สังคม

ริเป็นโจรแต่เด็ก! 'แก๊งหัวโต๋' ตระเวนงัดประตู ย่องขโมยของตามโรงเรียนกลางดึก

โดย panisa_p

8 ก.ย. 2565

63 views

ภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งหน้าร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลวังชัย อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น บันทึกภาพชายวัยรุ่น อายุประมาณ 11 - 13 ปี ใช่ไม้ทุบที่กล้องวงจรปิดจนเสียหาย ทำให้ไม่สามารถบันทึกภาพได้ ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญที่คณะครูและอาจารย์นำไปเป็นหลักฐานในการแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรน้ำพอง เพื่อเอาผิด


หลังพบว่ามีคนร้ายไม่ทราบจำนวนงัดประตูเข้ามาขโมยของภายในร้านค้าสหกรณ์ของโรงเรียน ซึ่งพบว่าสิ่งของได้หายไปจำนวนมาก ทั้งข้าวสาร 1 ถุง น้ำหนักประมาณ 10 กิโลกรัม นมสด ผงชูรส น้ำมันพืช ขนมและอื่น ๆ รวมมูลค่าประมาณกว่า 2,400 บาท เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.วันที่ 5 กันยายน 2565


ซึ่งก่อนหน้านี้ ในกลางดึกวันที่ 4 กันยายน 2565 ที่โรงเรียนอีกแห่งหนึ่ในตำบลกนองกุง อำเภอน้ำพอง ก็ถูกคนร้ายเข้ามางัดหน้าต่างบานเลื่อนที่ห้องพักครู รื้อค้นทรัพย์สินขโมยสิ่งของ ได้สายชาร์จโทรศัพท์มือถือ แบตเตอรีสำรองและเงินสดในลิ้นชัก 300 บาท จากนั้นตรงไปที่ด้านหลังร้านค้าสหกรณ์โรงเรียน เพื่อหลบรัศมีกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งด้านหน้าร้านค้า


แล้วใช้อุปกรณ์ตัดเหล็กดัดหน้าต่าง ดึงกระจกบานเกล็ดมุดเข้าไปขโมยสิ่งของภายในร้านค้า สำรวจพบว่ามีถุงเท้านักเรียน หน้ากากอนามัย ปากกา แก้วน้ำ ขนมและเครื่องดื่มหายไป จึงเข้าแจ้งความที่ สภ.น้ำพองเพื่อให้ติดตามตัวคนร้าย จนกระทั่งพบว่าคนร้ายเป็นเด็กวัยรุ่นอายุ 11-13 ปีกลุ่มเดียวกับที่เข้าไปขโมยของที่โรงเรียนอีกแห่ง


นายฉัตรชัย โลหะมาตย์ กำนันตำบลหนองกุง อ.น้ำพอง เล่าว่า เมื่อกลางดึกวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา มีผู้บริหารโรงเรียนแห่งหนึ่งโทรศัพท์เพื่อขอความช่วยเหลือ หลังพบว่ากล้องวงจรปิดของทางโรงเรียนถูกทำลายและร้านค้าสหกรณ์โรงเรียนยังถูกงัดเข้าไปขโมยสิ่งของ จึงไปยังจุดเกิดเหตุพร้อมเปิดดูกล้องวงจรปิด ที่บันทึกภาพของวัยรุ่นคนหนึ่ง ก่อนที่จะทำลายกล้องจนได้เบาะแส


สืบจนทราบว่าผู้ก่อเหตุเป็นเยาวชน อายุ 11 - 13 ปี ใช้ชื่อ “แก๊งหัวโต๋” เกิดคึกคะนองตระเวนงัดร้านค้าสหกรณ์ในโรงเรียนหลายแห่ง จึงตามไปจุดรวมตัว พบกำลังนั่งกินขนมที่ขโมยมาอย่างสบายใจ จึงได้เชิญผู้ปกครองมาพูดคุยและแจ้งว่าเด็กในความปกครองกระทำผิด


ซึ่งเยาวชนที่ก่อนเหตุทั้งหมดรับสารภาพว่า กระทำจริงและทำมานานนับปีแล้ว เนื่องจากเป็นเยาวชนจึงส่งตัวทั้งหมดดำเนินคดีตามกฎหมาย และจากนี้จะร่วมพูดคุยหารือกันหลายฝ่ายทั้งผู้ปกครอง เยาวชน ตำรวจ ฝ่ายปกครองหาทางออกอย่างจริงจังเพื่อไม่ให้เยาวชนเหล่านี้กระทำผิดซ้ำอีกต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News