สังคม

หนุ่มสติแตกวิ่งฝ่ากองเพลิง รับไม่ได้บ้านไฟไหม้วอดทั้งหลัง โชคดีชาวบ้านช่วยทัน

โดย nicharee_m

1 ต.ค. 2565

276 views

ระทึกหนุ่มคลั่งวิ่งฝ่ากองเพลิงเข้าบ้านตัวเอง ชาวบ้านช่วยทันก่อนวอดทั้งหลัง

วันที่ 1 ตุลาคม 2565 เวลา 02.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งครุ รับแจ้งเหตุทางสายด่วน 199 มีเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน ภายในซอยประชาอุทิศ 56 จึงเร่งรุดจัดกำลัง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยทุ่งครุ และราษฎร์บูรณะ รวมทั้งอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เขตทุ่งครุ และราษฎร์บูรณะ, อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เร่งรัดจัดกำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และอาสาสมัคร มาถึงที่เกิดเหตุพบแสงเพลิงและกลุ่มควันพวยพุ่งออกมาเป็นจำนวนมากจากบ้านเลขที่ 48 ซอยประชาอุทิศ 56 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร เป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้น แสงเพลิงและกลุ่มควันเกิดขึ้นบริเวณชั้นล่างของตัวบ้าน และลุกลามอย่างรวดเร็วจนกระทั่งขึ้นสู่บนชั้นที่ 2 และลามไปติดบ้านข้างเคียงเป็นบ้านเลขที่ 46 ซึ่งเป็นลักษณะบ้านไม้ 2 ชั้นปลูกติดกัน 2 หลังโดยใช้บ้านเลขที่เดียวกันจึงโดนผลกระทบไปด้วย เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และอาสาสมัครจึงเร่งรัดจัดวางหัวฉีดและทำการระดมฉีดน้ำเพื่อระงับเหตุใช้เวลาทั้งสิ้นกว่า 1 ชั่วโมงจึงทำการระงับเหตุได้

ตรวจสอบแล้วมีบ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหายทั้งหมด 3 หลัง บนเนื้อที่ 20 ตารางวา เบื้องต้นซอยดังกล่าวเป็นซอยคับแคบรถดับเพลิงขนาดใหญ่เข้าไม่ถึงที่เกิดเหตุต้องใช้เครื่องหาบหามเข้าไปอย่างทุลักทุเล และที่เกิดเหตุเป็นลักษณะบ้านไม้เก่าปลูกติดกันหลายหลังและยังเป็นเชื้อเพลิงอย่างดีอีกด้วย แต่อย่างไรแล้วจากเหตุการณ์ดังกล่าวไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต ส่วนสาเหตุของการณ์เกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต้องรอผลจากการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้งจากเจ้าหน้าที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป




จากการสอบถาม นาย ชวลิต มะสะพันธ์ อายุ 66 ปี บอกว่า ตนนอนอยู่ในห้อง ได้กลิ่นเหม็นไหม้จึงรีบลุกขึ้นมามองหา ก็เห็นไฟไหม้มาจากหลังห้องตน จึงรีบปลุกญาติพี่น้องขึ้นมาช่วยกันดับ ละแวกนี้เป็นญาติพี่น้องกันหมด ส่วนบ้านที่ไหม้ ไม่มีคนอยู่บ้านเลย ไปต่างจังหวัดกันหมด

ส่วนทางนาย ทัศยุ เย็นฉิม อายุ 16 ปี บอกว่า ตนนอนอยู่แล้ว มีคนมาเคาะประตูบอกว่าไฟไหม้ ตนจึงลุกขึ้นไปดูและช่วยกันดับไฟ แต่ก็เอาไม่อยู่ ส่วนบ้านที่ไฟไหม้เป็นบ้านที่ไม่มีใครอยู่ ไปต่างจังหวัดกัน แล้วก็มีลูกเจ้าของบ้านอีกหลังที่ไหม้เค้าโมโหว่าไฟไหม้บ้านเค้า เค้าเลยจะวิ่งเข้าไปในบ้าน แต่ตัวเค้าพักอีกหลังนึง คือที่ตรงนี้ เป็นที่พี่น้องกัน เป็นครอบครัวใหญ่ ญาติกันหมด

และพันตรี อดิเรก เบ็ญการีม อายุ 42 ปี น้องเขยเจ้าของบ้านที่ไฟไหม้ บอกว่า มีคนมาเรียกตนบอกว่าไฟไหม้ตนก็รีบออกมาดู ก็เป็นบ้านหลังที่ไม่มีคนอยู่ เป็นบ้านไม้ ไปต่างจังหวัดกัน แต่เค้าสับคัตเอ้าท์ไว้ แล้วก็มีอีกหลังนึงข้างหลัง เค้าเพิ่งต่อเติมบ้าน มี 2 ครอบครัว แต่ไม่รู้สับคัตเอ้าท์ไว้หรือเปล่า

แล้วทางคุณดา อายุ 42 ปี อยู่ข้างบ้านไฟไหม้บอกว่า พอตนรู้ว่าไฟไหม้ ก็รีบออกมาดู ก็เห็นไฟไหม้แดงแล้ว ที่ชั้นล่าง ก็ช่วยกันดับไม่อยู่แล้ว เห็นก็รีบเข็นรถมอไซค์ออกมาไว้ข้างนอก เจ้าของบ้านไม่มีใครอยู่ เด็กปิดเทอมเลยพากันกลับต่างจังหวัด ไปได้ 3-4 วันแล้ว เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น เป็นไม้เก่า แถวนี้ก็เป็นบ้านพี่ป้าน้าอา ญาติกันทั้งนั้น



จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เกิดมีชายหนุ่มคนหนึ่งคุ้มคลั่งพยายามวิ่งเข้าไปในตัวบ้านของตนเองเหตุเพราะรับไม่ได้กับภาพเหตุการณ์ที่บ้านของตนเองกำลังจะถูกไฟไหม้ ชาวบ้านต่างวิ่งกันเข้าไปช่วยฉุดกระชากลากถูหนุ่มรายดังกล่าวออกมาจากตัวบ้านได้ทัน ก่อนที่บ้านทั้งหลังจะถูกไฟไหม้เป็นเถ้าธุรีไปอย่างหวุดหวิดส่วนชายหนุ่มคนดังกล่าวเมื่อชาวบ้านช่วยออกมาได้ก็เดินหายไปภายในความมืด คาดว่าจะหลบไปสงบสติอารมณ์ที่ไหนสักแห่ง

ส่วนเบื้องต้นบ้านต้นเพลิงดังกล่าวตอนเกิดเหตุไม่มีผู้พักอาศัยอยู่ชาวบ้านบริเวณดังกล่าวบอกว่ากลับต่างจังหวัดกันหมด ส่วนสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้ในครั้งนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่สรุปผลต้องรอเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียดอีกครั้งในช่วงเช้าของวันนี้ และจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป


คุณอาจสนใจ