สังคม

ชื่นชมคนดี! พนักงานห้างเก็บกระเป๋าเงินเกือบครึ่งล้านส่งคืนเจ้าของ

โดย panisa_p

9 ส.ค. 2565

97 views

วันที่ 9 ส.ค. 65 นางสาวสุพัตรา ทาปลัด หัวหน้าแม่บ้านห้างสรรพสินค้าโรบินสันชัยภูมิ นางสาวมณฑิชา ยอดโจจน์ พนักงานท็อปมาเก็ตชัยภูมิ นายมงคล ลาชะเลา พนักงานท็อปมาเก็ต โรบินสันชัยภูมิ ร่วมกันหอบกระเป๋าถือสีดำข้างในบรรจุเงิน รวมจำนวน 450,000 บาท มามอบให้กับ พ.ต.ท ชัยวัฒน์ ใจสบาย รอง ผกก.สภ.เมืองชัยภูมิ เพื่อลงบันทึกประจำวันเป็นหลักฐาน พร้อมประกาศหาเจ้าของเงินตัวจริง มารับคืน


ขณะที่พลเมืองดีทั้ง 3 กำลังรองลงบันทึกประจำวัน ปรากฏว่านางนงรักษ์ เรียงบุญ ซึ่งเป็นเจ้าของกิจการรับซื้อไม้ยูคาลิปตัส พร้อมด้วยสาเข้ามายังโรงพัก พร้อมกับยกมือไหว้ขอบคุณพลเมืองดีทั้งสาม ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ


น.ส.สุพัตรา ทาปลัด หัวหน้าแม่บ้านห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เล่าว่าตนมีหน้าที่เก็บรถเข็นหลังจากที่ลูกค้าเข็นของขึ้นมาใส่ในรถก่อนเดินทางกลับบ้าน ขณะที่กำลังจะเก็บรถเข็นอยู่นั้น สายตาเหลือบไปเห็นรถเข็นจอดอยู่ริมฟุตปาธทนอกห้างสรรพสินค้า ภายในรถเข็นมีกระเป๋าสีดำหนึ่งใบ ตนจึงรีบเข้าไปตรวจสอบเปิดดูภายใน พบว่ามีธนบัตรจำนวนมาก ด้วยความตกใจจึงแจ้งแก่พนักงานที่เป็นเพื่อนกันจากนั้นทั้งสามคนก็ตัดสินใจนำกระเป๋าสตางค์มาแจ้งความที่โรงพักเพื่อคืนให้กับเจ้าของตัวจริงต่อไป


น.ส. สุพัตรา เล่าต่อว่าถึงแม้ตนจะมีเงินเดือนน้อย แต่ไม่คิดที่อยากจะได้ของคนอื่นมาเป็นของตนเอง ตรงกันข้ามกลับรู้สึกสงสารและห่วงความรู้สึกของเจ้าของเงินตัวจริงด้วย ด้านนางนงรักษ์ เรียงบุญ เจ้าของเงินตัวจริง ยอมรับว่ารู้สึกตกใจจนทำอะไรไม่ถูก เงินจำนวน 450,000 บาท พึ่งไปถอนมาจากธนาคาร เพื่อจะนำไปซื้อไม้ยูคาลิปตัส และจ่ายเป็นเงินเดือนของพนักงาน


ก่อนเดินทางกลับบ้านได้แวะห้างสรรพสินค้าโรบินสัน เพื่อซื้ออาหาร หลังจากที่ซื้อข้าวของเสร็จเรียบร้อยก็นำรถเข็นขนของเพื่อมาขึ้นรถยนต์ส่วนตัว จากนั้นก็ขับรถกลับถึงบ้าน หลังจากนำของลงจากรถจึงคิดได้ว่าตนเองได้ลืมกระเป๋าเงินไว้ที่รถเข็นของ ที่ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน จึงรีบขับรถกลับมา แต่ไม่พบกระเป๋าสตางค์ จึงเดินทางมาแจ้งความที่ สภ.เมืองชัยภูมิ


แต่ถือว่าโชคดีเป็นอย่างมากเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ หลังจากพบว่ามีพลเมืองดีได้นำกระเป๋ามารอแจ้งความไว้ที่โรงพักก่อนหน้าที่ตนเองจะเดินทางมาถึงแล้ว ตนจึงอยากจะขอบพระคุณพลเมืองดี และห้างสรรพสินค้าโรบินสันที่มีส่วนอบรมพนักงานให้มีคุณธรรม


จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ทั้งสองฝ่ายลงชื่อในบันทึกประจำวันเพื่อเป็นหลักฐานก่อนจะมอบเงินคืนเจ้าของตัวจริง โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสักขีพยาน

คุณอาจสนใจ

Related News