สังคม

ครอบครัวเหยื่อไฟดูดบุกโรงพัก แจ้งความหน่วยงานเจ้าของเสาไฟฟ้า ผ่านมา​ 1​ เดือนไร้การเยียวยา

โดย nicharee_m

18 ต.ค. 2565

264 views

ยังไม่จบ! ทนายโนบิ พาเหยื่อและผู้เสียหาย 6 ครอบครัวที่ถูกไฟดูดน้ำท่วมเมืองอุดรเมื่อ 1 เดือนที่ผ่านมา บุกโรงพักแจ้งความหาบุคคลหรือหน่วยงานรับผิดชอบทำให้ตกเป็นเหยื่อ ฐานความผิดประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ขณะที่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อดังใน จ.อุดรธานี ยังงง! เงินช่วยเหลือน้องบาสฮีโร่ 10,000 ยังไม่ถึงมือ ฝากถึงน้องบาสติดต่อกลับมาจะโอนให้ใหม่

วันนี้​ (18​ ต.ค.65) ที่ สภ.เมืองอุดรธานี ทนายโน​บิ​ หรือนาย​กฤษฎา​ โลหิต​ดี​ พร้อมด้วยเฮียเปี๊ยก​ นายภาณุมาศ​ จิตรวสินกุลเจ้าของเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ได้พา​นายอรรคชัย อาจอุดม หรือน้องบาส อายุ 20 ปี​ นาวสาวสุภารัตน์​ ภูเหมือน​บุคร ฮีโร่ช่วยเด็กจมน้ำ และ นางสมถวิล เมืองณศรี อายุ 64 ปี ยายของน้องเรดิโอ​ และครอบครัวของผู้ประสบเหตุทุกคน ได้เดินทางมาร้องทุกข์กล่าวโทษให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอุดรธานีดำเนินคดีสอบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริงกรณีที่ไฟฟ้ารั่วจนทำให้ประชาชนได้รับอันตรายสาหัส​

ด้านทนายโนบิให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ทนายโนบิ​ น้องบาส​ น้องเอ๋และครอบครัวของผู้ประสบเหตุทุกคนประสานขอความช่วยเหลือมายังตนผ่านทางเพจเฮียเปี๊ยกช่วยด้วย ว่าอยากให้ช่วยเหลือทางคดีความหลังผ่านมา​ 1​ เดือนยังไม่ได้รับการเยียวยาจากหน่วยงานเจ้าของเสาไฟฟ้าแต่อย่างใด​ และคดีความยังไม่มีความคืบหน้าว่าจะไปในทิศทางไหน

ตนเองในฐานะทนายความจึงได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและกรณีที่เกิดขึ้นว่า กรณีดังกล่าว​ ต้องแยกเป็น 2 ส่วนคือส่วนที่ 1 เป็นความผิดทางอาญาและส่วนที่ 2 เป็นการละเมิดทางแพ่ง ส่วนความผิดอาญานั้นเป็นความผิดฐานประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐหรือหน่วยงานของรัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลโดยตรง​ จะต้องเป็นผู้รับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญา​

แต่ในกรณีที่ยังไม่มีการร้องทุกข์กล่าวโทษให้ดำเนินคดีจะต้องมีการร้องทุกข์กล่าวโทษ​เสียก่อน​ ตนจึงได้พาครอบครัวของผู้ประสบเหตุ​ มาร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีและมีการสอบสวนสืบสวนตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป​

ส่วนน้องบาส​ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวของเราว่า​ ผมไม่อยากให้กรณีที่เกิดขึ้นกับผมต้องไปเกิดขึ้นกับคนอื่นอีกและอยากให้หน่วยงานหรือผู้ที่มีหน้าที่ตรวจสอบดูแลเสาไฟฟ้าและสายไฟได้มีการตรวจสอบบำรุงรักษาให้ดีเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นกับพี่น้องชาวจังหวัดอุดรธานี​อีก ถ้าหากไม่เกิดขึ้นกับตัวเองก็คงไม่รู้ว่าเรื่องราวดังกล่าวมันอันตรายแค่ไหน อยากให้ผู้หลักผู้ใหญ่หรือผู้ที่มีหน้าที่ดูแลด้านนี้ตรวจสอบอุปกรณ์ทั้งสายไฟเสาไฟที่อยู่ในพื้นที่ให้พร้อมใช้งานและไม่เกิดอันตรายกับประชาชน

ด้านน้องเอ๋​ ฮีโร่​ อีกคนก็​เห็นด้วยกับน้องบาสที่อยากจะให้เคสนี้เป็นกรณีศึกษา​ให้เจ้าหน้าที่ทั้งผู้หลักผู้ใหญ่ที่มีหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า ในตัวเมืองอุดรธานีได้หมั่นดูแลและบำรุงรักษา​ รักษาระบบไฟฟ้าให้ใช้งานได้ปกติไม่ก่อเกิดอันตรายแก่ประชาชน​ โดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกน้ำท่วมขัง

ด้านนางสมถวิลฯ​ คุณยายของน้องเรดิโอได้ระบายความรู้สึกกับผู้สื่อข่าวว่ากว่า 1 เดือนที่ผ่านมายังไม่มีการเข้ามาดูแลหรือเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับการรับผิดชอบ​กับทางครอบครัวผู้ประสบเหตุอย่างเป็นทางการ​ ดังนั้นวันนี้ นางสมถวินฯ​ ในฐานะผู้ปกครอ นางสาวจิดาภา​ เปรมปี  หรือ น้องเรดิโอ นักเรียนชั้น ม.3 โรงเรียนสตรีราชินูทิศ พร้อมกับครอบครัว​ผู้ประสบเหตุ​ทุกคน​ จึงเดินทางเข้ามาร้องทุกข์กล่าวโทษเพื่อให้มีการสอบสวนสืบสวนเกี่ยวกับข้อเท็จจริง ทำให้เรื่องนี้เป็น​กรณีศึกษา​ เพื่อให้มีการระมัดระวังตรวจสอบ​ บำรุงรักษาอุปกรณ์ไฟฟ้าในพื้นที่ตัวเมืองอุดรให้ใช้งานได้ดีไม่ควรมีปัญหาโดยเฉพาะเวลาที่ฝนตกน้ำท่วมลูกหลานที่อาศัยอยู่และไปโรงเรียนจะได้ปลอดภัยไม่เป็นอันตรายเหมือนกรณีหลานของตัวเอง​ เพราะถ้าหากว่าหลานตัวเองเสียชีวิตไปคงจะทำให้ครอบครัวเสียใจอย่างมาก ดังนั้นกรณีนี้ควรเป็นกรณีศึกษา​และไม่ควรให้เกิดขึ้นอีก​ ไม่ว่ากับครอบครัวหรือลูกหลานใครๆ ทั้งสิ้น

ภายหลังน้องบาสน้องเอ๋และครอบครัวของผู้ประสบเหตุทุกคนได้ร้องทุกข์กล่าวโทษกับทางพนักงานสอบสวนแล้วจึงได้เดิน ยังสำนักงานเทศบาลนครอุดรธานีตำบลหมากแข้งอำเภอเมืองจังหวัดอุดรธานี เพื่อติดตามความคืบหน้สเกี่ยวกับผลการสอบสวนของทางเทศบาล​และหารือถึงแนวทางการเยียวยา​ผู้ประสบเหตุและครอบครัว​

ซึ่งทางทนายโนบิตะ​ และครอบครัวของผู้ประสบเหตุได้เข้าไปพบกับทางนายกเทศมนตรีนครอุดรธานีในห้องประชุมก่อนที่จะมีการพูดคุยหารือกันกว่า 1 ชั่วโมง​


คุณอาจสนใจ