพอยู่ ตนจึงตัดสินใจเข้าไปขโมยทรัพย์สินในบ้านของแฟนหนุ่ม โดยได้ทรัพย์สินไปประมาณ 60,000 บาท จากนั้นได้หลบหนี โดยติดต่อไปที่บัญชีติ๊กต็อกหนึ่ง ที่รับสมัครไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์


โดยมีรายละเอียดว่า หากไปทำงานแล้วจะได้เงินเดือน เดือนละ 25,000 บาท และยังมีเงินพิเศษรายวันหากทำยอดหลอกลวงแตะตามเป้าหมายที่วางไว้ เริ่มต้น 5% ของเงินที่หลอกได้/รายวัน, 7% ของเงินที่หลอกได้/รายเดือน โดยมีเงินขั้นต่ำ 50,000-100,000 บาท แต่หากทั้งเดือนหลอกได้ไม่ถึง 50,000 บาท จะไม่ได้รับเงินเดือนเลย


ตนเห็นรายละเอียดแล้วสนใจจึงตัดสินใจข้ามไปเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยข้ามประเทศด้วยการใช้เส้นทางธรรมชาติ เมื่อข้ามไปถึงฝั่งประเทศเพื่อนบ้านได้มีคนมารับพาไปและเข้าทำงานที่ชั้น 12 ของอาคาร 25 ชั้น โดยจะทำงานเป็นคอลเซ็นเตอร์รูปแบบหลอกให้รัก แล้วชวนทำภารกิจดันสินค้าซึ่งไม่มีจริง โดยหัวหน้าจะให้สร้างโปรไฟล์เฟซบุ๊ก และไลน์ตีสนิทกับเหยื่อก่อนประมาณ 15 วัน เมื่อเหยื่อหลงรักเราแล้วก็จะค่อย ๆ ชักชวนให้เข้ากลุ่มไลน์ ซึ่งไลน์อวตารอีก 4 ตัว เป็นหน้าม้า และมีการทำสลิปโอนเงินปลอมเพื่อล่อใจเหยื่อให้ทำภารกิจดันสินค้านี้


โดยระหว่างที่อยู่ที่ตึก 25 ชั้นนี้ มีเหยื่อที่หลงเชื่อและเริ่มคุยกับตนแล้วประมาณ 10 คน หลังจากตนทำงานได้เพียง 1 สัปดาห์ คดีของตนก็เกิดเป็นข่าวขึ้น ทำให้บอสชาวจีนย้ายตนไปหลบอยู่อีกออฟฟิศหนึ่งทันที ซึ่งเป็นตึก 4 ชั้นในซอยวัดใหม่ โดยเมื่อทำงานที่นี่เป็นรูปแบบการหลอกลวงลักษณะเดียวกับที่แรก แต่เปลี่ยนตัวสินค้าที่ให้เหยื่อทำภารกิจ โดยที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แห่งที่ 2 นี้ ตนใช้เฟซบุ๊กอวตาร ชื่อ ก้อย แค่ตัวเดียว ได้ลูกค้าที่พูดคุยด้วยประมาณ 20 กว่าคน และมีผู้หลงเชื่อให้หลอกจำนวน 1 คน เป็นเงิน 25,000 บาท แต่ตนเห็นคนเก่ง ๆ ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์นี้ สามารถหลอกลวงพยาบาลสาวได้เป็นเงิน 5,000,000 บาท ตนจึงพยายามตั้งใจทำงานมากขึ้น หวังจะได้เงินเยอะ ๆ


แต่เมื่อทำงานไปได้ระยะหนึ่งก็ประสบปัญหา โดยบอสของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นชาวไทย ชื่อ นายแสบ ได้เข้ามาตีสนิทและบีบบังคับให้ตนเองเป็นเมียน้อย โดยจะให้เงินเดือนเดือนละ 30,000 บาท โดยที่ไม่ต้องทำอะไรเลย แต่ตนได้ปฏิเสธจึงถูกไล่ออกทันที ซึ่งหลังถูกไล่ออกตนก็ได้ไปเข้าทำงานที่แก๊งคอลเซ็นเตอร์แห่งที่ 3 ซึ่งเรียกกันว่า หลังบ่อตกปลา โดยการหลอกจะเป็นรูปแบบคล้ายเดิม คือหลอกให้รักแล้วชวนลงทุนเทรดหุ้นในแพลตฟอร์มเก๊ ซึ่งท้ายสุดเหยื่อจะถอนเงินออกไม่ได้


ซึ่งทำงานได้เพียง 3 วัน นายต่อ แฟนที่เป็นคู่กรณี ก็ทักมาบอกว่า สารวัตรแจ๊ะจะไปตามจับ ให้หลบหนี ซึ่งถัดมาเพียง 2 วัน ก็มีตำรวจมาจับกุมตนจริง ๆ ระหว่างเดินทางไปทำงาน โดยช่วงชีวิตที่ผ่านมา 2 เดือนนี้ ตนรู้สึกได้ว่าถลำลึกไปมาก โดยตอนแรกคิดเพียงว่าจะไปหาเงินสักก้อนหนึ่งเพื่อนำกลับมาชดใช้หนี้พนัน ไม่คิดว่าชีวิตจะถลำลึกถึงเพียงนี้ อยากให้ชีวิตตนเป็นอุทาหรณ์ให้กับสังคม ส่วนปัญหาเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์นั้น ตนคิดว่าคงแก้ไม่ได้ เพราะรายได้ดี อย่างไรก็ล่อตาล่อใจให้คนมาทำได้ง่าย ๆ


พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า ในส่วนคดีลักทรัพย์ จากการสืบสวนพบว่า ผู้ต้องหามีพฤติกรรมติดการพนันออนไลน์ ซึ่งเป็นสาเหตุหลักในการตัดสินใจก่อเหตุ โดยในชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.นิมิตรใหม่ ดำเนินคดี แต่ที่จะต้องมีการขยายผลต่อไปคือ เรื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งจากการสืบสวนติดตามตัวห้วงที่ผ่านมา พบข้อมูลพยานหลักฐานสอดคล้องกับเหตุการณ์ที่ผู้ต้องหาให้ข้อมูลจริง ซึ่งเป็นที่น่าตกใจเมื่อพบว่าธุรกิจแก๊งคอลเซ็นเตอร์ได้เติบโตและระบาดในประเทศเพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/MJNr4Z_SHvE

คุณอาจสนใจ

Related News