เจอแล้วตัวกินแมว! ที่แท้ฝีมือ ‘ไอ้เหลือม’ โผล่ซุกท่อระบายน้ำวัด

วันที่ 21 กันยายน 2565 เวลา 16.00 น. อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) เขตราษฎร์บูรณะ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุกู้ชีพบูรณะ (โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ ) มีเหตุงูเหลือมขนาดใหญ่เข้าไปภายในวัดหลวงพ่อโอภาษี จึงรีบจัดกำลังพร้อมเตรียมชุดอุปกรณ์การจับสัตว์เลื้อยคลานเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที


เมื่ออาสาสมัครมาถึงที่เกิดเหตุพบว่าที่เกิดเหตุอยู่ภายในวัดหลวงพ่อโอภาษี ถนนพุทธบูชา เขตทุ่งครุ กรุงเทพมฯ จึงจัดอุปกรณ์เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันทีพบจุดเกิดเหตุภายในท่อระบายน้ำ ใต้ศาลเจ้าฮกลกซิ่ว ติดกับทางเข้าประตู 2  สังเกตุเห็นงูเหลือมขนาดใหญ่ความยาวกว่า 5 เมตร อยู่ภายในท่อระบายน้ำ อาสาสมัครจึงใช้อุปกรณ์ช่วยจับอยู่นานจนกระทั่งงูเหลือมตัวดังกล่าวหลบเข้าไปอยู่จนลึก อาสาสมัครพร้อมพระลูกวัดและประชาชน ช่วยกันขุดเพื่อเปิดท่อระบายน้ำดังกล่าว เป็นไปด้วยความทุลักทุเล เพราะระหว่างขุดหลุมเพื่อเปิดปากท่อระบายน้ำดังกล่าว ได้เกิดมีทั้งลมและฝนตกลงมาอย่างหนัก จึงทำให้การทำงานของอาสาสมัครเป็นไปด้วยความยากลำบาก กว่าจะจับงูเหลือมตัวดังกล่าวได้จึงใช้เวลาไปกว่า 2 ชั่วโมงถึงดำเนินการจับได้เป็นผลสำเร็จแล้วนำใส่กระสอบเพื่อไปปล่อยคืนสู่ธรรมชาติที่ห่างไกลบ้านเรือนประชาชนต่อไป


จากการสอบถาม พระศิริชัย ปสาโท เป็นพระลูกวัดหลวงพ่อโอภาษี บวช 6 พรรษา บอกว่า ตนทราบเรื่องว่ามีประชาชนมาทำบุญไหว้พระ และขึ้นมาไหว้ศาลพอลงมาก็มองเห็นงูอยู่ในท่อใต้ศาลจึงเดินไปบอกกับเจ้าหน้าที่ของวัดก็เลยแจ้งทางอาสาให้มาช่วยกันจับ เมื่อก่อนก็เคยเห็นงูนะ แต่ไม่ใหญ่ขนาดนี้ ส่วนมากจะเห็นมันว่ายอยู่ในน้ำมากกว่า ไม่ได้เข้ามาอยู่ตามท่อแบบนี้ แต่ช่วงนี้รู้สึกว่า จะได้ยินมาว่าแมวของชาวบ้านและแมวภายในวัดหายกันบ่อย ก็ไม่คิดว่าจะเป็นงูเอาไปกิน แต่พอมาเจอแบบนี้แล้ว คิดว่าน่าจะใช่เจ้าตัวนี้แหละ


ด้านประชาชนที่อยู่บริเวณแถววัดบอกเล่าว่า ตนรู้ว่ามีงูใหญ่อยู่ตรงนี้ตอนที่มีคนเข้ามาทำบุญไหว้พระตรงศาลแห่งนี้พอดีแล้วเขาก็เห็นก็เลยไปบอกกับเจ้าหน้าที่ของวัดส่วนตนพอได้ยินก็เลยมาดูเพราะอยากเห็นปกติไม่ค่อยมีงูใหญ่ขนาดนี้เข้ามาภายในวัดนะ จะมีก็แต่ช่วงนี้ที่สังเกตุเห็นว่าแมวภายในวัดหายไปอยู่บ่อยๆ แต่พอมาเห็นงูตัวนี้แล้วก็ไม่สงสัยเลยมันน่าจะชัดเจนเลยว่างูตัวดังกล่าวมากินแมวภายในวัดแน่ๆ ส่วนตนนั้นพอเห็นงูตัวนี้ก็รู้สึกตกใจและกลัวมากอยากจะให้จับออกไปจากวัดเพราะเกรงว่าจะเป็นอันตรายต่อผู้ที่มาทำบุญกัน