สังคม

ชาวบ้านสุดทน! หนุ่มหลอนจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ลุกลามวอด 3 หลัง วอนเจ้าหน้าที่นำตัวไปรักษา

โดย panisa_p

12 ส.ค. 2565

95 views

จากกรณีเมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 6 ส.ค.2565 เกิดเหตุเพลิงไหม้บ้านเรือนประชาชน 3 หลัง พื้นที่บ้านใหญ่แม่เอีย ม.10 ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น โดยเป็นการจุดไฟวางเพลิงบ้านตัวเอง ซึ่งเป็นบ้านของนายมณีวัฒน์ บ้านเลขที่ 120 ม.10 พักอาศัยอยู่ตามลำพัง เป็นคนจุดไฟเผาบ้านตัวเอง ก่อนจะลุกลามไปยังบ้านของนายเงิน เลขที่ 118 ม.10 ต.เมืองพล มีผู้อาศัย 5 คน และลุกลามไปยังบ้านหลังที่ 3 ของนายหนู เลขที่ 119 ม.10 ต.เมืองพล มีผู้อาศัย 5 คน โดยไฟได้ลุกไหม้บ้านทั้ง 3 หลังจนวอด และเสียหายเล็กน้อยอีก 2 หลัง


ล่าสุดเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 12 ส.ค.2565 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังที่เกิดเหตุ พบว่าทางหมู่บ้านได้มีการตั้งกองอำนวยการและจุดรับบริจาคผู้ประสบเหตุอัคคีภัย บ้านหันใหญ่แม่เอีย หมู่ 10 ต.เมืองพล อ.พล จ.ขอนแก่น และเปิดบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือบ้านที่ได้รับความเสียหายจากเหตุไฟไหม้ ซึ่งทางผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และ ส.อบต.เมืองพล ได้ทำการเปิดบัญชีร่วมกัน เป็นบัญชีธนาคารกรุงศรี หมายเลขบัญชี 781-1-08106-4 โดยมีหน่วยงานต่างๆและผู้ใจบุญช่วยกันบริจาคเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับผู้เสียหาย


ขณะที่นายณรงค์ วงษ์หาแก้ว นายกอบต.เมืองพล พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่มาพบกับเจ้าของบ้านที่ถูกไฟไหม้ลุกลามมาจนวอดทั้งหลัง พบกับนายหนู กุลวงศ์ เจ้าของบ้านหลังที่ 2 และนางกองแก้ว จ่าบาว อายุ 61 ปี เจ้าของบ้านหลังที่ 3 และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนจำนวน 3,800 บาท และข้าวสารอาหารแห้ง พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่ของ อบต.เมืองพล คอยสับเปลี่ยนกันมาช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ในด้านการอำนวยความสะดวกด้วย


นายณรงค์ วงษ์หาแก้ว นายกอบต.เมืองพล พาผู้สื่อข่าวดูจุดที่เกิดไฟไหม้ โดยพบว่าขณะนี้มีชาวบ้านเข้ามาช่วยกันรื้อถอนซากไม้ที่ถูกไฟไหม้ออกจากพื้นที่ไป โดยจากเมื่อก่อนจะมีบ้าน สองชั้น 3 หลัง ตั้งอยู่เรียงกัน แต่ปัจจุบันนั้นหายไปไม่หลงเหลือเศษซากแล้ว ส่วนผู้พักอาศัยอยู่ในบ้านทั้ง 2 หลังที่ได้รับความเสียหายจากไฟที่ลุกลามเข้ามาไหว้บ้านนั้นต้องไปพักอาศัยอยู่กับญาติพี่น้องไปก่อน


โดยนายก อบต. เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ช่วงวันเกิดเหตุนั้น ทุกคนในหมู่บ้านมาร่วมงานศพที่วัด โดยตนเองได้มาร่วมงานด้วยเช่นกัน ซึ่งขณะที่ทุกคนอยู่ที่วัดร่วมพิธี ตนเองได้รับโทรศัพท์จากชาวบ้านแจ้งว่าเกิดไฟไหม้ ตนเองเข้ามาเห็นไฟกำลังลุกไหม้ที่บ้านหลังแรก ตนเองได้บอกชาวบ้านมาช่วยกันนำน้ำมาดับไฟ และประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งไลฟ์สดเพื่อจะให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้เห็นและเข้ามาช่วยเหลือ


ในขณะที่ตนเองเข้าไปสำรวจนั้น พบว่ามีผู้สูงอายุเจ้าของบ้านจะย้อนกลับเข้าไปในบ้านเพราะเป็นห่วงเสื้อผ้า เลขาตนเองจึงดึงออกมาเพื่อไม่ให้ได้รับอันตราย ส่วนตนเองพยายามช่วยขนของมีค่าออกจากบ้านก่อนที่ไฟจะลุกลามมาบ้านหลังที่ 2 และก็คว้าเอาโทรทัศน์และเครื่องซักผ้าออกมาได้เพียง 2 อย่างเท่านั้น ไฟก็ลุกลามมาหลังที่ 2 และ 3 อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจากหน่วยงานต่าง ๆ จะระดมน้ำฉีดสกัดเปลวไฟเอาไว้ได้ โดยใช้เวลาประมาณกว่า 1 ชั่วโมงจึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ในวงจำกัดได้


จากการสอบถาม นายหนู เจ้าของบ้านหลังที่ 2 กล่าวว่า ขณะนั้นตนเองทำนาไม่ได้อยู่บ้าน พอตนเองกลับมาถึงพบว่าไฟได้ไหม้บ้านวอดไปหมดแล้ว และสาเหตุมาจากชายที่อยู่ข้างบ้าน มีประวัติยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด เผาบ้านตัวเองแล้วลุกลามมาบ้านตนเองและบ้านข้างเคียงอีกหลัง ชาวบ้านกลับมาจากงานศพช่วยกันเอาน้ำมาดับไฟช่วยกันไว้ทัน


ส่วนคนก่อเหตุหลังจากวางเพลิงเสร็จไปอยู่บนกำแพงกระดิกขาหัวเราะสบายใจ ไม่รู้สึกรู้สา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเอาตัวไป โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 4 ส.ค.65 ที่ผ่านมานายมณีวัฒน์ จุดไฟเผาบ้านตัวเองแล้วครั้งหนึ่ง แต่ชาวบ้านเห็นทันโทรแจ้งตำรวจมาจับเอาตัวไปแต่คุมตัวไว้ 2 วันก็ปล่อยกลับมา เพราะไม่มีเจ้าทุกข์แจ้งความเอาผิด เป็นการเผาทรัพย์ตัวเอง


พอปล่อยตัวออกมาวันที่ 6 ส.ค.265 ก็ก่อเหตุเผาบ้านในครั้งนี้ทันที ส่วนตัวอยากให้ตำรวจจับไปนาน ขังคุกตลอดชีวิตยิ่งดี เพราะออกมาก็กลับมาก่อเหตุอีกครั้งอย่างแน่นอน ไม่เชื่อว่านายมณีวัฒน์จะสามารถกลับตัวกลับใจได้ ตอนนี้ท้อใจอยากมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กว่าจะหามาได้ทั้งชีวิตมีแค่นี้


ตอนนี้ก็อายุมากแล้วไม่รู้ว่าจะหามาได้เหมือนเดิมไหม บ้านหลังนี้เหมือนเป็นทรัพย์สินมีค่าเพียงชิ้นเดียวของครอบครัว บ้านคือทุกสิ่งทุกอย่าง ตอนนี้ไฟไหม้ไปจนหมดไม่เหลืออะไรสักอย่าง ตอนนี้ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อไป ตอนนี้มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้น อยากจะมีบ้านที่พักอาศัยเหมือนเดิม ตอนนี้ไม่มีเงินเหลือ เพราะทุกอย่างถูกไฟไหม้ไปหมดแล้ว

คุณอาจสนใจ

Related News